เด็กพิการในสถานสงเคราะห์ของยูเครนถูกทารุณกรรม
ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติออกมาเตือนว่าเด็กพิการตามที่พักเด็กกำพร้าทั่วประเทศยูเครนทั้งถูกทารุณกรรมและถูกละเลย
เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนหลายคนออกมาระบุว่า สงครามทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่เลวร้ายลงไปอีก พวกเขาออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนแก้ไข “ความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์” นี้
แถลงการณ์ขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนมีขึ้นหลังจากทีมข่าวสอบสวนของบีบีซีเปิดโปงการทารุณกรรมซึ่งเกิดขึ้นในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าทั่วประเทศ
ก่อนเกิดสงคราม มีเด็กอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์เหล่านี้มากกว่า 100,000 คนแล้ว
เมื่อรัสเซียบุกรุกยูเครนในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้พิการนับพันคนถูกส่งตัวกลับไปยังครอบครัวของตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติชี้ว่า คนเหล่านี้ถูกทอดทิ้งเอาไว้โดยปราศจากความช่วยเหลือที่เหมาะสม ส่งผลให้ตกอยู่ในความเสี่ยงการถูกทารุณกรรมเพิ่มเติม หากไม่ไปจบที่การใช้ชีวิตข้างถนน ก็กลายเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์
อย่างไรก็ดี ผู้พิการอีกนับพันคนยังคงอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์กว่า 700 แห่งทั่วยูเครน แม้สถานที่เหล่านี้จะถูกเรียกว่า ‘สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า’ ทว่า 90% ของคนที่อาศัยอยู่ในนั้นต่างก็มีครอบครัว
พวกเขาคือเหยื่อจากระบอบการปกครองในยุคสหภาพโซเวียตที่สนับสนุนให้ผู้ปกครองมอบลูกพิการของตัวเองให้ทางการ
ผู้คนในยูเครนจำนวนไม่น้อยยังคงเชื่อว่าเด็กพิการจะได้รับการดูแลที่ดีกว่าจากสถานสงเคราะห์
เจอร์ราร์ด ควินน์ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของผู้พิการ กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกมาตั้งแต่ก่อนเกิดสงคราม และถึงเวลาแล้วที่ยูเครนต้อง “กดปุ่มเริ่มต้นใหม่เพื่ออนาคต”
“ทุกสงครามล้วนเปิดเผยสิ่งผิดเพียนในประวัติศาสตร์ในเวลานั้น ๆ และสถานเลี้ยงดูเด็กคือหนึ่งในนั้น” เขากล่าว
“ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำแล้ว กดปุ่มเริ่มต้นใหม่เพื่ออนาคต ในการทำเช่นนั้น เราต้องการคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลยูเครนที่จะยุติระบบสถานเลี้ยงดูเด็ก”
เขากล่าวว่า ในขณะที่ยูเครนกำลังกอบกู้ตัวเองขึ้นมาใหม่ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับผู้พิการเป็นอันดับแรก ประเทศหรือองค์กรต่าง ๆ ที่จะช่วยในการกอบกู้ชาติครั้งนี้ต้องให้เงินสนับสนุนความช่วยเหลือทางชุมชุนด้วย และต้องไม่เอาเงินไปลงกับสถานเลี้ยงดูเด็กเหล่านี้
เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ทีมข่าวของบีบีซีไปเยือนสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้า 5 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน และพบว่ามีเด็กวัยรุ่นจำนวนหนึ่งถูกผูกติดอยู่กับเก้าอี้นั่ง ขณะที่ผู้ใหญ่ใช้ชีวิตอยู่บนเตียงเด็ก บีบีซียังพบเด็กที่ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
ในสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ทีมข่าวบีบีซีพบกับ วาสซิล วีลีชกา วัย 18 ปี ถูกมัดอยู่กับม้านั่ง และปล่อยให้นั่งโยกไปมาอย่างนั้นนานหลายชั่วโมง ตอนที่ทีมข่าวไปพบ วีลีชกากำลังกรีดร้องอยู่
พ่อแม่ของวีลีชกาสามารถมาเยี่ยมเขาได้ แต่ก็ยอมรับว่านี่คือวิธีที่ลูกได้รับการดูแลตลอดมา
พวกเขาต้องการพาวีลีชกากลับบ้าน หลังยอมส่งตัวลูกซึ่งในเวลานั้นอายุ 5 ขวบไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะไม่ได้รับความเชื่อเหลือจากชุมชน
สถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่วีลีชกาอาศัยอยู่เป็นเพียงหนึ่งในสถานเลี้ยงดูจำนวนมากที่เปิดรับเด็กพิการที่หนีมาจากพื้นที่สู้รบทางตะวันออกเข้ามาอยู่ในการดูแล
ทีมข่าวบีบีซีสัมภาษณ์ผู้อำนวยการสถานเลี้ยงดูเด็กพิการ บางคนยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถดูแลผู้อพยพได้เพียงพอ ผู้อำนวยการคนหนึ่งยอมรับว่าเขาไม่สามารถจัดหาสิ่งจำเป็นได้เพียงพอกับความต้องการ
เด็กพิการจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์เหล่านี้ถูกส่งตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ โรมาเนีย และ มอลโดวา ซึ่งมีความพยายามในการกำจัดระบบสถานเลี้ยงดูเด็กเช่นนี้
ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า พวกเขาพบหลักฐานที่ชี้ว่ารัฐบาลยูเครนจะอนุญาตให้ประเทศเหล่านี้ช่วยเหลือเด็กพิการก็ต่อเมื่อเด็ก ๆ เข้าไปอยู่ในสถานเลี้ยงสงเคราะห์เท่านั้น
เขาเตือนด้วยว่า “ประเทศที่สามมีหน้าที่สำคัญที่จะช่วยให้ยูเครนมีอนาคตที่ดีต่อประชากรของประเทศ ซึ่งนั่นรวมถึงอนาคตของเด็กพิการ”
แม้เข้าใจดีว่าสงครามทำให้สถานการณ์ลำบากมากขึ้น ทว่าผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติยืนยันว่าเด็กพิการนับหมื่นคน ที่ถูกทารุณกรรมและถูกละเลยในสถานสงเคราะห์เหล่านี้ต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง