สุดทึ่ง! ชายตาบอดสู้ชีวิต เปิดร้านซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด ตั้งแต่ปะยางยันผ่าเครื่อง
สุดทึ่ง! ชายตาบอดสู้ชีวิต เปิดร้านซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด ตั้งแต่ปะยางยันผ่าเครื่อง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 31/1 หมู่ที่ 4 ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี หลังพบว่ามีชายตาบอด เปิดร้านซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด และราคาไม่แพง จนส่งลูกเรียนจบปริญญาแล้ว 1 คน ภายในร้านซ่อมรถยนต์ เปิดเป็นร้านเล็กๆ อยู่ภายในบ้าน ภายในบ้านพบว่ามีเครื่องมือซ่อมรถ อยู่ภายในบ้านนอกจากการซ่อมรถแล้วยังสามารถซ่อมเครื่องตัดหญ้าได้ด้วย สิ่งที่น่าแปลกคนซ่อมเป็นคนตาบอด ระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น มีชาวบ้านได้นำรถจักรยานยนต์ยางรั่วต้องการเปลี่ยนยางมาให้คุณลุงเจษฎาเป็นคนเปลี่ยน คุณลุงจึง โชว์ฝีมือการเปลี่ยนยางให้กับผู้สื่อข่าวได้ชมด้วยความคล่องแคล่ว
จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว คุณลุงเป็นคนที่มีความจำที่ดีและทำได้เหมือนคนตาดีอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนยางรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวนั้นใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงเสร็จสิ้นพร้อมใช้งาน และยังโชว์วิธีการประกอบเครื่องยนต์ เครื่องตัดหญ้าที่ลูกค้านำมาซ่อม คุณลุงก็ใช้ทักษะและความสามารถเฉพาะตัว ประกอบเครื่องตัดหญ้าจนสามารถสตาร์ทติดได้
จากการสอบถามนายชิตณรงค์ หวังอาษา อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านและผู้ที่มาใช้บริการประจำ ได้กล่าวว่า รู้จักคุณลุงเจษฎาตั้งแต่สายตายังปกติ ซึ่งสมัยก่อนนั้นคุณลุงได้เปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์อยู่แล้วและตนก็ใช้บริการมานานแล้วด้วย พอลุงประสบปัญหาเรื่องพิการทางตา ทางตนยังมั่นใจในฝีมือและนำรถมาซ่อมอยู่บ่อยครั้ง โดยในบางครั้งนั้นทางคุณลุงไม่ยอมคิดค่าแรง ตนต้องแอบให้กับภรรยาเป็นคนเก็บไว้ ซึ่งชาวบ้านแถวนี้จะเรียกว่า ช่างเจษอัจฉริยะขวัญใจหมู่บ้านเนินหอม
ส่วนนางวรรณี ดินดำ อายุ 54 ปี ภรรยาลุงเจษฎา ได้กล่าวว่า ปกติตอนที่คุณลุงยังไม่ได้พิการทางสายตานั้น ได้เปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ตามปกติ โดยหลังจากที่คุณลงไปผ่าตา จนต้องพิการ แกเครียดอยู่ประมาณ 4-5 เดือน แต่เนื่องด้วยคุณลุงจะมีความรับผิดชอบและความอดทนอีกอย่างใจสู้ จึงทำให้แกฟื้นตัวจากอาการป่วยอย่างรวดเร็วและมาเปิดร้านภายในหมู่บ้าน จนสามารถเป็นรายได้เลี้ยงชีวิต ล่าสุดส่งลูกเรียนจนจบได้แล้ว 1 คน โดยตนจะเป็นคนให้กำลังใจและคอยพูดคุยตลอดทุกวัน
ทางด้านนายเจษฎา จำปาทอง อายุ 54 ปี กล่าวว่าตนได้เรียนรู้การซ่อมเครื่องยนต์หรือการซ่อมรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องตัดหญ้า และอื่นๆ ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน โดยเมื่อประมาณตนอายุ 30 ต้นๆ นั้น ตนได้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และรักษาตัวมาตั้งแต่บัดนั้น จนกระทั่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว อาการป่วยเบาหวานได้กำเริบขึ้นดวงตา ตนจึงได้เข้ารับการรักษาผ่าตัดดวงตา แต่เนื่องด้วยการรักษาที่ช้าเกินไป ทำให้ตาของตน 2 ข้างนั้นบอดสนิท หลังจากตาบอดสนิทนั้นตนก็ได้ใช้ชีวิตในความมืดอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ประกอบกับรายได้ของครอบครัวมีทางเดียวคือจากแม่บ้านที่ไปรับจ้างทั่วไปเดือนละประมาณ 9,000 บาท และลูกของตนทั้งคู่กำลังเรียนอยู่ด้วยนั้น ตนจึงใช้ความชำนาญและความจำที่มี ลุกขึ้นสู้เพื่อมาเปิดร้านซ่อม เครื่องยนต์อีกครั้ง โดยแรกๆ นั้นก็ไม่ค่อยมีชาวบ้านมาใช้บริการตนเท่าไรนัก เพราะว่ายังไม่เชื่อมั่นว่าตนตาบอดจะทำได้จริงหรือไม่ แต่ก็มีคนที่รู้จักให้โอกาสตนได้ลงมือทำ โดยตนใช้ความชำนาญกว่า 40 ปี ใน การซ่อม จึงเป็นที่ปากต่อปาก ว่าตนซ่อมได้ จนมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง