รพ.ศิริราช มอบรถโมบายรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
รพ.ศิริราช มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ส่งรถรักษาอัมพาตเฉียบพลันเคลื่อนที่ รักษาผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ภูมิภาค
วันที่ 19 ธันวาคม 2564 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ) และ มูลนิธิไทยคมและภาคีเครือข่าย ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนด้วยโครงการรถรักษาอัมพาตเฉียบพลันเคลื่อนที่ที่มีเครื่องเอ็กซเรย์สมองเครื่องฉีดสารทึบรังสี ยารักษาอัมพาต พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ประจำรถและระบบสื่อสารทางไกล Telemedicine ให้บริการนำร่อง 6 ภาคทั่วประเทศเพื่อช่วยผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา
หัวหน้าศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช กล่าวถึงโครงการ Mobile Stroke Unit -Stroke One Stop ( MSU-SOS) ว่า โครงการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนอุปกรณ์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากโรคดังกล่าวหากให้การรักษาช้าจะทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่พิการตลอดชีวิตหรือตายได้
อีกทั้งในฐานะที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นโรงเรียนแพทย์และเป็นโรงพยาบาลของแผ่นดิน ซึ่งมีหน้าที่สร้างต้นแบบการรักษาโรคให้กับประเทศเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในด้านสาธารณสุข ทำให้ได้ตัดสินใจทำโครงการ MSU-SOS ขึ้น โดยโครงการนี้จะเป็นการเข้าไปแก้ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในการรักษาผู้ป่วยอัมพาตเฉียบพลัน 3 ข้อดังนี้
1. ปัญหาการขาดแคลนเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) ถึงแม้ว่าเครื่อง CT มีจำนวนมากในประเทศไทย แต่ในพื้นที่ห่างไกลหรือขาดแคลน ผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงได้โดยเร็ว เกิดความล่าช้าส่งผลทำให้พิการและถ้ามีอาการรุนแรงจะทำให้สมองบวมและเสียชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาเราจะติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองบนรถคันนี้ซึ่งพร้อมที่จะให้บริการเมื่อผู้ป่วยมาถึง
2 ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในปัจจุบันเราสามารถนำเทคโนโลยีการปรึกษาทางไกลมาใช้ร่วมกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G ได้บนรถ โดยแพทย์ที่รับปรึกษาจะเห็นภาพผู้ป่วยบนรถและภาพเอ็กซเรย์สมอง รวมทั้งสามารถพูดคุยกับผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะอยู่บริเวณใดของประเทศก็ตาม
3 ปัญหาความล่าช้าในการส่งต่อตัวคนไข้จากโรงพยาบาลต้นทางไปยังโรงพยาบาลปลายทาง ใช้เวลานานมากกว่า 3-5 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อแก้ปัญหานี้จึงได้จัดทำกระบวนการส่งต่อที่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าโดยทีมผู้ปฏิบัติงานบนรถและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเชื่อมต่อไปยังโรงพยาบาลปลายทางซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงเรียนแพทย์
เพื่อส่งต่อคนไข้มาทำการเปิดหลอดเลือดโดยใช้สายสวน โดยจะส่งข้อมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์และคลาวด์ โดยรถคันนี้เป็นรถที่มีเครื่องเอ็กซเรย์สมองเคลื่อนที่ เครื่องฉีดสี มียารักษาอัมพาตเฉียบพลันที่จำเป็น มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปกับรถและมีระบบการสื่อสารทางไกลผ่าน telemedicine
เมื่อคนไข้ขึ้นมาบนรถแพทย์ก็จะทำการตรวจร่างกาย สแกนสมองในกรณียังอยู่ในระยะเวลาที่ฉีดยาได้จะทำการฉีดยาสลายลิ่มเลือดเพื่อเปิดหลอดเลือด และต่อมาจะฉีดสีเพื่อดูว่าหลอดเลือดใหญ่เส้นไหนอุดตัน หากพบว่ามีหลอดเลือดใหญ่อุดตันก็รีบส่งตัวคนไข้ไปสู่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ที่ใหญ่กว่าเพื่อที่จะทำการเปิดหลอดเลือดโดยใช้สายสวน
รศ.นพ.ยงชัย กล่าว ว่าทั้งหมดนี้จะนำมาสู่การรักษาแบบใหม่ก็คือเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวทำให้ลดความพิการและลดอัตราการตายลงได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวในปัจจุบันมีการให้บริการคนไข้ไปกว่า 640 ราย ซึ่งเริ่มทดสอบระบบปฏิบัติการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ขณะนี้เรากำลังกระจายการให้บริการไปสู่ 6 จังหวัด เพื่อเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่ 6 ภาคทั่วประเทศ ที่เปิดให้บริการแล้วมี 4 แห่ง คือ
จังหวัดแรกที่นำร่องคือกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และจังหวัดนนทบุรี ปฏิบัติการโดยโรงพยาบาลศิริราช แห่งที่ 2 คือจังหวัดชลบุรี ภายใต้การปฎิบัติการของมหาวิทยาลัยบูรพาและโรงพยาบาลชลบุรีแห่งที่ 3 คือโมเดลภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรีและโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง จังหวัดราชบุรี
แห่งที่ 4 คือ โรงพยาบาลคีรีรัฐนิคม จังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี แห่งที่ 5 ที่ตั้งใจจะเปิดบริการคือจังหวัดเชียงราย ภายใต้การปฎิบัติการของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของจังหวัดเชียงราย ร่วมกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565
พื้นที่สุดท้ายที่จะปฏิบัติการภายในเดือนมิถุนายน 2565 คือโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม