คัดกรองสายตา-มอบแว่นตาเด็กบ้านราชาวดี ตามสิทธิประโยชน์ สปสช.
โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) คัดกรองเด็กกลุ่มเปราะบาง-มอบแว่นตาที่มีปัญหาสายตา จำนวน 41 ราย ตามสิทธิประโยชน์ในระบบ สปสช. พร้อมเล็งขยายผลเพิ่มในสถานสงเคราะห์-ใช้งบ กปท. เพื่อให้เด็กที่มีปัญหาสายตาเข้าถึงบริการมากขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.วรภัทร วงษ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านการพัฒนาระบบสุขภาพ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จ.นครปฐม ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. นางณฐอร อินทร์ดีศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตัวแทนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนบุรี เพื่อเยี่ยมชมการคัดกรองสายตาเด็กในกลุ่มที่มีปัญหาด้านสายตา พร้อมมอบแว่นตาตามสิทธิประโยชน์สำหรับเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ
สำหรับสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดีฯ ภายใต้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดูแลเด็กพิการทางสมองและปัญญา โดยมีอายุแรกรับตั้งแต่ 7-14 ปี ครอบครัวยากจน ถูกทอดทิ้ง พลัดหลง ขาดผู้อุปการะ หรือครอบครัวเลี้ยงดูไม่เหมาะสม ไม่มีครอบครัว ซึ่งปัจจุบันมีเด็กในความอุปการะ จำนวน 540 คน และพบเด็กที่มีปัญหาทางด้านสายตา จำนวน 41 คน
ตรวจคัดกรองสานตาเด็กทั่วประเทศ ป้องกันปัญหาทางสายตา
น.ส.วริยาภรณ์ พรนภดล ผู้ปกครองบ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า มีโอกาสเห็นโครงการการตรวจคัดกรองสายตาเด็กทั่วประเทศ และมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมออนไลน์กับ สปสช. เนื่องจากบ้านราชาวดีฯ มีเด็กที่เรียนหนังสือที่มีปัญหาทางด้านสายตาและบ้านราชาวดีฯ ไม่ได้มีงบประมาณสำหรับใช้จ่ายในส่วนนี้
อย่างไรก็ดี บ้านราชาวดีฯ ก็ได้มีการคัดกรองเบื้องต้นที่นำโดยทีมพยาบาลวิชาชีพภายในสถานสงเคราะห์คัดกรองเด็กที่มีปัญหาสายตาเบื้องต้น ขณะเดียวกัน สปสช. ก็ได้มีการประสานโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ที่ทำโครงการดังกล่าวอยู่แล้วลงมาช่วยคัดกรองอีกครั้งเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น
“สปสช. ก็อำนวยความสะดวกในการแนะนำประสานหน่วยบริการให้ และก็ต้องขอบคุณโรงพยาบาลที่ข้ามเขตมารักษาให้ ก็เป็นการร่วมมือกันตรงนี้ และโรงพยาบาลก็ใจดีตรวจให้อีกรอบหมด จะได้เช็กว่าเราตรวจถูกต้องไหม เพราะเขามีเครื่องมือมากกว่า และยังนำยาหยอดตามาให้ด้วยสำหรับเด็กที่เป็นตาแดง รวมไปถึงยาป้ายตาด้วย” น.ส.วริยาภรณ์ กล่าว
รพ.เมตตาประชารักษ์ฯ ร่วมตรวจสายตาให้เด็กขาดโอกาส
นพ.วรภัทร วงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านการพัฒนาระบบสุขภาพ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จ.นครปฐม กล่าวว่า โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ฯ กรมการแพทย์ เป็นโรงพยาบาลด้านจักษุแห่งเดียวของกรมการแพทย์ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมอนามัย กรมการแพทย์ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สปสช. สมาคมนักทัศนมาตรศาสตร์ไทย และภาคีเครือข่ายมาตั้งแต่ต้น ผลักดันสิทธิประโยชน์ทางด้านสายตาในเด็กอายุ 3-12 ปีทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กที่มีปัญหาด้านสายตาได้รับแว่นตาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ยังมีเด็กมีเด็กขาดโอกาสที่อาจจะไม่สามารถเข้าระบบบริการปกติได้ ซึ่งหากมีการพัฒนาโครงการดังกล่าวต่อไปก็จะทำให้เด็กด้อยโอกาส พิการ ฯลฯ เข้าถึงบริการได้มากขึ้น ส่งผลในด้านการพัฒนาการศึกษา บุคลิกภาพ ทักษะด้านสังคม ฯลฯ เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวก็ยังต้องช่วยผลักดันไม่ใช่แค่เพียงเด็กด้อยโอกาสเท่านั้น ยังรวมไปถึงเด็กที่ปกติเพื่อให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้เป็นบริการปกติ
