น้าสาวร้อง ด.ญ.วัย13 ป่วยสมองพิการ ถูกหนุ่มอดีตสมาชิกอบต. บุกบ้านขืนใจ
น้าสาวร้อง ด.ญ.วัย13 ป่วยสมองพิการ ถูกหนุ่มอดีตสมาชิกอบต. บุกบ้านขืนใจ แฉมีการพยายามขอเคลียร์ ขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีไปแล้ว ซ้ำมารดาและญาติของผู้เสียหาย ถูกขู่คุกคามอย่างหนัก
วันที่ 10 พ.ค. 2566 นางสาว กรวรรณ ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. ด.ญ.เอ อายุ 13 ปี หลานสาว ถูกนายเกรียงไกร บุกเข้ามาในบ้านของหลานสาว และทำการข่มขืน หลังทราบเรื่อง จึงได้นำหลานสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า ฯ จากนั้นได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
พอแจ้งไปแล้วตำรวจก็ขอชื่อผู้ต้องหา มารดาของ ด.ญ.เอ ก็บอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ที่ข่มขืนบุตรสาวคือ นายเกรียงไกร อายุประมาณ 50 ปี หลังแจ้งความเสร็จ ทางตำรวจก็นัดว่าให้รอวันที่ 15 พ.ค.2566 เพื่อสอบสวนข้อมูลก่อน ต่อมาในวันที่ 3 พ.ค.2566 ได้ข่าวว่าทางตำรวจได้แจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหา และมีการพยายามขอเคลียร์ กับทางมารดาของผู้เสียหาย แต่ทางมารดาและญาติพากันไม่ยอม ตอนแรกจะขอจ่าย 1 แสน เมื่อไม่ยอม เพิ่มเป็น 4 แสน แต่ทางญาติผู้เสียหายไม่ยอมรับเคลียร์
และต้องการให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมายเท่านั้น หลังจากนั้นทางครอบครัวของผู้เสียหาย ได้ถูกกลุ่มญาติพี่น้องของนายเกรียงไกร ฯ ข่มขู่ต่าง ๆ นานา รวมไปถึงการบุกรุกเข้ามาในบ้านพักในยามวิกาล จนทำให้เกิดความหวาดกลัวต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นอย่างมากและอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการดูแลและแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อครอบครัวของผู้เสียหายด้วย
นางสาวกรวรรณ เปิดเผยต่อไปว่า ประเด็นในการที่ร้องต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2566 เวลา 11.45 น.ที่ร้านกาแฟ ทางเข้าหมู่บ้านหนองผาจ้ำ ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า ฯ ได้มีกลุ่มตัวแทนของผู้กระทำผิด โดย ผู้ใหญ่บ้านหนองผาจ้ำ ญาติผู้กระทำผิด และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจรจากับมารดาของเด็ก และขอชดใช้เพื่อให้ยุติดำเนินคดี แต่นางจันทร์สม มารดาของเด็กไม่ยินยอม โดยในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาร่วมเจรจากับฝ่ายผู้กระทำผิด ได้บอกว่าถ้ามารดาของเด็กไม่ยินยอม
ก็จะให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาถึงเวลา 18.00 น.หากเลยเวลา ตัดจบไม่ต้องคุยกันแล้ว ซึ่งหมายถึงหากเลยเวลา 18.00 น. หมายความว่าตำรวจจะทำการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาในทันที แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหลังเวลา 18.00 น.ของวันดังกล่าว ทางญาติผู้เสียหายไม่เห็นมีตำรวจเดินทางขึ้นไปจับกุมผู้กระทำผิดแต่อย่างใด จึงทำให้ทุกคนมองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยชอบหรือไม่ และการที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปทำให้ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปได้ และส่งผลกระทบต่อญาติของผู้เสียหายด้วย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 นางสาวกรวรรณฯ ได้สังเกตเห็นอาการผิดปกติของเด็กหญิงเอเนื่องจากมีพฤติกรรมเกาบริเวณอวัยวะเพศบ่อยครั้ง จึงได้สอบถามทราบว่า เด็กหญิงเอ ถูกนายเกรียงไกรอายุ 50 ปี ล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง ครั้งที่ 1 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ในช่วงภรรยาของนายเกรียงไกรฯได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ นายเกรียงไกรฯ จึงได้ล่อลวงเด็กหญิงเอไปที่บ้านของตนเองและได้ทำกรล่วงละเมิดทางเพศ
และครั้งต่อๆมานายเกรียงไกรฯมักจะต่อลวงเด็กหญิงเอ ไปบริเวณหลังโรงเรียนและล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากทราบเรื่องนางสาวกรวรรณ จึงไม่ให้เด็กหญิงไปโรงเรียนพราะเกรงว่าจะถูกกระทำซ้ำ และได้เล่าสภาพปัญหาดังกล่าวให้ครูประจำชั้นทราบ ครูจึงเดินทางมาสอนหนังสือให้เด็กหญิง ที่บ้าน และตามนางสาวจันทร์สมฯ ให้กลับมาดูแลเด็กหญิง
ล่าสุดทราบว่า นายเกรียงไกร ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากหมู่บ้านไป และคาดว่าได้หลบหนีเข้าไปอาศัยอยู่กับเพื่อนในประเทศเมียนมา บริเวณบ้านใหม่ปาโอ ตรงข้ามบ้านปางคอง ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ นายเกรียงไกร อดีตเป็นสมาชิกอบต. เป็นผู้มีอิทธิพลสูงในพื้นที่บ้านหนองผาจ้ำ และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา บุตรชายของนายเกรียงไกร ก็เคยก่อเหตุ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปางมะผ้า มาแล้วด้วย
ทางด้านนายศรีสุวรรณ ศรศักดิ์ ผอ.บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางศูนย์ช่วยเหลือสังคมประชาบดี บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้รับแจ้งจากนางสาวกรวรรณ น้าสาว ขอความช่วยเหลือ ว่าหลานสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ ล่าสุด เด็กหญิงผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับ เด็กหญิงเอ สภาพร่างกายพิการทางสติปัญญา จดทะเบียนมีบัตรความพิการ สิทธิการรักษาตามหลักประกันสุขภาพสำหรับคนพิการ (ท.74) ที่โรงพยาบาลปางมะผ้า จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้รับเบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท
ด้านพล.ต.ต.พิชญาพร บุญขจร ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ อ.ปางมะผ้า แล้ว และได้กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ล่าสุดทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย แล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7656091