“ตู่” อดีตกรรมกร ทำงานหนักจนพิการเดินไม่ได้ ฮึดสู้ช่วยภรรยารับจ้างร้อยพวงมาลัยจุนเจือครอบครัว!
รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ตู่ กิติศักดิ์” อดีตกรรมกรก่อสร้าง ที่ทำงานหนักจนพิการเดินไม่ได้เพราะขาอ่อนแรง แม้เคยคิดอยากจบชีวิต แต่ลูกช่วยฉุดรั้งไว้ ทำให้เขาฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง
“ตู่” หรือ กิติศักดิ์ ยมนา กับวัย 40 ปี ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกอีก 2 คน ที่ อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เป็นเสาหลักทำงานเลี้ยงครอบครัว ด้วยอาชีพกรรมกรทำงานก่อสร้างรับจ้างรายวันและขับรถแม็คโคร ผลจากการทำงานหนักแบกถุงปูนวันละ 200-300 ถุง ทำให้ตู่ล้มป่วยด้วยโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท จนขาอ่อนแรงใช้การไม่ได้ ไม่สามารถทำงานหนักเพื่อเป็นเสาหลักให้ครอบครัวได้อย่างที่เคย
“แต่ก่อนผมขับรถแม็คโครอยู่ ทีนี้มาหาแฟนที่กรุงเทพฯ ที่เอกมัย พอผมทำงานไปเรื่อยๆ พิการ เดินไม่ได้ 1 เดือน แฟนเลยพาไปหาหมอ หมอบอกกระดูกทับเส้น ผ่าตัดเสร็จ ค่อยยังชั่วขึ้น งอได้อยู่ บางทีก็ปวดบ้างไม่ปวดบ้าง ใช้สี่ขาเดิน”
เมื่อการรักษาทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกไม่สามารถทำให้ตู่กลับมาเดินได้ เขาจำต้องยอมรับสภาพความพิการที่เดินไม่ได้อีกต่อไป
“กำได้อะไรได้ แต่ยืดแข้งยืดขามันปวด มีความรู้สึกปวด แต่เดินไม่ได้”
เมื่อต้องอยู่กับความพิการ แต่ยังทำใจไม่ได้ ทำให้ตู่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ โชคดีที่ยังมีกำลังใจจากคนในครอบครัวช่วยดึงสติและฉุดรั้งเขาไว้ หาไม่แล้ว เขาคงไม่มีชีวิตอยู่ถึงวันนี้
“เวลาทุกข์ สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ผมก็ไปหน้าห้องน้ำ จับมีดปลายแหลมอันหนึ่ง กำลังจะปาดคอตัวเอง ลูกชายมาเห็นพอดี ลูกชายบอก พ่ออย่าทำๆ วิ่งเข้ามา ดึงมีดออก พ่ออย่าทำ ยังมีผมนะพ่อ ตอนนั้นสติกลับคืนมาหมดเลย”
“จากคนเป็นหัวหน้าครอบครัว ไปๆ มาๆ ผมมาเป็นภาระของลูกของเมีย บางครั้งเขาก็มาปลอบใจ เขาว่า สักวันต้องเดินได้นะพ่อ สักวันต้องเป็นวันของเรา ก็ได้เขานี่แหละมาเป็นกำลังใจให้เรา”
ขณะที่ “บุญธรรม เอี่ยมกลั่น” ภรรยาคู่ชีวิต พยายามทุกทางเพื่อช่วยให้สามีไม่เครียด
“เขาเป็นกระดูกทับเส้นตั้งแต่ลูกเขาได้แค่เดือนเดียว คนเล็กหนู จากที่เคยมีเงินเก็บ ทำให้เงินการศึกษาลูกก็ต้องเอามารักษาแฟน ต้องหาอะไรให้เขาทำหายเครียด”
หลังฮึดสู้ ตู่ตัดสินใจช่วยภรรยารับจ้างร้อยพวงมาลัย เพื่อช่วยกันหารายได้เลี้ยงครอบครัว
“แล้วแต่เราทำได้เยอะได้น้อย ร้อยละ 40 วันหนึ่งก็ 100 กว่าบาท ต้อง 100 ชิ้น ถึงได้ 40 บาท วันหนึ่งทำได้ 400-500 ชิ้น ตก 200 บาท เราทำตั้งแต่ 6 โมงถึง 5 โมงเย็น ที่มือเป็นคราบขาวๆ เราแพ้ดอกจำปี อาการคัน เป็นแผล เป็นตามง่ามมือ ซื้อยาทาเอา ก็หายอยู่ แม้ไม่หายสนิท เพราะเราเลิกทำไมได้ เราไม่ทำก็ไม่ได้ ลูกและครอบครัวอยู่กันไม่ได้” บุญธรรม เอี่ยมกลั่น ภรรยาของตู่
“แล้วแต่เขาจะมาจ้าง ช่วงนี้ก็โควิด ไม่ค่อยมีงานจ้างเข้ามา ไม่ค่อยมีงานเสริมเข้ามา บางทีเขาจ้างไปขุดดิน ล้างถังขยะ เป็นแค่รายวันชั่วคราวเฉยๆ วันไหนแม่บ้านเขาหยุด ก็จ้างหนูไปล้างบ้าง บางทีก็ได้ 100 ก็เอา ขอให้ลูกได้อิ่ม”
แม้ตู่กับภรรยาและลูกจะเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ในราคาเพียงเดือนละ 1,500 บาท แต่ด้วยรายได้ที่หาลำบาก จึงไม่เพียงพอต่อค่าเช่า
