เจ้าของรีสอร์ตผวา! คนร้ายย่องลักทรัพย์ ทิ้งไม้ค้ำยันดัดแปลงเป็นปืนแก๊ป
เช้านี้ที่หมอชิต - เกิดเหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์สินลูกค้าภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จังหวัดขอนแก่น พบหลักฐานสำคัญเป็นไม้ค้ำยันดัดแปลงเป็นปืนแก๊ป คาดผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนพิการขา ด้านเจ้าของรีสอร์ตวอนตำรวจเร่งจับกุมตัวคนร้าย หวั่นความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพชายพิการขาข้างซ้ายคนหนึ่ง พร้อมกับระบุข้อความว่า "บุคคลในภาพได้เข้าไปขโมยทรัพย์สิน-เงินทองของลูกค้าในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ตำบลกุดเค้า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น อีกทั้งถอดสายกล้องวงจรปิดอีกด้วย ส่วนขาที่พิการที่ดามเหล็กไว้นั้นมีการซ่อนกลไกปืน ทางเจ้าของรีสอร์ทได้แจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรี ไว้แล้ว หากใครพบเจอช่วยแจ้งตำรวจด้วย"
ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงกับพนักงานดูแลรีสอร์ต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีลูกค้าคนหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งว่ารถยนต์ถูกคนร้ายรื้อค้นสิ่งของต่าง ๆ จนข้าวของกระจัดกระจาย ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไปกว่า 200 บาท ซึ่งเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏว่ากล้องไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากสายไฟถูกตัดออก อีกทั้งห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบไม้คันเท้าของคนพิการวางอยู่ที่พื้น โดยมีการดัดแปลงเป็นปืนแก๊ป ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง วินาทีนั้นตนเองรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ เพราะหวั่นจะเกิดเหตุความไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม พนักงานดูแลรีสอร์ตคนดังกล่าว เปิดเผยอีกว่า เมื่อช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาก สังเกตเห็นชายพิการขาข้างซ้ายคนหนึ่ง มักจะปั่นจักรยานวนเวียนอยู่บริเวณหน้ารีสอร์ตบ่อยครั้ง มิหนำซ้ำมีการเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความ เพื่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับปลอดภัยรีสอร์ต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุลักเล็กขโมยน้อยดังกล่าวขึ้น ชายพิการขาคนนี้ก็ไม่กลับมาอีกเลย
หลังเกิดเหตุ ตำรวจเร่งสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ กระทั่งทราบว่าชายพิการขาคนดังกล่าว อายุ 38 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตที่เกิดเหตุ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยให้การยอมรับว่าเคยไปรีสอร์ตดังกล่าวจริง แต่ปฏิเสธเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อเร่งตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ก่อนจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ก่อนจะติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ... https://news.ch7.com/detail/521378