‘ลุงอ๋อย’ พิการขายหวยสู้ชีวิตแร้นแค้น อดบ้าง อิ่มบ้าง ขอทำเพื่อแม่จนลมหายใจสุดท้าย
เมื่อวันที่ชีวิตเปลี่ยน "ลุงอ๋อย" ต้องกลายเป็นคนพิการขาขาด สิ้นหวัง คิดว่าชีวิตพังทลาย แต่มีแม่ที่แก่ชราคอยให้กำลังใจ หันขี่สามล้อโยกขายหวย สู้ความแร้นแค้น อดบ้าง อิ่มบ้าง แต่ก็ขอทำเพื่อแม่จนลมหายใจสุดท้าย
เป็นภาพชินตาที่คนย่านวัดราษฎร์ประคองธรรม อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เห็นเป็นประจำทุกวัน “ลุงอ๋อย” พิการขาขาด แต่งตัวมอซอ โยกรถสามล้อขายลอตเตอรี่ไปตามถนน เหงื่อไหลไคลย้อย ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ใครจะรู้ว่าชีวิตลุงนั้นแร้นแค้นแสนลำบาก ต้องเลี้ยงแม่ที่แก่ชราอยู่กันลำพัง 2 คน ในบ้านที่ผุพังทรุดโทรม แต่ลุงอ๋อย ก็ไม่ท้อขอสู้ชีวิต เพราะเชื่อว่าคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ขอเพียงอย่าท้อแท้สิ้นหวัง ต้องสร้างพลังแรงใจด้วยตัวเอง แล้วลุกขึ้นสู้ต่อ
นายจุฬากร อาจยุทธ์ หรือ ลุงอ๋อย อายุ 60 ปี พิการขาขวาขาด ทำอาชีพขี่รถสามล้อโยกขายลอตเตอรี่ พักอาศัยอยู่กับ นางเปล่งศรี ศิษย์พล อายุ 78 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยิน ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว อยู่หลังวัดราษฎร์ประคองธรรม สภาพบ้านเก่าทรุดโทรม ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เวลาฝนตกหลังคารั่วน้ำหยดลงมาต้องหาที่หลบให้วุ่น ทางเข้าบ้านก็มีเพียงไม้อัดแผ่นเดียวพาดเอาไว้ใช้เดินเข้าบ้าน ยิ่งน้ำท่วมสูงก็ยิ่งเข้าออกลำบาก
ลุงอ๋อย เล่าเรื่องราวชีวิตว่า ลุงพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับแม่มาได้ประมาณ 20 ปีแล้ว โดยพ่อเสียชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน ลุงเคยมีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นลูกสาวทั้งคู่ ต่อมาลุงกับภรรยาได้แยกทางกันตอนที่ลูกสาวอายุประมาณ 15 ปี ภรรยาได้พาลูกสาวทั้ง 2 คนไปด้วย แต่ลูกสาวทั้ง 2 คน ก็ยังแวะเวียนมาหาอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก ก่อนหน้านี้ลุงก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ช่วยแม่ขายข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ในวัดราษฎร์ประคองธรรม
กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อน ช่วงโรคโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก ลุงเกิดอุบัติเหตุขี่รถจักรยานล้ม ทำให้เป็นแผลถลอกที่ขาขวา ประกอบกับตรวจพบว่าติดโควิด จึงต้องไปกักตัวที่ศูนย์พักคอย แผลถลอกที่ขาจึงไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แผลติดเชื้อและลุกลามไปทั่ว เเพทย์จึงต้องทำการผ่าตัดขาทิ้งเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องกลายเป็นคนพิการ ช่วงแรกก็ยากที่จะทำใจ ไม่รู้ชีวิตจะดำเนินไปอย่างไร สิ้นหวัง! แต่เมื่อเห็นหน้าแม่ที่แก่ชราก็ทำให้ลุงคิดได้ว่าต้องลุกขึ้นสู้ และเรียนรู้ปรับตัวที่จะต้องอยู่ต่อไป