“ทำดอกไม้จะได้เท่าไหร่ ดอกไม้ได้ไม่เยอะอยู่แล้ว ไหนจะค่ากิน ค่าโรงเรียนลูก ดีที่ระยะนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน ก็เซฟตรงนี้ไป (ถาม-เขาเคยมาขอความช่วยเหลือจากเราไหม?) มีประจำ ช่วยกันไป วันนี้ขาดนี่บ้างนั่นบ้าง บางทีก็ค่าเช่าห้อง บางทีก็ไม่พอ” น้ำเชื่อม จินนะ แม่ค้า
“(ถาม-เขาค้างค่าเช่าเยอะไหม?) ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว (ถาม-ลุงต้องควักกระเป๋าออกให้ก่อนหรือ?) ใช่ บางทีก็รวมๆ กัน เก็บคนโน้นมา นี่ผมยังไม่ได้โอนให้เขาเลยหมื่นกว่าบาท”
ธนกร บุญวัตรกิรกุล ผู้ดูแลหอพักวันไหนไม่มีงาน และรู้ว่ามีผู้ใจบุญมาแจกข้าวสารอาหารแห้ง บุญธรรม ภรรยาของตู่ จะไม่พลาดโอกาสนั้น เพราะนั่นสามารถช่วยให้ครอบครัวอิ่มท้องไปได้หลายวัน
ตู่และภรรยา มีลูกวัยกำลังน่ารัก 2 คน แม้คนน้องจะบกพร่องทางการเรียนรู้ (โรคแอลดี) แต่สำหรับพ่อแล้ว ลูกก็น่ารักเสมอ
“น้องตูนอายุ 10 ขวบ น้องตา 9 ขวบ ลูก 2 คนน่ารักคนละแบบ คนหนึ่งเอาแต่ใจ คนหนึ่งขี้อ้อน คนโตขี้อ้อน อ้อนอยากได้รถบังคับ อยากกินโน่นนี่ บอกถ้าพ่อมีตังค์ พ่อซื้อให้ เวลาลูกขอ เราต้องดูตังค์ บางครั้งก็ให้บางครั้งก็ไม่ให้ เวลาไม่ให้ เขาก็เสียใจ เราบอกว่า เราไม่มีตังค์ น้องตูนก็ ครับพ่อ”
“คนเล็กสมองเขาไม่ค่อยดี เขาจะโมโหร้าย จะเอาใครไม่อยู่ หนูจะเป็นห่วงพ่อเขามากกว่า เพราะพ่อเขาเดินไม่ได้ เขาจะทำร้ายร่างกายพ่อเขา ถ้าอารมณ์เสียขึ้นมา” บุญธรรม ภรรยาอดห่วงสามีไม่ได้
“โทรทัศน์นี่ตั้งข้างล่างไม่ได้ ถ้าตั้งข้างล่าง เขาปีนขึ้นข้างบน ขึ้นไปได้ ปรบมือแปะๆ หงายท้องลงมา จะตายเอา แต่เขาเอาแต่ใจ ใครขัดใจเขาไม่ได้ ถ้าขัดใจ นั่งเงียบเลย (ถาม-พอรู้ว่าลูกมีปัญหาทางสมอง รู้สึกอย่างไร?) ก็เสียใจ บอกไม่น่าเป็นเลย ทำไมต้องมาเป็นกับลูกเรา”
ทุกวันนี้ ภรรยาต้องพาลูกคนเล็กไปหาหมอ 3 เดือนครั้ง เพราะขาดยาไม่ได้ การมีลูกที่สมองไม่ปกติ ก็ทำให้ภรรยาตู่เคยท้อถึงขั้นอยากคิดสั้นเช่นกัน
“ย่ำแย่ ท้อไปมาก ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย บางทีก็อยากจะฆ่าตัวตายเหมือนกัน ถามว่าตีเขาไหม บางทีก็ตี เพราะอยากให้เขาได้ดี บางทีคิดฆ่าตัวตาย วันนั้นหนูก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็ซื้อยาเบื่อหนูมา จะฆ่าทั้งหมด 4 คน แล้วลูกชายคนโตบอกว่า แม่ อย่าเพิ่งฆ่าตัวตายนะ เดี๋ยวหนูโตไป แม่ก็สบายแล้ว ก็เลยอยู่ได้เพราะลูก”
เมื่อไม่มีตังค์ส่งลูกเรียนสูงๆ ตู่จึงไม่กล้าคาดหวังอนาคตของลูก ขอแค่ลูกเป็น “คนดี” ก็พอ!!
“ก็ขอให้ลูกผมเป็นคนดี ถ้ามีตังค์ส่งเขาเรียน ผมอยากให้เขาจบ ปวส. แต่นี่ไม่มีตังค์ส่งให้เขาเรียน ก็ตามแต่เขา เคยถามเขา ตูน อยากเรียนจบ ป.อะไรลูก ผมอยากจบ ป.6 ทำไมล่ะลูก อยากไปขับรถแม็คโครกับพ่อ ผมก็เลยไม่รู้จะพูดยังไงกับเขา ผมบอกตามใจ อยากเป็นอะไรก็เป็น อย่าเป็นคนไม่ดีแล้วกัน”
หากท่านใดต้องการส่งเสริมอาชีพให้ตู่ ด้วยการจ้างงานขับรถแม็คโคร ติดต่อได้ที่ โทร 083-851-5041 หรือหากต้องการช่วยเหลือเป็นกำลังใจ บริจาคไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาปากน้ำ ชื่อบัญชี น.ส.บุญธรรม เอี่ยมกลั่น เลขที่บัญชี 219-0-42300-
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
ที่มา: mgronline.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ก.พ.65
วันที่โพสต์: 25/02/2565 เวลา 11:48:16 
