“สีไพร” แม้ขาพิการ แต่มือยังมี สู้ถักพวงมาลัย-ตุ๊กตาพวงกุญแจจากไหมพรมขาย หารายได้เลี้ยงลูกและแม่!
รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.สุโขทัย เพื่อรู้จัก “สีไพร” หญิงที่แม้จะถูกอุบัติเหตุทำพิการ ทั้งยังถูกสามีทิ้งไป ทำให้เธอต้องหอบลูกกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับแม่ แต่เธอก็ไม่ท้อ ฮึดสู้ถักพวงมาลัยและตุ๊กตาพวงกุญแจจากไหมพรมขาย หารายได้เลี้ยงครอบครัว
ย้อนกลับไป ก่อนที่ “สีไพร ป่าถ่อน” จะมีอันพิการร่างกายใช้งานได้แค่ครึ่งตัวแบบนี้ เธอเคยมีร่างกายปกติมาก่อน แต่เพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทำให้ชีวิตเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
“รถเก๋งชนด้านหลัง อุบัติเหตุมา 12 ปีแล้ว จะขี่มอเตอร์ไซค์จะไปขึ้นรถตู้ไปซื้อของกิฟต์ช็อป ขายของกิฟต์ช็อป (ถาม-ไปคนเดียวเลย?) ไปกับแฟน แฟนเป็นคนขับ ตอนนั้นก็สลบไปหลายวัน (ถาม-แล้วพักพื้นอยู่นานไหมกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้?) ตอนแรกก็นาน ประมาณ 1 ปี เหมือนไม่มีสิทธิ์จะเดินได้เลย”
ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุทำพิการ แต่คนรักยังมาทอดทิ้งไป!
“เขาก็เลิกรากันไป เลิกกันตั้งแต่ปีแรกที่ถูกรถชน (ถาม-เหตุผลที่แยกไปเพราะอะไร?) เขาก็ประมาณว่า เราพิการแล้ว เขาก็ไปมีเมียใหม่ พูดง่ายๆ”
เมื่อความทุกข์ประเดประดังเข้ามา ทั้งพิการ ทั้งถูกทอดทิ้ง สิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยาความรู้สึกของสีไพรได้ ก็คือ ธรรมะ
“คนเรานะตอนแรกก็อย่างว่าแหละ มันก็ต้องเอาธรรมะ ตอนแรกมันก็สวดมนต์ไม่ได้ แต่ก็พยายามสวด พอเราสวดมนต์ได้ เหมือนสมาธิก็ดีขึ้น (ถาม-แสดงว่าตอนนั้นค่อนข้างจะมีความทุกข์?) หงุดหงิด ทุกข์มาก”
หลังต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สีไพรตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการพาลูกชายกลับมาพักอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งแม้พิการ แต่เธอก็เป็นเสาหลักในการหารายได้
“ปัจจุบันพักอยู่กับแม่ มีลูกชายและตัวหนู 3 คน แม่อายุ 62 คนที่หาเงินก็คือตัวหนู (ถาม-แล้วเราเริ่มต้นกลับมาใช้ชีวิตด้วยการประกอบอาชีพทำอะไร?) ก็ถักตุ๊กตา คุณครูเขามาเยี่ยม เขาก็ว่าพี่แหม่มทำอันนี้ ลองถักดูเผื่อจะได้เอาไปขาย (ถาม-ฝึกทำนานไหมกว่าจะได้?) วันหนึ่ง ตัวหนึ่งก็แทบไม่ได้”
งานถักพวงมาลัยและตุ๊กตาพวงกุญแจจากไหมพรม เป็นอาชีพที่สีไพรใช้หาเลี้ยงครอบครัว 3 ชีวิต ซึ่งรายได้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับออเดอร์ที่เข้ามาในแต่ละเดือน
“อันนี้ (พวงมาลัย) พวงละ 100 ถ้าเป็นพวงกุญแจ 30 บาท (ถาม-ไปขายที่ไหน?) ขายในเฟซบุ๊ก (ถาม-แล้วเป็นยังไงผลตอบรับ รายได้จากการทำงานฝีมือแบบนี้?) มันก็ดี มีตังค์ให้ลูกไปโรงรียน (ถาม-เบ็ดเสร็จเดือนหนึ่งคิดเป็นรายได้เท่าไหร่?) ถ้ามีงานแบบไม่ขาดเลยนะ มีออเดอร์ไม่ขาด เดือนหนึ่ง 3,000 ได้แน่นอน (ถาม-ยังไม่รวมค่าของ?) ยังไม่รวม”
ด้าน “เกิด สวนนิต” แม่ของสีไพร ถูกหลายโรครุมเร้า ส่งผลให้ทำงานหนักไม่ได้
“เมื่อก่อนทำไร่ทำนา ทำของตัวเองไปเช่าเขา (ถาม-แล้วทุกวันนี้?) ทุกวันนี้ไม่ได้อะไรเลยหลายปีแล้ว มันมีโรคเยอะ เบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคกระเพาะ หัวใจโต 5 อย่าง (ถาม-แล้วอาการหัวใจเป็นยังไงเวลากำเริบ?) เหนื่อย (ถาม-ทำงานหนักไม่ได้?) ไม่ได้ อยากทำอยู่ แต่ไปไม่ได้ เดินไปนิดๆ หน่อยๆ ก็มีอาการเหนื่อยแล้ว (ถาม-กี่ปีแล้วที่อาการรุนแรง?) 2-3 ปี หัวใจโต เพิ่งจะรู้ เอกซเรย์ที่อนามัย (ถาม-แล้วกินยารักษายังไง?) ถามเขาแล้ว เขาบอกไม่มียารักษา”