“ต้องฝากไปถึงครู ผู้ปกครอง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านพัฒนาการเด็กทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มซึ่งก็มีโจทย์ที่ท้าทายแตกต่างกัน โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ก็พยายามพัฒนารูปแบบใหม่ๆ โดยหวังว่าตัวโครงการจะเป็นต้นแบบให้เปลี่ยนจากโครงการเป็นบริการปกติ อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายช่วยกันพัฒนาอยู่” นพ.วรภัทร กล่าว
นพ.วรภัทร กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ สปสช. ให้นโยบายและงบประมาณนำร่องในการทำโครงแว่นตาเด็กมาแล้ว โดยให้หน่วยบริการจัดการเอง แต่ยังไม่ได้กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีแรกที่ฝั่งผู้ให้บริการมีความพร้อมมากขึ้น จากเดิมที่หน่วยบริการต้องคัดกรองและมารับแว่นจากส่วนกลาง เป็นการให้แต่ละจังหวัดจัดซื้อแว่นตาสำหรับเด็กได้เหมือนบริการปกติ
คัดกรอง ตัดแว่นตาสิทธิประโยชน์ของ สปสช.
ด้าน ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมการคัดกรองสายตาเด็กนั้นเกิดจากการประกาศสิทธิประโยชน์เรื่องแว่นตาในเด็กอายุ 3-12 ปี ที่มีปัญหาทางด้านสายตา ซึ่งเด็กที่บ้านราชาวดีฯ นั้นนับเป็นกลุ่มเปราะบาง และมีความพิการร่วมด้วย ซึ่ง สปสช. ก็ได้ประสานทั้งในส่วนของ สปสช. เขต 4 สระบุรี และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ฯ ความร่วมมือสำหรับการคัดกรองสายตาเด็กโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง
อย่างก็ดี การลงคัดกรองที่บ้านราชาวดีฯ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งก็จะมีการขยายไปยังสถานสงเคราะห์ไปยังอีก 3-4 แห่งในบริเวณพื้นที่ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงสถานสงเคราะห์ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลเด็กอีกหลายส่วน โดย สปสช. จะขยายผลทั้งเรื่องการดูแล คัดกรองให้เด็กที่มีปัญหาทางด้านสายตาในเบื้องต้นเข้าสู่ระบบการดูแลจากผู้ให้บริการ
ขณะเดียวกันก็ยังพบปัญหาและอุปสรรคเนื่องจากสิทธิประโยชน์ของ สปสช. เรื่องแว่นตาเด็กนั้น หน่วยบริการสามารถเบิกได้แค่ค่าแว่นเท่านั้น แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมา เช่น ค่าให้ความรู้แก่ครูในการคัดกรองสายตาเด็กเบื้องต้น ฯลฯ รวมไปถึงการส่งต่อไปยังหน่วยบริการ หรือให้แพทย์และเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลในสถานที่ที่มีข้อจำกัด
“สปสช. ก็มีส่วนที่เรียกว่ากองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) ซึ่งจะมีคณะกรรมการภายใต้การดูแลขององค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ส่วนนี้จะเป็นอีกส่วนหนึ่งของการผนึกกำลังที่จะเข้ามาช่วยให้โครงการทำได้จริง ซึ่ง สปสช. อยากเห็นเด็กไทยทุกคนได้รับการคัดกรองและเข้าถึงแว่นตามากขึ้น” ผศ.ภญ.ยุพดี ระบุ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ขอบคุณ... https://www.bangkokbiznews.com/social/public_health/1024039