ใจร้าย! ล่า 2 โจรแสบอ้างตัวเป็นตำรวจเข้าชิงทรัพย์หนุ่มพิการ
พระนครศรีอยุธยา - ล่า 2 โจรแสบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ งก่อนชิงทรัพย์หนุ่มพิการ แม่เผยสงสารลูกมาก ทำมาหากินทั้งที่ร่างกายพิการ คนร้ายช่างใจร้ายนัก มือเท้าดีแท้ๆ ทำได้แม้คนพิการ
วันนี้ (19 ก.ย.) นายยุทธศักดิ์ ก๊กประเสริฐ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 9/3 หมู่ที่ 1 ตำบลบางเดื่อ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ภายในนิคมสหรัฐนคร ซึ่งเป็นผู้พิการทางร่างกาย กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเองได้เลิกงานโดยมีรถตู้ของโรงงานมาส่งบริเวณสะพานปูนข้ามคลองชลประทานบางเดื่อ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนเองเพียงประมาณ 20 เมตร
จากนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแขนสั้น กางเกงขายาว สวมใส่หมวกสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า ทั้งคู่ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดประกบกับตนเอง จากนั้นแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจค้น ซึ่งตนเองตกใจแต่ยอมให้ค้นเนื่องจากคิดว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบและตนเองก็บริสุทธิ์ใจจึงยอมให้ค้นตัว จากนั้นคนร้ายขอค้นตัวล้วงไปในกระเป๋ากางเกงของตนเองเจอกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ ภายในมีเงินสดประมาณพันกว่าบาท และเอกสารบัตรประชาชน บัตร ATM พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Real me 7 โปร 1 เครื่อง ราคาประมาณหมื่นกว่าบาทถูกคนร้ายเอาไป จากนั้นขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนสายเอเชีย ตนเองจึงตะโกนเรียกแม่ว่าตำรวจมา แม่จึงวิ่งลงมาดู
ด้าน นางวนิดา ถนอมสุวรรณ อายุ 60 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงลูกตะโกนร้องให้ช่วยบอกว่ามีตำรวจมา ตนเองตกใจว่าตำรวจจะมาทำอะไร เนื่องจากไม่ได้มีอะไรผิดกฎหมาย จากนั้นพยายามสอบถามลูกชาย เล่าให้ฟังว่า มีผู้ชาย 2 คนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและขอค้นตัว จากนั้นได้นำกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดและโทรศัพท์มือถือไป ตนเองรีบวิ่งมาดู พบว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ตนจึงแน่ใจว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแน่ จึงได้รีบไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบว่าบ้านเรามีคนร้ายในลักษณะดังกล่าวออกก่อเหตุในพื้นที่
จากนั้นจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พบว่ากล้องวงจรปิดจับภาพรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นชาย 2 คน ขับ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน ขับผ่านหน้ากล้องช่วงเวลา 04.16 น. ซึ่งมีลักษณะตรงกันกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ลูกชาย จึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางปะหัน
นางวนิดา ยังกล่าวต่อว่า ทำไมต้องมาก่อเหตุกับลูกชายของตนเอง ทั้งๆ ที่ลูกชายของตนเองเป็นคนพิการ เนื่องจากถูกไฟฟ้าดูดจนพิการ แต่สามารถหาเลี้ยงแม่ได้ ขณะที่คนร้ายยังมีมือมีเท้าดี ทำไมไม่รู้จักทำมาหากิน จึงอยากวอนให้ผู้ก่อเหตุนำกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มาคืนลูกชายตนเอง เพราะตนเองรู้สึกสงสารลูกมากเนื่องจากลูกชายพยายามเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง