สุดปัง! จุดเช็กอินใหม่ ยกไร่กะหล่ำปลีมาไว้กระบี่ ความสุขแค่เอื้อม ไม่ต้องไปถึงภาคเหนือ มาที่ “ไร่ม่านเขา” ก็ฟินได้
กระบี่ - สุดปัง! ยกไร่กะหล่ำปลีมาอยู่กลางหุบเขาหินปูนที่ “ไร่ม่านเขา” หนึ่งเดียวในกระบี่ ความสุขอยู่แค่เอื้อม ได้สูดลมหายใจก็คุ้ม ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ จุดเช็กอินแห่งใหม่เปิดให้เที่ยวแล้ว เด็ก คนพิการ และคนชราเข้าฟรี
หากใครต้องการชมไร่กะหล่ำปลี ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปถึงภาคเหนืออีกแล้ว เพราะที่ไร่ม่านเขา หมู่ที่ 1 บ้านหน้าวัว ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีไร่กะหล่ำปลีให้ชม บรรยากาศไม่ต่างจากไร่กะหล่ำปลีทางภาคเหนืออย่างไรอย่างนั้น “ไร่ม่านเขา” ยกภาคเหนือมาไว้ที่ตำบลเขาคราม อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ปลูกกะหล่ำปลี 2 ไร่ 2,000 ต้น ด้วยบรรยากาศกลางหุบเขา เป็นจุดเช็กอินใหม่ที่ฮิตที่สุดในขณะนี้
นางมาลี เหมหา อายุ 54 ปี เจ้าของไร่ม่านเขา กล่าวว่า เดิมทีที่ดินบริเวณนี้เป็นสวนปาล์มน้ำมัน มีนักท่องเที่ยวที่ขับรถเข้ามาและแวะถ่ายภาพเป็นประจำ เนื่องจากชื่นชอบในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน ทำให้มีอากาศเย็นสบาย และที่ผ่านมาได้มีกองถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และถ่ายโฆษณามาขอใช้พื้นที่ถ่ายทำ เลยมีความคิดว่าแม้แต่คนต่างชาติยังเห็นความสวยงาม จึงตัดสินใจโค่นปาล์มน้ำมันเนื้อที่กว่า 10 ไร่ เมื่อโค่นต้นปาล์มแล้วที่ดินว่างเปล่า ได้เห็นโลเกชันที่แท้จริงพบว่าสวยงามมาก อากาศดี
มีความคิดว่าจะแปลงสภาพที่ดินโดยปลูกกะหล่ำปลี เพื่อให้คนกระบี่และคนภาคใต้เห็นว่า กระบี่ก็มีดี ไม่แพ้ภูทับเบิก และที่สำคัญกะหล่ำปลี ก็ปลูกที่กระบี่ได้ เริ่มแรกปลูกไม่กี่ต้นพบว่ากะหล่ำปลีงอกงามดีมาก จึงได้ปลูกเพิ่ม แบ่งเนื้อที่ปลูก 2 ไร่ รวม 2 พันต้น หลังจากที่ปลูกมาได้ระยะหนึ่งก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อหลายคนเห็นแล้วชอบก็รู้สึกดีใจ และได้ถามคนที่มาเที่ยวที่ไร่ว่าประทับใจตรงไหน บางคนบอกว่า "แค่ลมหายใจก็คุ้มแล้ว” และบางคนบอกว่า เราไม่ต้องไปภูทับเบิก และเชียงใหม่แล้ว เพราะตรงนี้ก็ไม่ต่างกัน
ตั้งแต่เปิดให้ชมไร่ มีนักท่องเที่ยวเข้าชมวันละ 300-400 คน ช่วงนี้ทางไร่จัดโปรพิเศษ เด็ก คนพิการ และคนชรา ไม่เก็บค่าเข้าชม เพราะตนเองไม่ได้ทำธุรกิจ ทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว อยากให้เป็นศูนย์เรียนรู้ว่าบ้านเราก็มีดี ไม่ใช่มีแค่ทะเลหาดทราย กะหล่ำปลีก็ปลูกได้ เหมือนกับภาคเหนือ ยอมรับตอนทำแรกๆเหนื่อยแต่ทำแล้วมีความสุข และยิ่งมีความสุขเมื่อนักท่องเที่ยวมาเห็นแล้วร้องว้าว! และรอยยิ้มที่ชื่นชอบ
นางมาลี กล่าวอีกว่า เดิมเป็นคนที่ชอบปลูกผักผลไม้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ปลูกผัก และผลไม้หลายอย่าง รวมทั้งสวนปาล์ม และไร่มะละกอ แต่เนื่องจากตนเป็นคนที่อยากลองอะไรแปลกใหม่ คิดว่าอยากปลูกผักแปลกๆ ที่ไม่มีในกระบี่หรือภาคใต้ ประกอบกับเห็นภาพคนไปเที่ยวที่ไร่กะหล่ำปลีในภาคเหนือและถ่ายรูปกับต้นกะหล่ำปลีอย่างมีความสุข จึงได้ทดลองปลูกกะหล่ำปลีบ้าง พบว่า ได้ผลดี ประมาณ 6 เดือน กะหล่ำปลีหัวใหญ่ สวยงาม พื้นที่อยู่ระหว่างหุบเขาหินปูนที่อากาศเย็นสบาย ซึ่งกะหล่ำปลีที่ไร่ไม่ใช้สารเคมี ใช้แค่น้ำหมักสมุนไพรจากธรรมชาติ เพื่อที่จะให้ผู้บริโภคปลอดภัย
เจ้าของไร่ม่านเขา กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นไร่กะหล่ำปลีได้ผลดีเกินที่คาดหวังเอาไว้ จึงต่อยอดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตรที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ทางไร่ทำทางเดิน สร้างจุดถ่ายรูป จุดเช็กอิน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก
ณ เวลานี้นับได้ว่ายกภาคเหนือมาไว้ที่ “ไร่ม่านเขา” ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสอากาศดีๆ ถ่ายภาพกับไร่กะหล่ำปลีที่นี่ได้ ไม่ต้องเดินทางไกล อยู่ใกล้บ้าน จุดเช็กอินแห่งใหม่ ถ่ายพรี เวดดิ้ง บรรยากาศกลางภูผาและหุบเขา อากาศเย็นสบาย พร้อมอาหารเครื่องดื่มไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ส่วนอีกฝั่งตรงกันข้ามพื้นที่อีก 3ไร่ ปลูกดอกบานชื่นให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปเช่นกัน เพื่อเพิ่มสีสันสดใสของไร่ม่านเขา
สำหรับไร่ม่านเขา ตั้งอยู่ที่บ้านหน้าวัว หมู่ที่ 1 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ (เข้าทางเดียวกับสวนทุเรียนดานียา) จ่ายเข้าชมเพียง 20 บาทเท่านั้น เด็ก คนพิการ และคนชราเข้าฟรี