หนุ่มชีวิตเปลี่ยนตลอดกาล ฮึดสู้ส่งลูกเรียนจุฬา ลั่นคนพิการต้องมีงานทำ
นัดเดียวชีวิตพัง หนุ่มพิการเปิดใจลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เล่าเหตุการเปลี่ยนชีวิต ส่งลูกเรียนจบจุฬา ลั่นอย่าท้อ หากส่งเสริมให้มีงานทำ ก็สามารถส่งลูกเรียนจบ มีอนาคตได้
เป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาคนฟังสะเทือนใจ เมื่อหนุ่มรายหนึ่งที่กำลังสร้างอนาคตแต่ต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต เพราะฮึดสู้โจร เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ได้โอกาสกลับมาทำงานอีกครั้ง
นายบุญเลิศ ตันติวงศ์ อายุ 48 ปี ได้เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต จากเซลล์แมนที่กำลังมีอนาคตทำยอดสูงเลี้ยงครอบครัวสบายๆ โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ระหว่างไปติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ลูกค้า แต่ระหว่างทาง ถูกวัยรุ่นดักปล้น ด้วยเพราะเห็นว่าโจรอายุไม่มาก จึงตัดสินใจสู้เพื่อปกป้องทรัพย์สิน แต่สุดท้ายอีกฝ่ายมีปืน จึงถูกยิงใส่กลางหลัง จนอาการโคม่า
นายบุญเลิศ กล่าวว่า เหตุการณ์ตอนนั้น อาการตนเองหนักมาก หมอแจ้งครอบครัวว่าหากฟื้นก็อาจจะเดินไม่ได้ จะถอดเครื่องช่วยหายใจหรือไม่ แต่พ่อแม่ทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกชายไป และตอนนั้น ผมเองก็มีลูกสาวแล้ว ครอบครัวจึงขอเพียงตนรอดชีวิตได้ แม้จะต้องดูแลไปตลอดชีวิตก็จะทำ
“ วินาทีที่ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่า เดินไม่ได้ เหมือนชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ลูกก็ยังเล็ก เดินไม่ได้ก็ทำงานไม่ได้ มืดไปหมด ไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไง สภาพจิตใจทั้งห่อเหี่ยว ท้อแท้ เคยมีความคิดว่าไม่อยากอยู่ต่อ แต่เมื่อเห็นหน้าลูกก็ทำไม่ได้ จนมีคนบอกให้เราคิดบวก มีชีวิตเพื่อลูก อยู่เพื่อเห็นเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และลูกก็บอกว่าให้พ่อสู้เขาจะเป็นกำลังใจให้ ก็ได้ลูกและครอบครัวเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุด ”
นายบุญเลิศ กล่าวว่า เมื่อผ่านเวลา ยอมรับว่าตัวเองต้องพิการถาวร ก็เริ่มคิดถึงการหารายได้ ที่คนพิการอย่างเราสามารถทำได้ ซึ่งก็ต้องค้นหาข้อมูล หาการอบรมอาชีพ จนได้มาเจอมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก สสส. เพื่อที่จะ ช่วยเหลือผู้พิการ ในเรื่องการ สร้างอาชีพ จึงได้รับคำแนะนำให้เข้ามาทำงานที่ สถานีอนามัยใกล้้บ้าน หากไม่มีการแนะนำ หรือรวบรวมข้อมูลไว้ เราเองก็คงไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
“ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ ในช่วงที่เราได้ทำงานที่นี่ ก็ได้เก็บเงินเพื่อที่จะส่งลูกเรียนในขณะที่เขาใฝ่ฝัน เพราะในช่วงที่ลูกสาวเรียนมัธยมปลายน้องชายของเรา ก็เป็นคนส่งเสียให้เขาเรียนจนจบ จนกระทั่งลูกสาวเรียนมหาลัย เราใช้เงินเงินเก็บ 1 ก้อน ที่ได้จากการทำงาน มาส่งเสียลูกสาวเรียน และโชคดีที่ลูกสาวสามารถขอทุนของคณะได้ก็เลยช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่าเทอมไปได้บ้าง จนเขาเรียนจบ และทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ การที่ผมเดินไม่ได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกตั้งใจผลักดันตัวเองจนมีวันนี้ ซึ่งผมก็รู้สึกโชคดีที่มีลูกสาวที่ดีเช่นกัน“
นายบุญเลิศ กล่าว่วา หลังยอมรับว่าต้องพิการ ยอมรับว่า หาวิธีที่จะดูแลตัวเอง และหาเงินเลี้ยงชีพมาตลอด ตั้งแต่ที่ได้มาทำงานที่นี่ก็รู้สึกว่าชีวิตของเรามีคุณค่าอีกครั้ง โชคดีที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้และเราสามารถที่จะยืนอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ เมื่อเราได้รับโอกาสในการทำงานแล้ว เราก็ทำมันออกมาให้ดีที่สุด
นายบุญเลิศ กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนพิการไม่ค่อยมีอาชีพแต่เมื่อมีมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งสนับสนุนโดย สสส. เข้ามาช่วยเหลือ มีโครงการที่หลากหลาย ก็ทำให้คนพิการสามารถมีอาชีพได้ จากที่ตนทราบ คนพิการประมาณ 3,000 – 4,000 คน ที่มูลนิธิได้ช่วยเหลือ คนพิการแต่ละคน มีเงินเก็บ มีอาชีพเสริมสามารถส่งลูกเรียนจบ มีอนาคตได้ คนพิการบางคน มีเงินที่จะซื้อทรัพย์สินให้ตัวเอง มูลนิธิจะปลูกฝังให้รู้จักออม มีวินัยในการใช้เงิน และการดูแลสุขภาพ จะรณรงค์ให้คนพิการมีความสุข ทั้งกายและใจ มีเงินเก็บสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ ตอนนี้เราใช้ชีวิตไม่ห่วงอะไรแล้ว ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีให้ดี และเฝ้ามองลูกเติบโต
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสาเหตุที่คนพิการไม่ อยากออกจากบ้าน หรือหางานทำ เป็นเพราะคนพิการ ไม่อยากเป็นภาระของสังคม ซึ่งความรู้สึกนี้มันก็เคยเกิดขึ้นกับตนเหมือนกัน รู้สึกเกรงใจและไม่สบายใจที่มีคนมาคอยดูแล ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอาจจะไม่คิดอะไร แต่เราคิดไปเอง จึงอยากจะบอกกับคนพิการว่า อย่าไปคิดว่าจะเป็นภาระสังคม อยากให้ออกมาใช้ชีวิต คนในสังคมยินดีที่จะช่วยเหลือ และเราสามารถที่จะทำงานหาเงินหารายได้เหมือนคนปกติ และเมื่อวันนั้นที่เราได้รับโอกาสมา เราต้องคว้าโอกาสมันไว้ และทำมันออกมาให้ดีที่สุด
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9385353