“แนน - สวิชญา วาทะพุกกะนะ” เลือดใหม่ชาติพัฒนากล้า “ขวัญใจผู้พิการ”
แนน สวิชญา วาทะพุกกะนะ จากนักแสดงหญิง ผันตัวเองลงสู่สนามการเมือง ประเดิมชิง ส.ส. กทม. เขต 25 ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ ถือเป็นเลือดใหม่ พรรคชาติพัฒนากล้า ที่เป็นขวัญใจ “ผู้พิการ” อย่างแท้จริง
แนน สวิชญา วาทะพุกกะนะ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 25 ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ (ยกเว้นแขวงบางปะกอก) เบอร์ 8 พรรคชาติพัฒนากล้า เป็นผู้สมัครที่คว้าใจคนพิการ เนื่องจากนำเสนอนโยบายของพรรคด้วยภาษามือ ที่ไปเรียนมา เพื่อต้องการสื่อสารกับคนพิการ
โดยมองว่า การที่เราจะพูดว่าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มันจะสมบูรณ์ไม่ได้เลยถ้าเราไม่ได้ยินเสียงของคนกลุ่มนี้ ดังนั้น ทุกครั้งที่ลงพื้นที่และพบปะกับพี่น้องผู้พิการทางการได้ยิน เราจะสื่อสารกับเขาว่า “พรรคชาติพัฒนากล้า มีหัวหน้าพรรคชื่อกรณ์ จาติกวณิช
พรรคเราเน้นนโยบายเศรษฐกิจเป็นสำคัญ และเรายินดีรับฟังทุกปัญหา แม้เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน แต่พรรคเราได้ยินทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยความเข้าใจ ห่วงใยเสมอ ซึ่งเมื่อนำเสนอผ่านติ๊กตอก ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับอย่างมาก ทั้งจากผู้พิการทางหู และประชาชนปกติ มีคนเข้าไปชมกว่า 1 ล้านวิวเพียงชั่วข้ามคืน
“บางคนเป็นคนหูหนวก เขียนตอบมาว่าดีใจมากที่มีคนเป็นเสียงแทนเขา โดยที่ แนน ไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนเสียงสะท้อนดังกล่าวเป็นคะแนนเสียง ที่ผ่านมาเหมือนพวกเราไม่เคยรับฟังพวกเขา แล้วไปคิดว่าเขาอยากได้เงิน ได้สวัสดิการ เดือนละ 800-1,000 บาท แต่จริงๆ แล้วคนกลุ่มนี้ต้องการมีงานทำ” แนน สวิชญา กล่าว
นอกจากนี้ แนน สวิชญา ยังมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีผู้ช่วยสอน ในภาควิชาสำหรับผู้พิการ โดยมองว่า จากการดูระบบการศึกษาของผู้พิการพบว่า การเรียนของคนพิการ ต้องใช้ผู้ช่วยสอน
โดยขณะนี้เรามีโรงเรียนของผู้พิการทางด้านร่างกาย ทั้งผู้บกพร่องทางการได้ยินและผู้บกพร่องทางการมองเห็น ในช่วงแรกอาจเรียนแยกกันก่อน แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เช่นขณะนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล มีภาควิชาสำหรับผู้พิการทางการได้ยินและการมองเห็น
แต่มีผู้ชำนาญการซึ่งเป็นผู้ช่วยสอนไม่เพียงพอสำหรับการดูแล จึงอยากให้เพิ่มในส่วนนี้ เพื่อเป็นโอกาสให้ผู้พิการได้เรียนในสิ่งที่เขาอยากเรียน เพื่อที่เขาจบไปจะได้มีงานดีทำเหมือนคนปกติทั่วไป
แนน สวิชญา กล่าวด้วยว่า เราเชื่อว่าคนทุกคนต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน พรรคชาติพัฒนากล้า จะเสริมพลังต่อให้กับคนตัวเล็ก โดยเฉพาะคนพิการ เพื่อให้เขาได้เห็นโอกาสเท่ากับคนที่มีต้นทุนชีวิตมาก
“เราเป็นเสมือนหัวหน้าครอบครัวที่จะหาเงินเข้าบ้าน 5 ล้านล้านบาท จากนโยบายเศรษฐกิจ 7 เฉดสี คนพิการก็สามารถอยู่ในระบบได้ ยกตัวอย่างเฉดสีเทา ที่จะทำเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ก็สามารถจ้างคนพิการเข้าทำงานได้ เช่น คนใช้วีลแชร์ สามารถเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ตได้ แลกชิพได้ หรือ นั่งเป็นเจ้าหน้าที่เล่นเกมส์ต่าง ๆ ในคาสิโนได้ และหากเป็นผู้บกพร่องทางการมองเห็น เรามีสปา นวดผ่อนคลาย แบบศาสตร์หมอนวดตาบอด เป็นต้น"
