ชัชชาติ พ่อผู้ไม่ยอมแพ้เพื่อลูก "แสนดี" จากผู้พิการการได้ยินสู่บัณฑิตใหม่
"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" พ่อผู้ไม่ยอมแพ้เพื่อลูก สร้างโอกาสให้ "แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์ " จากผู้พิการการได้ยิน สู่บัณฑิตจบใหม่ป้ายแดงจากสหรัฐฯ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นอกจากการเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว ยังเป็นพ่อของ แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ บัณฑิตจบใหม่จาก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) ในรัฐซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา สาขาวิชาประวัติศาสตร์ วัย 22 ปี
เรื่องราวของ ชัชชาติ และ แสนดี ลูกชายเพียงคนเดียวของเขา เริ่มต้นขึ้นในวันที่ลูกชายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดได้ 1 ขวบ 2 เดือน เริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตว่าลูกชายของเขา “เรียกแล้วไม่หัน” ชัชชาติ จึงตัดสินใจพาลูกชายไปหาหมอเพื่อดูอาการ
อาการหูหนวก หรือ ประสาทการได้ยินบกพร่อง มีอยู่หลายระดับ ได้แต่ได้ยินน้อย ไปจนถึง ไม่ได้ยินเลย ชัชชาติเล่าว่า อาการของแสนดี คือ “หนวกสนิท” ไม่ได้ยินอะไรเลย นาทีที่หมอบอกเขาปฏิเสธตัวเองและนั่งร้องไห้
ในเวลานั้นทางเลือกของชัชชาติมีอยู่ 3 ทางเลือก คือ ใช้ภาษามือสื่อสาร , ใช้เครื่องช่วยฟัง และ ผ่าตัดประสาทหูเทียม ซึ่ง 21 ปีที่แล้ว การผ่าตัดประสาทหูเทียมยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ประกอบกับเป็นอาจารย์อยู่ด้วย จึงลางานติดต่อกันหลายวันเพื่อพาลูกไปผ่าตัดไม่ได้
ชัชชาติ เล่าในรายการ ที่นี่ Thai PBS เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2558 ว่า ในตอนนั้นโชคดีที่ว่ามีเปิดให้สอบชิงทุนไปทำวิจัยต่อที่ออสเตรเลียพอดี จึงเข้าไปสอบ ซึ่งการผ่าตัดจริง ๆ แล้วไม่ได้นานมาก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เมื่อผ่าตัดมาแล้ว จะต้องฝึกฟังหลังผ่าด้วย
“แสนดี” ใช้เวลาอยู่ที่ออสเตรเลียราว 1 ปีครึ่ง ชัชชาติ เล่าว่า สาเหตุหนึ่งที่ไม่เลือกที่จะฝึกภาษามือให้ลูกเพราะต้องการสร้างโอกาสให้ลูกในการไปพบเจอโลกใหม่ ๆ รวมถึงโอกาสใหม่ ๆ ในการเรียนรู้ ประกอบกับประสาทหูเทียม ประสิทธิภาพการได้ยินจะไม่เทียบเท่าผู้ที่ได้ยินเป็นปกติ ดังนั้นการฟังภาษาไทยที่มีการผันวรรณยุกต์จึงเป็นอุปสรรค์สำคัญของ “แสนดี” ดังนั้น ชัชชาติ จึงตัดสินใจพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษให้ “แสนดี” ทั้งหมด
การผ่าตัดประสาทหูเทียม นอกจากจะฝึก “แสนดี” ให้ได้ยินแล้ว พ่อ-แม่เอง ก็ต้องฝึกการสอนให้ลูกได้เรียนรู้การได้ยินด้วย
ชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับ นิตยสาร HELLO! Education ปี 2020 ระบุว่า ในช่วงแรก เขาไปบนบานศาลกล่าวในที่ต่าง ๆ ให้ลูกลลับมาได้ยินอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะได้พบว่า ปาฎิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นจากการขอ แต่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเราเอง
แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของ ชัชชาติ และ ปิยดา สิทธิพันธุ์ โดย “แสนดี” สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) ในรัฐซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา สาขาวิชาประวัติศาสตร์ วัย 22 ปี และรับปริญญาในวันที่ 11 มิ.ย. 65 ตามเวลาสหรัฐฯ
โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงตำแหน่งในวันที่ “แสนดี” รับใบประกาศนียบัตรจบการศึกษา เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเขาได้ลางาน 4 วันเพื่อไปแสดงความยินดีกับลูกที่สหรัฐฯ แม้ว่าจะวิดีโอคอลกลับมาสั่งงานข้าราชการ กทม. ก็ตาม ในวันที่เขาไปถึงสหรัฐฯ วันแรก