เลิกพูดประโยคนี้ … ก่อนที่คุณหรือคนรอบตัวต้องเสียใจ

เคยไหม..? เหนื่อยแทบหมดแรง แต่ถ้าต้องขับรถกลับ ยังไง ๆ ก็บอก “ขับไหว”

เคยไหม..? ดื่มไปแค่แก้วเดียว แล้วคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่อยากลำบากทิ้งรถไว้ ก็บอก “ขับไหว”

แล้วถ้าวันนึงคุณไม่ได้โชคดีเหมือนทุกครั้ง.. เคยถามตัวเองหรือเปล่าว่าคุณ “รับไหวไหม” กับผลที่จะตามมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น..?

เพราะผลที่ตามมาจาการเกิดอุบัติเหตุสร้างความสูญเสียแก่สังคมไทยอย่างมากในแต่ละปี ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุที่เฉลี่ยสูงถึง 20,000 รายต่อปี โดยสถิติในปี 2563 มี ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน 799,000 คน ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (admit) 227,194 คน ซึ่งในจำนวนนี้อาจจะกลายเป็นผู้พิการถึง 10,450 คน / ปี (ข้อมูลจากผลการศึกษา พบว่า 4.6% ของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จะกลายเป็นผู้พิการรายใหม่)

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล็งเห็นถึงปัญหาอีกด้านของอุบัติเหตุที่รุนแรงไม่น้อยกว่าการเสียชีวิต คือผลที่ตามมาหากเกิดอุบัติเหตุแล้วได้รับบาดเจ็บหรือพิการ ซึ่งไม่ได้แค่ส่งผลกระทบต่อผู้ดื่มแล้วขับเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคนรัก ครอบครัว ที่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อทำให้สามารถดูแลผู้บาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุได้

สสส. จึงได้ทำการรณรงค์ในแคมเปญ “ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย ” ด้วยเป้าหมายที่อยากจะเห็นคนไทยทุกคนเดินทางกลับไปหาคนที่รักอย่างปลอดภัย โดยการสร้างความตระหนักให้ผู้ขับขี่ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความประมาทจนนำมาสู่การเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจากสถิติได้แสดงให้เห็นว่า อุบัติเหตุนั้นใกล้ตัวเรา และเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของคนทีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ มักอยู่ในระยะ ไม่เกิน 5 กม. จากที่พัก หรือแม้แต่ปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์แม้เพียงแค่ 1 แก้ว ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง และนำมาซึ่งอุบัติเหตุได้

สสส. จึงมีความตั้งใจผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุด “รับไหว” เพื่อเตือนสติทั้ง “ผู้ขับขี่” ให้เห็นผลลัพธ์ของความประมาทเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งอาจส่งผลไปยังครอบครัวของตนเอง และเพื่อกระตุ้นให้ “กลุ่มผู้ใกล้ตัวผู้ดื่ม” สามารถช่วยกันเตือนสติผู้ที่กำลังดื่มแล้วบอกว่าตนเอง “ขับไหว” ด้วยคำง่าย ๆ ว่า “รับไหว หรือ ? ”

“ถ้ารับไม่ไหว อย่าบอกขับไหว” เป็นประโยคกระตุกและสะกิดใจคนดูในภาพยนตร์โฆษณา ที่อิงจากพฤติกรรม หรือ อินไซต์ ของนักดื่ม ที่หลาย ๆ ครั้งมักฝืนขับรถหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีคำพูดติดปาก เป็นประจำว่า “ขับไหว” “ขับไหว..ใกล้แค่นี้เอง” โดยลืมคำนึงถึงผลที่จะตามมาหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ไม่เคยมีสักคนต้อง “รับไหว” เพราะมากกว่าชีวิตของคนหนึ่งคนที่ต้องสูญเสียไป คือความเสียใจ ของคนที่อยู่ข้างหลัง ในหลาย ๆ เหตุการณ์ผู้ขับขี่อาจต้องกลายเป็นคนพิการ สูญเสียทั้งอวัยสำคัญอย่าง อย่าง แขน ขา ทำให้ สูญเสียศักยภาพในการหาเงินและรายได้ ส่งผลให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องพบกับความลำบาก คอยดูแลไปตลอดชีวิต ฝันที่สร้างไว้ทุกอย่างต้องพังทลายลง หรือจากตัวอย่างของหลาย ๆ ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ จะพบว่ายังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ผู้ดื่มแล้วขับ ต้องรับผิดชอบกับชีวิตของผู้อื่น สร้างตราบาปให้กับตัวเอง ชดใช้ยังไงก็อาจจะไม่พอ..

มาช่วยกันลดตัวเลข ลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่วันนี้.. คอยเตือนสติทั้งตัวเองและคนรอบข้าง “ รับไม่ไหว..อย่าบอกขับไหว ” ถ้า ดื่มต้องไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวคุณและคนที่คุณรัก

รับชมภาพยนตร์โฆษณาชุด “รับไหว”

ขอบคุณ... https://www.dek-d.com/thaihealth/59144/

ที่มา: dek-d.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ธ.ค.64
วันที่โพสต์: 15/12/2564 เวลา 11:56:19