‘ทักษิณ’ เผยรบ.ลุยดิจิทัลวอลเล็ต ใช้งบฯ 1.45 แสนล้าน ประเดิมแจกกลุ่มเปราะบาง-คนพิการ ใน ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เนชั่นทีวีจัดดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision For Thailand 2024 โดยไฮไลต์ของงาน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ท่ามกลางบรรดานักการเมืองและภาคธุรกิจ เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก โดยนายทักษิณเดินทางมาพร้อมน.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ ชินวัตร ลูกสาว, นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีน.ส.พินทองทา ก่อนนายทักษิณ เดินทักทายผู้ร่วมงานตลอดทั้งงาน
ผู้ที่ร่วมโต๊ะเดียวเป็นนักธุรกิจใหญ่ อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ อดีตประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์, นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด, นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, และนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด
ต่อมา นายทักษิณ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รู้ปัญหาตัวเองหมดแต่ไม่ยอมแก้ เมื่อรู้ปัญหาแล้วต้องแก้ไขให้ได้ คณะรัฐมนตรีต้องเตรียมตัวไว้ว่า นายกรัฐมนตรีใหม่ต้องหาเจ้าภาพในแต่ละปัญหา ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าภาพใครจะแก้ ดังนั้น ทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ เรื่องแรกคือการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ทั้งหลายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เรื่องนี้มีคนค้านเยอะ บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่จริงๆ แล้วดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้ระบบบล็อกเช็น ให้กระตุ้นเศรษกิจได้แม่นยำชุ่มฉ่ำทั้งประเทศ แล้วคนไทยจะเข้าใจเทคโนโลยีและให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกนิดรัฐอาจออกบอนด์ขายประชาชนรายย่อย
นายทักษิณ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่หวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชต์กับประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ทางคณะกรรมการฯ เล่าให้ฟัง เมื่อมีการตั้งงบปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนกว่าล้าน บวกกับงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้าน รวมเป็น 1.45 แสนล้าน ใช้ในกันยายน 2567 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน จะให้คนละ 10,000 บาททันทีในเดือนกันยายน เป็นการกระตุ้นเศรษกิจเบื้องต้นทันที
“พอเดือนตุลาคมมีงบประมาณใหม่ออกมาจะคัดกรองคนที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคนว่าใครได้ไปแล้วบ้าง ใครเข้าเกณฑ์บ้าง แล้วจ่ายที่เหลือหากระบบเสร็จก็จะจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่แม่นยำ เพราะการใช้เงินสดไม่แม่นยำ” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า การลงทุนภาครัฐจะต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ ต่อด้วยชนะเลือกตั้งก็ทำต่อในรัฐบาลหน้า สำคัญที่พูดไว้ คือการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพื่อได้พื้นที่ขยายความแออัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนหนึ่งสามารถเป็นเมืองสีเขียว เป็นเมืองใหม่ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น มีรถไฟเชื่อมและมีการป้องกันกรุงเทพมหานคร ไม่ให้น้ำท่วมได้
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายคงต้องทำ อาจจะต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหารและเราต้องกำหนดค่าตั๋ว ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเน้นเรื่องกำไรเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำและต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟรถไฟฟ้า
ขณะที่รถอีวี ช่วงที่ตนเป็นนายกฯ สนับสนุนอีโคคาร์ เลยใช้ภาษีสรรพสามิตสนับสนุนอีโคคาร์ เมื่ออีวีจีนมา อยากขอร้องว่าให้ไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวา ไม่ว่า BYD, GWM อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอีโคซิสเตมอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า อยากขออย่างหนึ่งให้คนไทยรักกันเราคือคนไทยด้วยกัน ตนโดนเยอะที่สุด เห็นนรกและสวรรค์อยู่ในชาติเดียวกัน แต่ทุกวันนี้ทำไมทุกคนถึงบอกว่า เจอคนนั้นคบคนนี้ได้ ตนถือว่าอดีตก็คืออดีต ไม่ใช่ความจำเสื่อม เราจำได้หมดแต่อยากอยู่กับปัจจุบันและอนาคต อยากเห็นคนไทยเราอย่าไปมองว่าคนนั้นคนนี้ไม่ใช่พวกเรา เพราะเราคนไทยด้วยกัน เน้นความสามัคคี เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมดถ้าขาดความสามัคคีก็ไม่สามารถทำได้
“อยากให้เห็นว่าที่วันนี้รัฐบาลใหม่มีพรรคโน้นพรรคนี้มาร่วมกันเยอะแยะไปหมด เป็นสิ่งที่จะช่วยประเทศชาติพัฒนาได้ง่ายมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้นแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ แก้กฎหมายที่ทำให้คนต้องลำบาก ต้องแก้ไขวันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรวมน้ำใจกันให้เป็นหนึ่งและแก้ปัญหา ถ้าใครบอกว่าผมโกรธคนนั้น คนนี้ ผมรู้สึกมากที่สุดแล้ว ซึ่งผมรักบ้านเมืองอยากเห็นบ้านเมืองดี และพร้อมอยู่ข้างหลังช่วยคิดให้ทางภาครัฐ และภาคเอกชน ใครต้องการที่จะปรึกษาผมก็ยอม แต่เสียค่ากาแฟหน่อย แล้วผมจะแวะไปดื่มด้วย” นายทักษิณ กล่าว