ชาวขอนแก่น ร่วมกิจกรรม แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8
ชาวขอนแก่น ร่วมกิจกรรม แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไปสู่เป้าหมาย “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค”
เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 30 ต.ค.65 ที่ สวนสุขภาพบึงทุ่งสร้าง จังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรม โครงการ “แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ” จังหวัดขอนแก่น โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด ศาล ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ องค์กรต่างๆ และประชาชนผู้รักสุขภาพ มาร่วมขยับร่างกาย เพื่อออกกำลังกาย สร้างสุขภาพที่ดี ภายในงานประกอบด้วย การให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง การออกกำลังกาย การเดิน วิ่ง ปั่น โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 คน
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กิจกรรม แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็น ดั่งแสงนำใจของประชาชนไทย และให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ส่งเสริมการให้ความรู้และการป้องกัน เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษาและลดภาระของปัญหาโรคเรื้อรัง โดยให้ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย และทุกหมู่เหล่า มีโอกาสออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ซึ่งถ้าทำเป็นประจำจะทำให้มีสุขภาพดีห่างไกลโรค และการออกกำลังกายเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค”
โดยศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดกิจกรรมเชิงรุกสู่ชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอาการและแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอาการและการป้องกันโรค ในชื่อโครงการ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ” ที่ทรงเป็น ดั่งแสงนำใจของประชาชนไทย และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย ทรงมีพระเมตตาแผ่ไพศาลแก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ และเชื้อชาติ พระราชทาน รถต้นแบบรักษาอัมพาตเคลื่อนที่สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ และเป็นรากฐานในการให้บริการไปทั่วประเทศดังประจักษ์ชัด
“ในประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิงและอันดับสามในเพศชาย รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง นอกจากนั้น โรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง การศึกษาในประเทศไทยพบว่าในผู้ป่วย 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้ว ยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย โดยร้อยละ 80 ของภาวะดังกล่าวจะเกิดในประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา ดังนั้นจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะพบโรคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ หากประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี”
กิจกรรมมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด DMHTT [Distancing (อยู่ห่างไว้) Mask wearing (ใส่มาส์กกัน) Hand washing (หมั่นล้างมือ) Testing (ตรวจให้ไว) ThaiChana (ใช้ไทยชนะ และหมอชนะ) และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
ขอบคุณ... https://bit.ly/3sHZavs