กลัวเกิดชาติหน้า "พิการ" สาเหตุคนไทยไม่ยอมบริจาคอวัยวะ
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เผยผลสำรวจความคิดเห็น คนไทย 80% เห็นด้วยกับการบริจาคอวัยวะ แต่มีเพียง 20% ที่ร่วมบริจาค เหตุเชื่อว่า ในชาติหน้าอวัยวะจะไม่ครบสมบูรณ์ ชี้ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต สามารถบริจาคได้ 8 อวัยวะ
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย องค์กรสมาชิกทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดงาน World Organ Donation Day 2024 ภายใต้แคมเปญ "Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ"
นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะและศูนย์ผ่าตัดปลูกถ่ายไตในทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และสภากาชาดไทยสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะที่สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกถึง 8 ชีวิต
ด้าน นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะสะสม จำนวน 1,646,469 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5 ของประชากรทั่วประเทศ และในปี 2567 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะแล้วทั้งสิ้นเพียง 485 ราย
เนื่องจากผู้ที่สามารถบริจาคได้ต้องอยู่ในภาวะสมองตาย และญาติต้องยินยอมเท่านั้น หรือเป็นโรคติดเชื้อรุนแรง มะเร็ง หรืออวัยวะเสื่อม ไม่สามารถบริจาคได้
จึงมีผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะจำนวนมาก โดยมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง มีจำนวนมากถึงหลักแสนคนขึ้นไป และทุกวันนี้ต้องล้างไตผ่านช่องท้องหรือไม่ก็ฟอกเลือด แต่วิธีดีที่สุดคือการปลูกถ่ายไต ซึ่งก็ต้องรอรับอวัยวะบริจาค ขณะที่ดวงตาก็เช่นกันมีผู้มองไม่เห็นหลักหมื่นคน แต่ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาจริง ๆ ได้เพียงปีละไม่ถึง 1,000 คน ซึ่งอวัยวะทุกส่วนยังมีคนไข้อีกจำนวนมากที่เฝ้ารออย่างมีความหวัง
1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต สามารถบริจาคได้ 8 อวัยวะ ได้แก่ ไต 2 ข้าง ปอด 2 ข้าง หัวใจ ตับ ตับอ่อน และลำไส้เล็ก
นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ กระจกตา ลิ้นหัวใจ หลอดเลือด ผิวหนัง กระดูกและเส้นเอ็น และในการส่งทีมแพทย์และพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคสมองตายต่าง ๆ เพื่อนำผ่าตัดเอาอวัยวะออก และเก็บรักษาไว้ด้วยน้ำยาถนอมอวัยวะในกระติกน้ำแข็งและเอากลับมาผ่าตัดให้ทันที เพราะอวัยวะที่ผ่าตัดมานั้นมีเวลาขาดเลือดจำกัด โดยหัวใจ อยู่ได้แค่ 4 ชั่วโมง ตับ 12 ชั่วโมง ไต 24 ชั่วโมง ทีมแพทย์ต้องทำงานแข่งกับเวลา
นพ.วิศิษฏ์ กล่าวเสริมว่า ต้องสร้างความเข้าใจให้กับสังคมว่า การบริจาคอวัยวะและดวงตา เป็นบุญในการช่วยชีวิต อย่ากลัวว่าบริจาคไปแล้วเมื่อเราไปเกิดในชาติหน้าจะทำให้พิการ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ แต่ที่แน่ ๆ เราทำดีก็ต้องได้สิ่งดี ๆ แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องช่วยกันหลาย ๆ ฝ่าย
จากการสำรวจความคิดเห็นที่ผ่านมาพบว่า 80% เห็นด้วยกับการบริจาคอวัยวะ แต่มีเพียง 20% ที่จะยอมบริจาคอวัยวะ
ช่องทางร่วมบริจาคอวัยวะ
บริจาคออนไลน์ : www.organdonate.in.th หรือ https://eyeorgandonate.redcross.or.th/ และ แอปพลิเคชัน "บริจาคดวงตา-อวัยวะ"
บริจาคด้วยตนเอง : ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) ชั้น 5 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
บริจาคผ่านเครือข่ายฯ อาทิ
•สำนักเหล่ากาชาดจังหวัด หรือ สำนักงานกิ่งกาชาด ทุกจังหวัด
•โรงพยาบาลประจำจังหวัดในสังกัด กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
•สำนักงานเขต เทศบาล และเมืองพัทยา ที่ให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชน
•ผ่าน แอปพลิเคชัน และ Line OA "หมอพร้อม"
•กรมการขนส่งทางบก สำหรับผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะแล้วสามารถแจ้งความประสงค์ขอเพิ่มสัญลักษณ์ ของสภากาชาดไทย "กากบาทแดงบนพื้นสีขาว" และเพิ่มข้อความ "บริจาคอวัยวะ" ให้แสดงบนหน้าใบอนุญาตขับรถ