พม. มอบรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” เชิดชูเกียรติคนต้นแบบสร้างสังคมไทยเข้มแข็ง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติภาคีเครือข่ายกระทรวง พม. เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนและสังคมในการเข้ามามีส่วนร่วมทำความดีด้วยการช่วยเหลือและสร้างกำลังใจให้กับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด - 19 และภัยพิบัติต่างๆ โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อน ไร้บ้าน และผู้ด้อยโอกาส โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งร่วมมือทำงานกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชน โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด - 19 และภัยพิบัติต่างๆ ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมด้วยทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร็วที่สุด
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ รู้สึกดีใจที่เห็นทุกคนได้รับรางวัลและกล่าวความในใจ ซึ่งการเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ถ้าคุณมีหัวใจของผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่และเงินซื้อไม่ได้ ทุกคนควรได้รับรางวัล วันนี้ ทุกคนพูดเหมือนกันว่าไม่เคยคาดหวังรางวัลอะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้ประเทศดี สังคมดี ประชาชนมีความสุข และตนก็เห็นด้วย เพราะว่าสังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง เชื่อว่าประเทศไทยนั้นสามารถเป็นประเทศมหาอำนาจได้ เพราะเป็นประเทศที่มีหัวใจของการเป็นผู้ให้ ด้วยการให้กับคนที่ไม่มีและให้โอกาสกับคนที่ด้อยโอกาส ดังนั้น เราจะเป็นมหาอำนาจทางวัฒนธรรมของการให้ ซึ่งตนภูมิใจที่เราเกิดเป็นคนไทยด้วยกัน และมีคนดีๆ ที่ตนสามารถเคารพนับถือว่า พวกคุณสามารถทำให้ประเทศไทยยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติม สำหรับรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” ครั้งนี้ กระทรวง พม. ได้มอบรางวัลให้กับบุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม จำนวน 11 รางวัล ประกอบด้วย 1) พระครูปิยวรรณพิพัฒน์,ดร. เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย จังหวัดเชียงราย ผู้ก่อตั้งและประธานเครือข่ายโรงเรียนผู้สูงอายุ 17 จังหวัดภาคเหนือ และเครือข่าย “บวร (บ้าน วัด โรงเรียน)” 2) ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ข้าราชการที่ทำงานเพื่อสังคมและเยาวชน 3) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต มีส่วนสำคัญร่วมกับกระทรวง พม. ช่วยแก้ไขปัญหาการรองรับกลุ่มเป้าหมายจิตเวชในสถานรองรับ 4) แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข (หมอวิว) สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลพิจิตร และกรรมการแพทยสภา เป็นแพทย์ตัวอย่างที่มีความมุ่งมั่นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น 5) นางสาวปารวี โมรา เว็บบล็อกเกอร์ ผู้เป็นครูอาสาช่วยเหลือเด็กยากจนบนดอยห่างไกลความเจริญ
6) นางพัฒมาณ แดวอสนุง คณะทำงานขบวนองค์กรชุมชนสามจังหวัดชายแดนใต้ และประธานบ้านอุ่นไอรักเพื่อเด็กกำพร้าและผู้ด้อยโอกาส จังหวัดยะลา ผู้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเด็ก เยาวชนยากจน กำพร้า และผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่พึ่ง 7) นางสาวชุลีพร ยอดสมุทร พี่เลี้ยงผู้ดูแลเด็กพิการซ้ำซ้อนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี 8) นายเกรียงไกร เมธาณิชากรกุล ผู้ใหญ่บ้านชาวอาข่า บ้านพนาสวรรค์ อำเภอแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ผู้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพด้วยการสร้างรายได้จากกาแฟให้ชาวเขาบนพื้นที่ 9) นางสาวพีร์อุมากร วระเศรษฐ์ถาพร (ไก่ อูกัส) ดีไซเนอร์ไทยคนแรกในเอเชียที่ได้รับรางวัล DE FÊLÉ DE MODE “เดฟิเล เดอ โมด” หรือรางวัล “ปลอกนิ้วทองคำ” จากประเทศฝรั่งเศส สร้างสรรค์ผ้าไทยสู่สากล นำเงินตราจากต่างประเทศมาสู่คนท้องถิ่นให้มีงานทำและรายได้อย่างยั่งยืน 10) นายฉลอง ลอยสมุทร (โกตุ๊ก) ครูสอนเซิร์ฟสเก็ต หาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต ผู้นำการเก็บเศษไม้ เศษขยะจากทะเลที่ไร้ค่าแล้วนำมาแปลงโฉมเป็นงานศิลปะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ และ 11) กลุ่มใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน นำโดย คุณฝันดี - คุณฝันเด่น จรรยาธนากร ศิลปินอาสาสมัครภาคประชาชนและเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนประสบภัยพิบัติและสถานการณ์โควิด - 19 โดยตั้งปณิธานไว้ว่า จะอุทิศตนเพื่อสังคม จนวันสุดท้ายของชีวิต