‘เงินหมื่น’ โอนแล้ว 14.4 ล้านคน พบตกค้างกว่า 6 หมื่นคน ย้ำ รีบผูกพร้อมเพย์ ก่อน 21 ธ.ค. 67

‘เงินหมื่น’ โอนแล้ว 14.4 ล้านคน พบตกค้างกว่า 6 หมื่นคน ย้ำ รีบผูกพร้อมเพย์ ก่อน 21 ธ.ค. 67

คืบหน้าโครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ โอนแล้ว 14.4 ล้านคน พบตกค้างกว่า 6 หมื่นคน เร่งให้รีบผูกพร้อมเพย์ ก่อน 21 ธ.ค. 67

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ว่ารอบที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการโอนเงินไปแล้วให้กับกลุ่มเปราะบาง สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินจะดำเนินการโอนเงินเพิ่มในอีก 2 รอบ คือรอบวันที่ 21 พ.ย. และ วันที่ 21 ธ.ค. 67

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงการโอนเงินให้กลุ่มเปราะบางรอบที่ 2 (21 ต.ค.) ได้โอนเงินให้ 2 กลุ่ม คือ

• กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 371,591 คน โอนสำเร็จแล้ว 311,751 คน

• กลุ่มผู้พิการคงค้าง 43,317 คน โอนสำเร็จ 38,265 คน

• ยังมีการคงค้างโอนให้สำเร็จอีก 64,892 คน กลุ่มนี้ร้อยละ 90 มีปัญหาเรื่องการผูกพร้อมเพย์

ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้รีบดำเนินการ เพราะจะมีการโอนซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 21 พ.ย. และวันที่ 21 ธ.ค. รอบสุดท้าย หากไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 21 ธ.ค. จะถือว่าสละสิทธิ และเงินจะส่งคืนคลัง

ส่วนการดำเนินการที่ผ่านมา ทั้งรอบแรกและรอบเก็บตก 14.55 ล้านคน สำเร็จไปแล้วร้อยละ 99.5 ถือเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจหรือว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเติมเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง ถึงมือครบถ้วนแล้ว

โครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจส่วนมากใช้อุปโภคบริโภค

รมช.คลัง กล่าวว่า จากการประมาณการสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่นั้น ต้องรอตัวเลขประมาณการที่แท้จริงปลายปีอีกครั้ง ซึ่งต้องมองภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเนื่องจากในไตรมาสที่ผ่านมามีเหตุการณ์หลายอย่างทั้งน้ำท่วม และปัญหาอื่น ๆ ยังสามารถประคองสภาวะการเศรษฐกิจให้ตัวเลข (Gross Domestic Product: GDP) หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ อยู่ที่ 2.7 ยังคงตรึงอยู่ได้ด้วยกลไกที่กระตุ้นเข้าไป และกระบวนการที่ผ่านมาจากการประเมินด้วยผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเติมเงินลงไปแล้ว มีการนำไปใช้ในการลงทุนประกอบอาชีพ มากที่สุดคือการอุปโภคบริโภค ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

ความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการมีกลุ่มเป้าหมายโครงการรวมประมาณ 14.55 ล้านคน กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงิน 10,000 บาทต่อราย ให้แก่กลุ่มเป้าหมายในระหว่างวันที่ 25-27 และ 30 ก.ย. 67 แล้วรวม 14,438,628 คน แบ่งเป็นจ่ายสำเร็จ 14,057,341 คน และจ่ายไม่สำเร็จ 381,287 คน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 กรมบัญชีกลางได้สั่งจ่ายเงินในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีสิทธิจำนวน 414,908 คน โดยประกอบด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมา และการจ่ายเงินให้แก่คนพิการที่ได้ดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการหรือแก้ไขข้อมูลบัตรประจำตัวคนพิการเรียบร้อยแล้ว พบว่า ในรอบการจ่ายเงินซ้ำดังกล่าว ยังมีการจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 64,892 คน

เหตุโอนจ่ายเงินไม่สำเร็จ เพราะไม่ได้ผูกพร้อมเพย์

1. คนพิการ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 5,052 คน มีสาเหตุจากบัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง และรวมถึงกรณีคนพิการที่ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการมาก่อนทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับเงิน กรมบัญชีกลางจึงได้จ่ายเงินให้คนพิการกลุ่มนี้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน แต่พบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จเป็นจำนวน 4,646 คน

2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 59,840 คน มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด และเลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง ในจำนวนนี้รวมถึงกรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการด้วยแต่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุและยังไม่ได้ต่ออายุบัตรภายในวันที่ 31 ส.ค. 67 ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับการจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามสิทธิของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เมื่อพบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไขบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีปัญหาข้างต้นโดยเร็ว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีคนพิการอีกจำนวน 40,658 คนที่กรมบัญชีกลางยังไม่เคยสั่งจ่ายเงินให้ เนื่องจากจะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องเสียก่อนตามเงื่อนไขของโครงการฯ โดยขอให้ผู้มีสิทธิทุกกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงินเร่งดำเนินการภายในกำหนดเวลา

กระทรวงการคลังย้ำ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1.4 แสนล้าน

ขณะนี้ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั้งสิ้น 14,407,357 คน ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 144,073.57 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินส่วนนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและครอบครัวต่อไป

ช่องทางการติดต่อสื่อสาร

1. ตรวจสอบสิทธิและผลการโอนเงิน: เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/check10000 (ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ในวันถัดไป หลังจากวันที่จ่ายเงิน)

2. สอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชม.

3. สอบถามข้อมูลคนพิการ: ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ขอบคุณ... https://www.chiangmainews.co.th/news/all-over-thailand/3476296/

ที่มา: chiangmainews.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ต.ค. 67
วันที่โพสต์: 28/10/2567 เวลา 15:16:15 ดูภาพสไลด์โชว์ ‘เงินหมื่น’ โอนแล้ว 14.4 ล้านคน พบตกค้างกว่า 6 หมื่นคน ย้ำ รีบผูกพร้อมเพย์ ก่อน 21 ธ.ค. 67