สุดทึ่ง! ลุงพิการมือข้างเดียว สมัครเรียนทำดอกไม้จันทน์ หวังเป็นอาชีพสร้างรายได้
ส.ส.พลัม ลงพื้นที่อยุธยาสอนชาวบ้านว่างงานทำดอกไม้จันทน์ สุดทึ่งลุงพิการมือข้างเดียว สมัครเรียนหวังเป็นอาชีพสร้างรายได้
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดโคกโพธิ์ หมู่ 9 ต.โพธิ์สาวหาญ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ หรือ ส.ส.พลัม พรรครวมพลัง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการอบรมชาวบ้านในเรื่อง “การยกระดับทักษะอาชีพเสริมเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน” มีนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เข้าร่วม
โดยได้มีการสอนทำดอกไม้จันทน์แก่ชาวบ้านหมู่ 9 ต.โพสาวหาญ 80 คน ที่สร้างความทึ่งให้กับทุกคนคือ นายดอกรัก พัฒนะ อายุ 59 ปี ได้มาขอสมัครเรียนทำดอกไม้จันทน์ด้วย โดยนายดอกรัก เป็นผู้พิการใช้มือข้างขวาในการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์
นายดอกรัก เปิดเผยว่า ตนพิการมาตั้งแต่ 2 ขวบ ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก แต่ก็ดิ้นรนมาได้ ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่พอใช้ จนกระทั่งทราบว่า ส.ส.พลัม มาสอนทำดอกไม้จันทน์ จึงมาสมัครเรียน หวังจะสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งนายดอกรัก ก็สามารถทำดอกไม้จันทน์ได้เช่นเดียวกับคนมีมีมือครบ 2 ข้าง
น.ส.จุฑาฑัตต กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนแต่ละครัวเรือนต้องพยายามปรับตัวและหาแนวทางในการประกอบอาชีพใหม่ๆ หรือเป็นอาชีพเสริมเพิ่มเติมจากอาชีพหลัก สำหรับประชาชนใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เมื่อหมดฤดูทำนาหรือการเกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่มีเวลาว่างและสามารถประกอบอาชีพเสริมอื่นๆ ได้ คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร จึงได้จัดให้มีการสัมมนาและฝึกอบรม เพื่อให้ความรู้ด้านทักษะอาชีพเสริมในการผลิตดอกไม้จันทน์ แก่ประชาชนที่สนใจ เพื่อส่งเสริม “วิสาหกิจชุมชนผลิตดอกไม้จันทน์ ของตำบลโพสาวหาญ” ที่ได้มีการรวมกลุ่มกันอยู่แล้วนั้น มีความเข้มแข็ง เพิ่มทักษะ และเพิ่มช่องทางการตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามภารกิจของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงและศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจในทุกระดับและทุกภาคส่วน
โดยตน จะพยายามผลักดันให้การอบรมในครั้งนี้ เกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจและวัตถุประสงค์ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฏร รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคน มีอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือน และช่วยกันถ่ายทอดทักษะอาชีพเสริมนี้ ไปยังชุมชนอื่นๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภาคเศรษฐกิจฐานราก อย่างยั่งยืนต่อไป