แม่สู้ชีวิต!! “คุณยายบุญช่วย” วัย 90 ตาบอด 1 ข้าง ดูแลลูกสาวพิการ-ลูกชายสติไม่ค่อยสมประกอบ!
รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “คุณยายบุญช่วย” คุณแม่วัย 90 ที่แม้สังขารจะร่วงโรยถดถอย และตาบอด 1 ข้าง แต่ยังต้องดูแลลูกสาวป่วยพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และลูกชายสติไม่ค่อยสมประกอบอีก 1 คน
ณ บ้านหลังเล็กๆ ที่ผู้ใจบุญช่วยกันปลูกขึ้นอย่างง่ายๆ กลางสวนใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มี 3 ชีวิตแม่-ลูกพักอาศัยอยู่ คือ แม่ที่แก่ชรา ลูกสาวที่โรครุมเร้าจนพิการ และลูกชายที่สติไม่ค่อยปกติ แต่ไม่ได้มีพิษภัยกับใคร
แม้สังขารจะร่วงโรยและถดถอยลงตามกาลเวลาที่ผ่านไป 90 ปีแล้ว แต่ "คุณยายบุญช่วย โคกจินดา" ที่เหนื่อยมาทั้งชีวิตกับการทำมาหาเลี้ยงลูกๆ 5 ชีวิต ก็ยังไม่สามารถหยุดพักจากการเลี้ยงลูกได้ เพราะแม้ลูกจะเสียชีวิตไปก่อนแล้ว 1 คน มีครอบครัวไปแล้ว 2 คน แต่ลูกอีก 2 คนที่ยังอยู่กับแม่ คนหนึ่งก็อยู่ในภาวะที่แม่ต้องดูแลทุกอย่าง
"วันดี" คือลูกสาวคนเล็กที่แสนอาภัพ เพราะมีปัญหาสุขภาพตั้งแต่เด็ก แม้วันนี้จะอายุ 50 แล้ว ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่น้อย เพราะถูกหลายโรคคุกคาม และความจนทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้เพียงพอที่จะช่วยให้หายหรือดีขึ้นได้
“ร่างกายเป็นหลายโรค โรคเส้นยึด ชักเกร็ง (แขน-นิ้วมือบิดงอผิดรูป) โรคหอบ ความดัน ไขมัน ปอดตีบ และหลอดลมตีบ เวลาอาการกำเริบจะเหนื่อย หายใจไม่ค่อยออก”
"(ถาม-เริ่มมีอาการชักเกร็งตั้งแต่เมื่อไหร่?) ตอนอายุ 11 ขวบ ออกหัด เป็นไข้ กินละมุดแล้วชัก ไปหาหมอ หมอฉีดยาโดนเส้น ทำให้เดินไม่ค่อยได้ เดินจะเขย่ง (ถาม-นานไหมกว่าร่างกายจะผิดรูปแบบนี้?) 30 ปีเรื่อยมา (ถาม-ตอนที่เริ่มจะเดินไม่ได้ ได้ไปหาหมออีกไหม?) หาหมอนวดเส้น ก็ไม่ดีขึ้น (ถาม-ได้หาหมอแผนปัจจุบันไหม?) ไปอยู่ หมอบอกว่า ต้องฉีดยา เข็มละ 2 หมื่น ถึงจะดีขึ้น ถึงจะไม่เกร็ง แต่ไม่มีตังค์ฉีด"
แม้วันดีจะพูดคุยได้ปกติ แต่ด้วยโรคที่เป็นอยู่ ทำให้เธอพูดไม่ค่อยชัด เธอไม่เพียงเดินไม่ได้ แต่ยังไม่สามารถใช้มือหยิบจับอะไรได้ แถมยังมีแผลที่หลังเท้าทั้ง 2 ข้าง รักษามานานแล้ว ก็ไม่หาย
"แผลข้างหนึ่งหนังเปื่อย เป็นแผลตลอดเป็นมา 8 ปี ไม่หายเลย ส่วนอีกข้างโดนรถเข็น เป็นมา 7 เดือน หมอบอกว่า ติดเชื้อ (ถาม-ติดเชื้อ แต่นี่ 8 ปีแล้วยังไม่หาย?) ใช่ รักษาอยู่ก็ยังไม่ดีขึ้น ไปหาหมอคลินิกก็ยังไม่ดีขึ้น"
ขณะที่ "พี่ไก่" พี่ชายของวันดี วัย 59 เมื่อก่อนก็ปกติดี สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ แต่หลังจากประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ที่นั่งไปกับเพื่อนเฉี่ยวชน จนสลบไป 7 วัน พอฟื้นขึ้นมา สติก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม จากคนร่าเริง กลายเป็นไม่ค่อยพูดจากับใคร
เมื่อ "วันดี" เป็นลูกสาวคนเดียวที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย แม่วัย 90 จึงต้องช่วยทุกอย่าง ตั้งแต่การแปรงฟัน ป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดตัว ไปจนถึงเรื่องการขับถ่ายของเสีย
ขณะที่สุขภาพของคุณยายบุญช่วยก็ใช่ว่าจะแข็งแรง เพราะนอกจากดวงตาข้างขวาจะมองไม่เห็นจากโรคต้อหินแล้ว ยังมีปัญหาแขน 1 ข้างไม่ค่อยมีแรง แถมกระดูกสันหลังยังมีปัญหา จนมีภาวะหลังค่อม
