หลานสาวแสบหลอกยืมโฉนดที่ดินตายายจำนอง หนีหายไม่ใช้หนี้ถูกนายทุนฟ้องขับไล่
หลานสาวแสบหายจ้อย หลังหลอกยืมโฉนดที่ดินสองตายายจำนอง ไม่ใช้หนี้ จนถูกนายทุนฟ้องขับไล่ ศาลไกล่เกลี่ยให้ผ่อน แต่อายุเยอะทำงานไม่ไหว แถมขาหัก มีเพียงเบี้ยคนแก่-คนพิการ วอนช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายภิญโญ ศรีศุภร นายก อบต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า มีชาวบ้านซึ่งเป็นสองสามีภรรยา ผู้สูงอายุ และพิการทางการเคลื่อนไหว ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากนายทุนฟ้องร้องทวงหนี้ และขับไล่ออกจากที่อยู่อาศัย ที่บ้านเลขที่ 70 บ้านหนองคับคา หมู่ 3 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนศาลต้องเรียกไกล่เกลี่ย และยอมที่จะผ่อนชำระ แต่ไม่มีเงินจะผ่อนส่ง เพราะอยู่ในวัยชรา ทำงานหาเงินไม่ได้ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ได้พบกับ นายสมใจ ไชยกัน อายุ 81 ปี และนางก้าน ไชยกัน อายุ 86 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน พร้อมด้วย นายภิญโญ ศรีศุภร นายก อบต.ท่าคล้อ และนายเสถียร สิงหาเวช ส.อบต.บ้านหนองคับคา กำลังเยี่ยมให้กำลังใจและพูดคุยสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นายสมใจ ไชยกัน เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 หลานสาวมาขอให้ตนนำโฉนดที่ดินแปลงที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยนี้ ไปจำนองกู้เงินมาให้หน่อย จะนำไปลงทุนค้าขาย โดยหลานบอกว่าจะเลี้ยงดูตนกับภรรยา ซึ่งจำนองได้เงินไป 275,000 บาท ทำสัญญาว่าจะคืนเงินภายใน 1 ปี หลังจากได้รับเงินแล้ว หลานสาวก็หายไปเลย เงินที่กู้ยืมไปก็ไม่ส่งคืน นายทุนจึงยื่นฟ้องตน ศาลนัดไกล่เกลี่ย ตกลงกันว่าตนจะผ่อนชำระให้นายทุนผู้ให้กู้ เดือนละ 3,500 บาท ซึ่งตนอายุมากแล้ว และพิการขาหัก 2 ท่อน ไม่ได้ทำงาน มีรายได้เพียงเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท เงินสงเคราะห์คนพิการเดือนละ 800 บาท สองคนสามีภรรยาได้รับเดือนละ 3,200 บาท ตนต้องไปหยิบยืมจากพี่น้อง ผ่อนให้นายทุนมาแล้วปีกว่า ตอนนี้ไม่มีเงินจะจ่ายค่างวดรายเดือนแล้ว เพราะยืมพี่น้องไปทั่วหมดแล้ว พี่น้องก็ไม่ได้ร่ำรวย ตนจึงอยากขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือตนกับภรรยาด้วย
ด้าน นายภิญโญ ศรีศุภร นายก อบต.ท่าคล้อ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจาก ส.อบต.บ้านหนองคับคา ว่า สองตายายกำลังเดือดร้อน ซึ่งอำนาจของ อบต.ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณมาใช้จ่ายตรงนี้ได้ จึงได้ประสานไปตามหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชน เผื่อจะช่วยเหลือกันได้บ้าง