คลังโอนเงินหมื่นซ้ำรอบ 2 ไม่สำเร็จ 4.3 หมื่นราย แนะอัพเดทข้อมูลก่อนหมดสิทธิ
กระทรวงการคลัง เผยคืบหน้าการจ่ายเงินหมื่น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-คนพิการ จ่ายซ้ำรอบสอง 21 พ.ย. 67 ไม่สำเร็จ 43,699 ราย เหตุไม่อัพเดตข้อมูล - บัญชีไม่ถูกต้อง ย้ำจ่ายซ้ำครั้งสุดท้าย 19 ธ.ค. นี้ แนะเร่งแก้ไขก่อนหมดสิทธิ เงินหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 1.44 แสนล้าน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายโครงการรวมประมาณ 14.55 ล้านคน ว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงิน 10,000 บาทต่อราย ให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 โดยมียอดรวมที่จ่ายเงินสำเร็จแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 14,437,625 ราย
ทั้งนี้ ในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 กรมบัญชีกลาง ได้สั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีสิทธิจำนวน 73,967 ราย โดยประกอบด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมา และการจ่ายเงินให้แก่คนพิการที่ได้ดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการหรือแก้ไขข้อมูลบัตรประจำตัวคนพิการเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี พบว่าในรอบการจ่ายเงินซ้ำดังกล่าว ยังมีการจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 43,699 ราย เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1. คนพิการ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 4,300 ราย มีสาเหตุจากบัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้องรวมกัน 169 ราย และกรณีคนพิการที่ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการมาก่อนทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับเงินซึ่งกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงินให้คนพิการกลุ่มนี้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนแทน แต่พบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ไม่สำเร็จอีกเป็นจำนวน 4,131 ราย
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 39,399 ราย มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน บัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร และเลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง ในจำนวนนี้รวมถึงกรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการด้วยแต่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุและยังไม่ได้ต่ออายุบัตรภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับการจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามสิทธิของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เมื่อพบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ
โฆษกกระทรวงการคลังจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 43,699 ราย รีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไขบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีปัญหาข้างต้นโดยเร็ว เนื่องจากจะมีการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนพิการอีกจำนวน 31,634 ราย ที่กรมบัญชีกลางยังไม่สามารถสั่งจ่ายเงินให้ได้ เนื่องจากจะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องเสียก่อนตามเงื่อนไขของโครงการฯ ทั้งนี้ การทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการต้องดำเนินการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ส่วนการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนหรือแก้ไขบัญชีต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งจะได้รับการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำ Retry ครั้งที่ 3 (ครั้งสุดท้าย) ในวันที่ 19 ธันวาคม 2567
โฆษกกระทรวงการคลังยังได้เน้นย้ำว่า เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั้งสิ้น 14,437,625 ราย ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 144,376.25 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินส่วนนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและครอบครัวต่อไป
ช่องทางการติดต่อ
1. ตรวจสอบสิทธิและผลการโอนเงิน: เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th (ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ในวันถัดไป หลังจากวันที่จ่ายเงิน)
2. สอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3. สอบถามข้อมูลคนพิการ: ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
4. สอบถามข้อมูลบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์: โทรศัพท์หมายเลข 0 2881 4999 หรือสายด่วน 1111 กด 79
ขอบคุณ... https://www.nationtv.tv/economy-business/economy/378951908#google_vignette