“หลังจากรักษาตัวหายดีแล้ว ลุงได้ขอยืมเงินเพื่อนที่อยู่พัทยา 10,000 บาท เพื่อมาลงทุนขายลอตเตอรี่เลี้ยงตัวเองกับแม่ที่แก่ชรา แต่รายได้จากการขายลอตเตอรี่ก็ไม่ได้มากอะไร วันหนึ่งขายได้ประมาณ 8-10 ใบ มีรายได้เฉลี่ยวันละไม่ถึง 100 บาท บางวันก็ขายไม่ได้เลย ต้องอดข้าวกับแม่ก็มี บางวันขี่สามล้อออกไปตั้งไกล ขายลอตเตอรี่ได้ใบเดียวก็มี ส่วนเบี้ยเลี้ยงคนพิการตนก็ได้ แต่ไม่เพียงพอใช้จ่ายภายในบ้าน ที่ผ่านมาจะมีเพื่อนบ้านและเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรมคอยช่วยเหลือ นำข้าว อาหาร และน้ำดื่ม มาให้ประจำทุกวัน ลุงซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก”
ตอนนี้น้ำท่วม เข้าออกบ้านลำบาก ก็ได้เพื่อนบ้านช่วยทำสะพานไม้ให้ แต่ลุงก็ยังต้องปีนข้ามกำแพงเพื่อไปที่รถสามล้อ ลำบากมาก เกือบหงายหลังอยู่หลายรอบ ขณะที่บ้านก็ทรุดโทรมผุพัง เวลาฝนตกหลังคาก็รั่ว น้ำหยดเปียกไปทั่ว เคยมีเจ้าหน้าที่จากทางเทศบาลมาดูถึง 2 รอบ แต่ก็ยังไร้วี่แววที่จะเข้ามาซ่อมให้ ลุงเป็นห่วงแม่เวลาฝนตกเพราะต้องอยู่บ้านคนเดียว ยิ่งตอนนี้น้ำท่วมด้วย ก็ยิ่งเป็นห่วง อยากซ่อมแซมหลังคาที่รั่ว และอยากได้เครื่องช่วยฟังให้แม่ เพราะแม่หูไม่ดี เวลาเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นจะได้รู้ทันท่วงที
“ชีวิตที่ยากแค้นแสนเข็ญ บางวันขายลอตเตอรี่ไม่ได้ แทบไม่มีอะไรกิน รู้สึกท้อแท้มาก แต่ลุงก็บอกตัวเองว่า ท้อได้แต่อย่าถอย ซึ่งลุงก็จะขอสู้เพื่อเเม่ จะไม่มีวันทิ้งเเม่เป็นอันขาด และอยากฝากไปถึงคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไรให้ดูลุงเป็นตัวอย่าง ลุงเจออุปสรรคเจออะไรมาสารพัด แต่ลุงก็ยังมีกำลังใจจากเเม่ ทำให้ลุงมีเเรงลุกขึ้นมาสู้กับทุกปัญหา ลุงขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน และขอให้ผ่านอุปสรรคหรือเรื่องราวร้ายๆ ที่เข้ามาในชีวิต ไปได้อย่างราบรื่น”
ด้านพระครูกิตติวิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ครอบครัวนี้เข้ามาอยู่ในพื้นที่วัดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนครอบครัวของโยมอ๋อย ก็เข้ามาช่วยบูรณะวัด ช่วยวัดได้หลายอย่าง จนกระทั่งเขาถูกไล่ที่ ไม่มีที่ไป อาตมาจึงให้เขามาพักอาศัยอยู่ภายในบริเวณวัด พอโยมอ๋อยต้องตัดขาทิ้ง อาตมาก็รูัสึกสงสารโยมอ๋อยเหลือเกิน เพราะโยมอ๋อยเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ มีความกตัญญูกับแม่ ซึ่งชาวบ้านเเถวนี้และทางวัดต่างก็พากันช่วยเหลือครอบครัวของโยมอ๋อยมาโดยตลอด
“สุดท้ายนี้อาตมาอยากจะฝากไปถึงญาติโยมผู้ใจบุญและผู้ที่มีจิตศรัทธาทั้งหลาย โปรดช่วยกันบริจาคสิ่งของหรือปัจจัยมาช่วยครอบครัวของโยมอ๋อย โดยติดต่อกับโยมอ๋อย โดยตรงได้ที่เบอร์โทร. 09-4950-7820 อาตมาอยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวอาตมาเชื่อว่า คนที่มีความกตัญญกับพ่อเเม่ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้อย่างแน่นอน และขออนุโมทนาบุญมา ณ ที่นี้” พระครูกิตติวิริยาภรณ์ กล่าว