บูลลี่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ก้าวไกล'เอาคนพิการมาลงผู้แทน'แฟนคลับแห่ให้กำลังใจ
จังหวัดนครพนมมีเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 4 เขตโดยมีประชากรประมาณ 717,040 คน (พ.ศ.2564) พรรคการเมืองที่ครองใจประชาชนมายาวนาน ต้องยกให้พรรคเพื่อไทย ที่สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้หมดทุกเขต เพิ่งมาเสียฟอร์มตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะถูกแย่งไป 1 ที่นั่ง คือเขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อ.บ้านแพง อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.นาทม บุคคลที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียสถิติคือนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว หรือสหายแสง จากพรรคภูมิใจไทย ที่แจ้งเกิดในเวทีการเมืองระดับชาติเมื่อปี 2544 สังกัดพรรคความหวังใหม่
การเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม ในปี 2562 เป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะปีเลือกตั้งครั้งนั้นพรรคพลังประชารัฐ ถือว่ามาแรงกว่าใคร แต่สุดท้ายพรรคพลังประชารัฐเป็นได้แค่รองแชมป์ พรรคเพื่อไทยกวาดไป 3 เขต เสียเก้าอี้ให้กับพรรคภูมิใจไทยไป 1 เขต คือเขตเลือกตั้งที่ 1 อันเป็นฐานที่มั่นนของนายศุภชัย โพธิ์สุ ตามที่กล่าวข้างต้น
เขต 2 ดร.มนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย 42,990 คะแนน,น.ส.ณัฐฐ์ภัสส์ ยงใจยุทธ พรรคพลังประชารัฐ 22,688 คะแนน,นายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ พรรคอนาคตใหม่ 11,229 คะแนน
เขต 3 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน พรรคเพื่อไทย 33,645 คะแนน, นพ.อลงกต มณีกาศ พรรคพลังประชารัฐ 29,515 คะแนน,นางปราณี แสนมิตร พรรคอนาคตใหม่ 12,059 คะแนน
เขต 4 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ พรรคเพื่อไทย 44,675 คะแนน,นายชูกัน กุลวงษา พรรคพลังประชารัฐ 28,326 คะแนน,นายพิศาล บุพศิริ พรรคอนาคตใหม่ 7,795 คะแนน
จากสถิติการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคอนาคตใหม่อยู่อันดับ 3 ถือว่าไม่ขี้เหร่ อีกทั้งชื่อผู้สมัครก็ล้วนหน้าใหม่ทั้งหมด ชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นชื่นชอบที่ตัวพรรคมากกว่าตัวบุคคล
สำหรับการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ พรรคพลังประชารัฐ แผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ตัวผู้สมัครทั้ง 4 เขต วันที่เดินทางไปสมัครรับหมายเลขประจำตัวก็ต่างคนต่างมา ซึ่งต่างจากพรรคอื่นที่มากันเป็นทีม คาดว่าการเลือกตั้งหนนี้เป็นได้แค่พระอันดับเท่านั้น การแข่งขันจึงมีเพียงพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย ที่ชิงกันเข้าป้าย
หากดูจากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบก็กลายมาเป็นพรรคก้าวไกล ซึ่งการรับสมัคร ส.ส.ปี 2566 ทางพรรคยังคงส่งผู้สมัครครบทั้ง 4 เขตได้แก่เขต 1 นายเทิดศักดิ์ แพงสาร เบอร์ 4, เขต 2 นางสาวสุพิชญ์ชญา กิตติ์พรสิริกุล เบอร์ 8,เขต 3 นายศิริพงษ์ นานคงแนบ เบอร์ 3 และ เขต 4 นายวุฒิพงษ์ มีบุญ เบอร์ 10