นอกจากนี้ ยังมองว่า การจ้างงานคนพิการปัจจุบันอยู่ที่อัตรา 1:100 อยากให้เพิ่มเป็น 1.5-2 : 100 คน ซึ่งภาครัฐต้องช่วยส่งเสริมในเรื่องนี้ อย่าให้แพ้ภาคเอกชน
ขณะเดียวกัน ในด้านของสวัสดิภาพสังคม อยากให้มีลิฟท์ในจุดที่มีสะพานลอย และมีผู้ใช้บริการหนาแน่น เนื่องจากปัจจุบันแม้จะมีทางลาดแล้ว แต่ยังอันตรายอยู่มาก แน่นอนว่าจะต้องใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็จำเป็น
และในส่วนของที่จอดรถของคนพิการ หลายครั้งเราจะเห็นมีคนแย่งที่จอดคนพิการ เนื่องจากไม่ได้มีมาตรการที่ชัดเจน จึงขอเสนอให้มีการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา โดยการติดชิปสแกนที่รถของผู้พิการ และตั้งระบบเปิดปิดที่ตัวกั้น เมื่อรถคนพิการเข้ามาตัวกั้นนั้น จะหดลงเพื่อให้รถผู้พิการเข้าจอด ซึ่งในทางเทคนิคทำได้
แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงก่อน คือ เรื่องระบบโอเพ่นดาต้า ของคนพิการ ภาครัฐยังค่อนข้างล้าหลัง ตอนนี้เราจะหาข้อมูลคนพิการเพื่อนำมาวางแผนแก้ไข ต้องไปหลายที่ หลายจุดมาก พรรคชาติพัฒนากล้าเสนอให้มีการนำระบบราชการมาไว้ในมือถือ เพื่อความคล่องตัว และสามารถลดความเหลื่อมล้ำให้กับผู้พิการได้
สำหรับ แนน สวิชญา มีชื่อเดิมว่า วิจิตรา ตริยะกุล เป็นนักแสดงหญิงชาวไทยจากการชักนำของ วิยะดา อุมารินทร์ ซึ่งเป็นอาแท้ ๆ
ผลงานชิ้นแรกคือ จากการแสดงภาพยนตร์สะท้อนสังคม "เสียดาย" ผลงานกำกับของท่านมุ้ย "หม่อมเจ้า ชาตรีเฉลิม ยุคล"
จากนั้นก็มีผลงานทางภาพยนตร์ ตามมาเป็นจำนวนมากได้แก่ น้ำเต้าหู้และครูระเบียบ , กลิ่นสีและทีแปรง , ท้าฟ้าลิขิต, กุมภาพันธ์, เดอะเมีย , วงจรปิด เป็นต้น
นอกผลงานด้านภาพยนตร์ แล้วยังมีผลงานละครเป็นระยะ ได้แก่ แก้วตาหวานใจ, หัวใจในสุญญากาศ, มัจจุราชจำแลง, ฉลุย, วัยอลวน , วัยร้ายไฮสคูล เป็นต้น และยังเป็นพิธีกร Sign Variety ด้วย
แนน สนใจการเมืองมาตั้งแต่จบปริญญาตรี มีโอกาสเป็นผู้ช่วย ส.ส. และได้มาเป็นทีมผู้ว่าฯ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จึงมีพื้นฐานทำให้สนใจการเมืองสนามใหญ่ และตัดสินใจร่วมงานพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะชื่นชอบนายกรณ์ ที่เป็นมือเศรษฐกิจระดับโลก โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่คนไทยเผชิญอยู่ในขณะนี้
สำหรับรูปแบบการหาเสียงตอนนี้ แนน เล่าว่า เดินตลาดเช้าตลาดเย็นเพื่อพบประชาชนได้จำนวนมากๆ ซึ่งในพื้นที่เขต 25 ที่รับผิดชอบจะมีชาวมุสลิม 70-80% จึงเน้นการเข้าร่วมงานมัสยิด และได้รับการตอบรับที่ดีมาก
โดยเฉพาะนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ และปรับปรุงบ้านให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เพราะดูจากสถิติที่ผ่านๆ มา จะมีผู้สูงอายุล้มภายในบ้านตัวเองประมาณปีละ 3 ล้านกว่าราย เพราะบ้านไม่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
แนน ย้ำว่า หากอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง ประชาชนมีงานดีทำ มีเงินในกระเป๋า และ ของไม่แพง วันที่ 14 พฤษภาคม เลือกพรรคชาติพัฒนากล้า เบอร์ 14 เพื่อให้ นายกรณ์ จาติกวณิช เข้าไปช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน
ขอบคุณ... https://www.thansettakij.com/thailand-elections/young-blood-politicians/563741