ขณะที่ ด.ช.รุจิกร พิมพา หรือข้าวต้ม ลูกชายของสีไพร วัย 14 พยายามช่วยงานบ้านที่พอจะทำได้ “(ถาม-เห็นแม่เป็นอย่างนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?) ก็เสียใจนิดหน่อย (ถาม-อยู่ที่บ้านข้าวต้มต้องทำอะไรบ้าง?) กวาดบ้าน ซักผ้า ล้างจาน หุงข้าว เอาขยะไปทิ้ง”
ในวันที่สีไพรรายได้ขัดสน ไร้ออเดอร์ โชคดียังมีกัลยาณมิตรให้พึ่งพาช่วยเหลือ
“(ถาม-รายได้หลักคือเบี้ยคนพิการและผู้สูงอายุ เป็นเบี้ยยังชีพสำหรับ 3 ชีวิต 3,000+800+700 เท่ากับ 4,500 เต็มที่เลยไม่เกิน 5,000 มีช่วงไหนที่ขัดสนตึงมือไหม?) มันก็มี ถ้าขัดสนก็ไปเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาก็จะส่งมาให้ (ถาม-ขอยืมเขา?) ก็ไม่เชิงว่ายืม เขาก็ให้มาเลย ให้มา 500 (ถาม-คือบางทีก็ต้องไปขอพึ่งพาความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ทำงานเก่า?) ค่ะ (ถาม-แต่มันก็ลำบากใจไหม?) ก็ลำบากใจเหมือนกัน (ถาม-คนที่เป็นอดีตสามี ปัจจุบันเขาส่งความช่วยเหลือมาบ้างไหม?) ไม่เลย”
“อรณี พูลเลิศ” หนึ่งในผู้ให้ความช่วยเหลือสีไพร ยอมรับว่า ความสู้ชีวิตของสีไพร เป็นเหตุผลสำคัญที่เธออยากช่วยเหลือ
(ถาม-รู้จักพี่สีไพรมานานหรือยัง?) ก็รู้จักประมาณ 8-9 ปี น้องป่วย แต่น้องเขาเข้มแข็งโดยที่จะไม่เอ่ยอะไรง่ายๆ ออกมา ต่อให้ลำบากหรืออะไร ก็จะไม่พูดออกมา ช่วงแรกก็มาโพสต์ขายของให้น้อง พอตอนหลังได้มีโอกาสรู้จักนักข่าว ก็เลยปรึกษาเขาว่า มีอะไรพอจะช่วยน้องเขาได้ไหม ก็เลยเอามาทำข่าว ก็มีออเดอร์เข้ามา คือน้องเขาสู้ เขาเคยมาพูดว่า หนูไม่ได้ขออะไร แค่ 5-10 บาทก็ยังดี เรามีความรู้สึกว่า ดีกว่าบางคนที่เขามีทุกอย่างครบ แต่ 5-10 บาทฉันไม่เอา ฉันอยากได้เงินเยอะๆ แต่ไม่ทำอะไร แต่คนนี้คือ 5-10 บาทก็เอา เลยรู้สึกว่าเราอยากจะช่วยเขา”
ลูกคือกำลังใจให้ไม่ท้อ หวังลูกเติบโตเป็นคนดี!
“(ถาม-ในวันที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดตลอดเวลา ทำให้เราทุกข์และท้อใจ หลักคิดหรือวิธีคิดที่ทำให้เราเข้มแข็งและตื่นมามีแรงทำงานต่อไปได้?) ก็ลูก ลูกเป็นกำลังใจ (ถาม-คาดหวังอนาคตของเขาไหม?) ก็ขอให้เขาเป็นเด็กดีแค่นั้นก็พอแล้ว (ถาม-เขาเคยบอกไหมว่า วันหนึ่งเขาเติบโตขึ้น เขาจะช่วยเหลือดูแลเรายังไง?) เขาก็บอกว่า เขาจะเลี้ยงแม่ โตขึ้นหาตังค์เลี้ยงแม่ แม่ไม่มีตังค์ส่งให้เรียน ก็จะทำงานด้วยเรียนด้วย (ถาม-เราได้ยินอย่างนี้รู้สึกยังไง?) เราจะอยู่ถึงขนาดนั้นหรือ ไม่คิดขนาดนั้น ไม่ได้หวังว่าเราจะอยู่ได้นานหรือเปล่า เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ได้นาน”
“(ถาม-สีไพรคิดว่า เราได้เรียนรู้อะไรกับเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนสำคัญที่จะเป็นการเตือนสติตัวเองและเตือนสติของคนในสังคมบ้าง?) พูดถึงรถที่มาชนเรา เขากินเหล้าเมา เขามาชนเรา พูดถึงว่าเราผิดไหม เราก็ไม่ผิด เราก็ไปของเราปกติ มันน่าเป็นพวกที่เขาเมาแล้วขับ (ถาม-ทุกวันนี้ยังรู้สึกโกรธหรือแค้นกับคนที่ทำให้เราต้องเป็นอย่างนี้ไหม?) ไม่ มันเฉยๆ ไปแล้ว กับแฟนก็ไม่ ไม่รู้อะ ตอนนั้นแฟนโทรมาครั้งหนึ่ง เขาบอกว่าเขาทำมาหากินไม่ขึ้น เขาบอกว่า แช่งเขาไหม โห! มันก็ต้องนะใหม่ๆ อะ มีจริงๆ ก็ยอมรับ แต่ตอนนี้อโหสิกรรมให้แล้ว”
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของสีไพร สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ชื่อบัญชี สีไพร ป่าถ่อน เลขที่บัญชี 0-200-82178-942
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/ (ขนาดไฟล์: 0 )
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos (ขนาดไฟล์: 816369)