นายกสมาคมคนพิการ ร้องผ่านนายกฯสื่อมวลชน ขอให้ นายกอุ๊งอิ๊งค์ ช่วยดูแลคนพิการกลุ่มเปราะบาง ได้รับเงินแจกจากรัฐบาล
นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ร้องผ่าน นายณพล บริบูรณ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์ภาคตะวันออกให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ความเดือดร้อนของกลุ่มคนพิการทั่วประเทศ ผ่านไปถึง “นายกอุ๊งอิ๊ง”น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัว (คุณพ่อนายกฯ) กรณีที่รัฐบาล จะแจกเงินดิจิทัล ให้ประชาชนกลุ่มแรกซึ่งมี กลุ่มเปราะบางรวมอยู่นั้น ทางกลุ่มคนพิการรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านไม่ลืมกลุ่มรากหญ้า คนพิการและกลุ่มเปราะบาง แต่กลุ่มคนพิการ
จากสถิติจากกรมส่งเสริมและมีคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 มีคนพิการทั้งสิ้นจำนวน 2,199,798 คน (แหล่งข้อมูล สถานการณ์ด้านคนพิการ – กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (dep.go.th) ) และจากสถิติข้อมูลคนพิการจากสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการจัดทำการสำรวจความพิการครั้งแรกในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,192,291 คน (แหล่งข้อมูล (nso.go.th) ) ซึ่งข้อมูลจากทั้งแห่งไม่ตรงกัน ในจำนวนนี้มีคนพิการคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 1,229,097 คน ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2563 (แหล่งข้อมูล มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ (fcdthailand.org) ) จากข้อมูลจะเห็นได้ว่ายังมีคนพิการอีกจำนวนกว่าล้านคนที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้เสียโอกาสที่จะได้สวัสดิการต่างๆ จากรับบาล ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยความพิการที่เพิ่มเติมโดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 200 บาท และจากรัฐบาล 800 บาท ทำให้คนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เบี้ยความพิการ 1,000 บาท และกรณีล่าสุดจะให้กลุ่มคนพิการเสียสิทธิ์ ที่จะได้รับแจกเงินดิจิทัลจากรัฐบาล เพราะไม่มีสวัสดิการแห่งรัฐ
นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก จึงออกมาเรียกร้องผ่าน นายกสื่อมวลชนฯ ข่วยเผยแพร่ข่าว ความเดือดร้อนของกลุ่มคนพิการ ผ่านไปถึง “นายกอุ๊งอิงค์”น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี และท่านทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อให้ทราบข้อมูลของกลุ่มคนพิการ ขอความเห็นเรียกร้องให้คนพิการได้รับสวัสดิการแห่งเป็นบนฐานสิทธิ์ที่ควรได้รับสวัสดิการจากรัฐโดยถ้วนหน้า หรือเรียกให้สำรวจคนพิการที่ตกหล่น หรือขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งใหม่ เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิ์จากโดยถ้วนหน้าและทั่วถึง
ขอบคุณ... https://www.topnews.co.th/news/1056257