โดยเฉพาะนายศิริพงษ์ นานคงแนบ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 3 หมายเลข 3 พรรคก้าวไกล อดีตนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ต้องนั่งรถวีลแชร์ไปสมัคร เนื่องจากพิการมาแต่กำเนิด หลังได้เบอร์ประจำตัวสำหรับการหาเสียงแล้วก็ได้นำมาลงเฟซบุ๊คส่วนตัว เพื่อประชาสัมพันธ์แนะนำตัวเอง ปรากฏว่ามีคนเข้าไปคอมเมนต์ทำนองบูลลี่ (Bully) ว่า "ไม่เข้าใจเขต 3 มาลงเป็นตัวแทนหมายความว่าอย่างไงครับ" และ "ผู้สมัครเขต 3 บอกตรงๆ นะครับ ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ชอบก้าวไกลนะครับ แต่หาคนที่ลงพื้นที่ช่วยประชาชนมาลงสมัครด้วยครับ อย่าเอาใครก็ไม่รู้ที่ประชาชนไม่เคยเห็นหน้า และไม่รู้ มาลงสมัครแบบนี้"
ซึ่งนายศิริพงษ์ นานคงแนบ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 นครพนม หมายเลข 3 พรรคก้าวไกลได้ตอบคอมเมนต์ดังนี้ "ขออนุญาตตอบคำถามทั้ง 2 ท่านนี้ #คำตอบสำหรับคำถามแรก : พรรคก้าวไกล พยายามจะสื่อสารกับทุกคน เรื่องความเท่าเทียม เสมอภาคกัน เราเข้าใจว่าในอดีต บ้านเราปิดกั้นไม่ให้คนพิการออกสู่สังคม ไร้ค่า ในสายตาของสังคมถูกมองว่าเป็นผู้ที่ต้องการการสงเคราะห์ แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป หากสังเกตุ ในประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศ คนพิการมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคม การสร้างแรงบันดาลใจ การออกมามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคม เป็นเรื่องปกติ หลายประเทศมีคนพิการนั่งรถเข็นเป็นนักการเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมโลกปัจจุบัน อยากให้พี่น้องเปิดใจและหากมีข้อสงสัย ว่าคนพิการจะสามารถทำงานได้หรือไม่ ติดตามผมได้จากเพจครับ
#คำตอบสำหรับคำถามที่ 2 วิธีการคัดเลือกผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เกือบ 100% เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอิทธิพล ไม่มีบารมี มาตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แล้วครับ แต่ถ้าหากติดตามการทำงานในสภา ส.ส.ก้าวไกล ที่มาจากคนธรรมดาเหล่านี้ ทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันกฎหมายต่างๆ ผลักดันเรื่องสวัสดิการและถูกปัดตกไปหลายเรื่อง ออกมาเปิดเผยข้อมูลตั๋วช้าง ทุนจีนสีเทา การทุจริตในโครงการต่างๆ รวมถึงการพูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว ล้วนมาจาก ส.ส.ธรรมดาที่ไม่เคยมีใครรู้จักทั้งสิ้น #เพราะก้าวไกลไม่เคยมองข้ามเสียงของคนธรรมดา จึงมีแต่ ส.ส. ที่ไม่เป็นที่รู้จักเต็มสภาไปหมด แต่จากผลงานการเป็นฝ่ายค้านที่ผ่านมา หากมองกันแบบตรงไปตรงมาจะเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคใดทำงานคุ้มภาษีพี่น้องที่สุด ส่วนการลงพื้นที่ทำงานของผม สามารถติดตามได้ในเพจครับ
"สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกท่านได้มอง คือทัศนคติในการพัฒนาของนักการเมือง มองย้อนกลับไปว่าที่ผ่านมาบ้านเราเลือกคนมีบารมี มีชื่อเสียงมากี่ครั้ง และบุคคลที่ได้รับเลือกสร้างคุณประโยชน์ใดให้พี่น้องของเรา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง เคยเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องในเรื่องใดบ้าง หากมีข้อสงสัยประการใด ยินดีแลกเปลี่ยนพูดคุยได้ครับ และดีใจที่มีคนตั้งคำถามแบบนี้จะได้ถือโอกาสชี้แจงกันครับ" โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมให้กำลังนายศิริพงษ์ให้เดินหน้าสู้ต่อไป
ขอบคุณ... https://www.naewna.com/local/722628