ชื่นชม ลูกสาวกตัญญูสู้ชีวิต ดูแลพ่อพิการตั้งแต่ยังเล็ก ทำงานเรียนจนจบ คว้าเกียรตินิยมอันดับ 1
ชื่นชม ลูกสาวกตัญญูสู้ชีวิต ดูแลพ่อพิการตั้งแต่ยังเล็ก ทำงานเรียนจนจบ คว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 วันนี้ขอสวมชุดครุยให้พ่อ คือผู้ที่เหมาะที่สุด ท่ามกลางรอยยิ้มและความสุข
วันที่ 27 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเรื่องราวชีวิตสุดซาบซึ้งใจ และประทับใจ เพจมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ได้เผยแพร่พิธีฝึกซ้อมพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ปี 2562 และ 2563 โดยมีน.ส.ทิฆัมพร ไกรเกระ หรือน้องแตงโม อายุ 24 ปี หนึ่งในบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในปี 2562 ซึ่งได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหาร
และได้รับทุนการศึกษา ตั้งแต่ปี 2559 -2562 ตลอดระยะเวลา 4 ปี จากมูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ มูลนิธิเพื่อสังคมไทย ตามโครงการ “ทุนส่งน้องเรียนจบ” โดยสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษา สำหรับผู้ที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และหลักเกณฑ์ได้มีผลการเรียนเกรดเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 3.5
น.ส.ทิฆัมพร หรือน้องแตงโม เล่าว่า ตนมีพี่น้อง 2 คน เป็นลูกคนน้องอาศัยอยู่กับคุณพ่อ ชื่อนายสัมพันธ์ ไกรเกระ อายุ 55 ปี เป็นผู้พิการทางสายตาทั้งสองข้างซึ่งประกอบอาชีพนวดแผนไทย พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนอายุ 8 ขวบ และซ้ำร้ายพ่อซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องมาประสบอุบัติเหตุกลายเป็นผู้พิการตาบอดทั้งสองข้างทำให้ครอบครัวขาดรายได้
แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อพยายามสอนมาตลอด คือ การศึกษาบอกให้ตนตั้งใจเรียนเพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ได้มีงานการทำที่มั่นคงในอนาคต และนี่ คือแรงบันดาลใจของพ่อที่มีวันนี้ ขอบคุณพ่อที่เป็นกำลังใจยืนเคียงข้างเสมอ ในโอกาสเข้ารับปริญญาตั้งใจจะถ่ายภาพเพื่อสวมชุดครุยให้พ่อ และอยากเห็นรอยยิ้มของพ่อ
“โดยตลอดระยะเวลาที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยฯ ตนจะใช้เวลาว่างจากการเรียนในช่วงเย็นวันศุกร์-เสาร์และอาทิตย์ ทำงานพิเศษเพื่อหารายได้ตามร้านอาหารเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระครอบครัว และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย โดยปัจจุบันหลังเรียนจบมาแล้ว 2 ปี ตนได้รับโอกาสเข้าไปทำงานตำแหน่ง พนักงานควบคุมคุณภาพอาหาร ในบริษัท ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” น.ส.ทิฆัมพร กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ
ขณะที่นายสัมพันธ์ ไกรเกริก อายุ 55 ปี พ่อน้องแตงโม กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับลูกมาก แต่ไม่ได้ไปร่วมรับปริญญาเพราะเดินทางลำบาก ลูกไปเรียนเองตั้งแต่ประถม ตนก็ทำงานส่งลูก ส่วนลูกก็ช่วยทำงานเพื่อมาจุนเจือ วันที่รู้ว่าตาบอดทำใจไม่ได้เลย ลูกให้กำลังใจตลอดให้อดทนดูแลตลอด ทำงานตลอด ไปช่วยขายของ รับจ้างทั่วไปทุกๆอย่างที่ทำได้ ก็นำเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งตัวเองเรียน วันนี้พ่อดีใจที่ลูกเรียนจบมา หลังจากนี้ก็ขอให้ตั้งใจทำงาน เลี้ยงตัวเองให้ได้ พ่อรักลูกมาก ภูมิใจมากๆ
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7183426