“พี่ต๊ะ” จารุณี ลูกสาวคนโตที่แยกไปมีครอบครัวแล้ว เล่าว่า กระดูกสันหลังของแม่มีปัญหาจากการพาวันดี ลูกสาวคนเล็ก อาบน้ำ
"หลังเขาง้อม พาวันดีอาบน้ำนั่นแหละ แล้ววันดีเขาล้มทับ แม่เลยกระดูกสันหลังหัก ไปหาหมอ (ถาม-ทุกวันนี้แม่ยังพาวันดีไปอาบน้ำอีกไหม?) ไม่อาบแล้ว ฉันมาช่วยเช็ดตัว บางทีน้องสาวอีกคน (วันเพ็ญ) มา ก็ช่วยกันจับอาบ"
แม้จะมีครอบครัวไปนานแล้ว แต่พี่ต๊ะ ในวัย 60 กว่า ก็อดห่วงแม่และน้องสาวไม่ได้ จึงคอยแวะเวียนมาช่วยดูแลทุกวัน ทั้งหุงข้าวทำกับข้าวให้กินตามอัตภาพ ซักผ้า ช่วยพาน้องสาวอาบน้ำเช็ดตัว หรือแม้แต่การเข็นวีลแชร์พาขึ้นแท็กซี่ไปหาหมอ เพราะลำพังแม่คนเดียว ร่างกายทำไม่ไหวแน่นอน
เช่นเดียวกับ “พี่วันเพ็ญ” ที่แม้จะมีครอบครัวไปแล้ว แถมสุขภาพไม่ค่อยดี ยังหมั่นมาช่วยดูแลแม่และน้องสาวทั้งช่วยพาอาบน้ำ ช่วยยกแกลลอนไปซื้อน้ำกรอกน้ำมาไว้ให้แม่และน้องสาวได้กิน
คุณยายบุญช่วยเลี้ยงลูกๆ มาเพียงลำพัง 30 ปีแล้วตั้งแต่คุณตา สามีเสียชีวิตไป ชีวิตคุณยายลำบากมาตลอด ตอนสามียังอยู่ ก็ช่วยกันทำงานรับจ้างขุดดินถอนหญ้า แต่เมื่อลูกป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ต้องดูแลลูกเป็นหลัก
ทุกวันนี้คุณยาย กับวันดี ลูกสาวที่ป่วยพิการ และพี่ไก่ ลูกชายที่สติไม่ค่อยสมประกอบ ดำรงชีพด้วยเบี้ยคนชราของแม่และเบี้ยผู้พิการของลูกเท่านั้น เพราะไม่สามารถทำงาน จึงไม่มีรายได้ โชคยังดีที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน เพราะผู้ใจบุญปลูกบ้านเล็กๆ ให้อยู่ เสียเพียงค่าน้ำค่าไฟเท่านั้น
“ไม่พอกินหรอก (ถาม-ไม่พอ แล้วทำยังไง เอาที่ไหนใช้จ่าย?) เราก็กินน้อยๆ ไง มีเท่าไหร่เราก็ซื้อเท่านั้น (ถาม-เคยอดถึงขั้นไม่มีอะไรกินไหม?) ก็เคยเหมือนกัน (ถาม-ถ้าวันไหนไม่มีตังค์ บอกลูกว่ายังไง?) เราก็กินน้อยหน่อย”
แม้ชีวิตจะลำบาก แต่คุณยายไม่เคยท้อ สิ่งที่ยายห่วงอย่างเดียวก็คือ“ห่วงว่าถ้าเราตาย ลูกเต้าจะอยู่กับใคร ลำบากเหมือนกัน”
ขณะที่พี่ต๊ะ บอกว่า“ห่วงแม่และรักน้องเหมือนกัน ก็ต้องดูแลกันไปอย่างนี้ แล้วแต่ว่า แม่จะนั่น หรือน้องจะนั่น เราก็ต้องดูแลกันไป เราต้องสู้ชีวิต เราต้องสู้”
สำหรับ “วันดี” ที่ต้องอยู่กับสภาพความพิการ ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้ ยอมรับว่า ทุกครั้งที่เห็นแม่ต้องช่วยดูแลทำทุกอย่างให้ ตัวเองจะอดน้ำตาไหลไม่ได้
“สงสารแม่ ที่เราทำให้แม่ต้องลำบาก เสียใจว่า เราโตขนาดนี้แล้ว แม่แก่แล้ว ต้องมาทำให้เรา เสียใจที่เราต้องมาเจอสภาพแบบนี้”
“ได้กำลังใจจากคุณแม่ คอยปลอบใจ อย่าคิดมาก สู้ต่อไป อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป เราจะอยู่ด้วยกันจนตาย แม่พูดทุกวันเลย ว่าหนูอย่าท้อ แม่เป็นกำลังใจให้”
เมื่อไม่รู้ว่า วันข้างหน้าชีวิตจะเป็นอย่างไร จะมีโอกาสรักษาหาย เพื่อได้ช่วยเหลือดูแลทดแทนพระคุณแม่บ้างหรือไม่ในชาตินี้? “วันดี” จึงทำได้เพียง“อยากขอว่า ถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง ให้หนูเกิดมาเป็นลูกแม่ ให้หนูเป็นคนปกติ หนูจะดูแลแม่ทุกอย่างเลย หนูรักแม่ที่สุดในโลกเลย”
หากท่านใดอยากให้กำลังใจหรือช่วยเหลือคุณยายบุญช่วยและลูกๆ สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นางบุญช่วย โคกจินดา เลขบัญชี 020-240-947-752 หรือหากต้องการติดต่อ โทรไปได้ที่ 090-230-8340