กะเทยโหด! บุกพังประตูกุฏิมีดฟันหลวงตาพิการวัย 70 ก่อนจุดไฟเผาซ้ำ อาการโคม่า ตร.เร่งล่าตัว
บุรีรัมย์ - กะเทยโหดบุกวัดดัง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ พังกุฏิเข้าไปใช้มีดฟันหลวงตาพิการเดินไม่ได้ วัย 70 ปี ก่อนจุดไฟเผาซ้ำอาการโคม่า ประวัติเสพยาจนหลอนหาว่าหลวงตาเอาเงิน 2 ล้านไปใช้ทั้งที่ไม่มีจริง ปีที่แล้วเคยดักทำร้ายหลวงตาขณะนั่งวีลแชร์ไปบิณฑบาตบาดเจ็บ ผู้การฯ สั่งเร่งล่าตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (20 เม.ย. 68) ร.ต.อ.องอาจ มะโนบาล พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุสาวประเภทสองบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายและจุดไฟเผาพระพิการเดินไม่ได้ขณะจำวัดในกุฏิ ภายในวัดบ้านตาเสา ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้รายงาน พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ห้วยราช และผู้บังคับบัญชารับทราบ
จากนั้น พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร ผกก.สภ.ห้วยราช พร้อมรองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยราช รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ห้วยราช เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยราช พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นกุฏิของพระมหาศุภทิน เทวอนรัมย์ หรือหลวงตาเทะ อายุ 70 ปี พระลูกวัดที่ถูกทำร้าย พบภายในกุฏิมีที่นอน ผ้าห่ม และจีวรถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน และมีคราบเลือดติดอยู่ ส่วนตัวหลวงตาเทะที่ถูกทำร้ายญาติโยมที่ไปทำบุญที่วัดได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลห้วยราชแล้ว แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพิษณุ เจียมรัมย์ หรือเจ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ชาวบ้านจะเรียกว่า “กะเทยเจ” ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
สอบถามพระหลวงตาฮั้ว อายุ 74 ปี เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ได้ไปเรียกหลวงตาเทะที่กุฏิเพื่อไปฉันภัตตาหารเช้า แต่ได้ยินเสียงหลวงตาเทะตอบกลับมาว่า ไปไม่ได้ ถูกไอ้เจฟัน จึงได้เข้าไปดูก็เห็นหลวงตาเทะนอนเลือดไหลอยู่บนเตียงมีแผลถูกของมีคนทั้งที่ใบหน้า และแขน และมีรอยไหม้ตามร่างกาย
จากนั้นจึงได้บอกเจ้าอาวาส และเรียกญาติโยมที่กำลังทำบุญในศาลามาช่วยกันนำตัวหลวงตาเทะส่ง รพ. ทั้งพระและญาติโยมรับไม่ได้ต่อการกระทำของนายเจที่บุกเข้าไปทำร้ายหลวงตาที่พิการไม่มีทางสู้ทั้งยังจุดไฟเผาซ้ำอีก เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมและบาปกรรมมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายเจมาดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด เพราะกลัวจะกลับมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่นอีก
ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า เมื่อวานเห็นนายเจขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนในวัดหลายรอบ คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลาเพื่อหาโอกาสก่อเหตุ แต่กลางวันเห็นว่ามีพระและโยมอยู่ในวัดจึงมาก่อเหตุตอนกลางคืน ส่วนสาเหตุก็น่าจะเกิดจากการเสพยาเสพติดจนหลอนหนัก ถึงขั้นกล้าก่อเหตุทำร้ายพระที่พิการไม่มีทางสู้ ถ้าคนธรรมดาไม่หลอนยาคงไม่กล้าทำร้ายพระขนาดนี้ ส่วนเรื่องเงิน 2 ล้านก็ไม่ได้มีจริง แต่น่าจะเกิดจากอาการหลอนยาของนายเจ บอกว่ามีคนมาฝากเงินไว้กับหลวงตาเทะไว้ให้นายเจ 2 ล้านทั้งที่ไม่มีใครเอามาฝากไว้ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำร้ายหลวงตาเทะขณะนั่งวีลแชร์ออกไปบิณฑบาตจนบาดเจ็บมาแล้ว ถือเป็นบุคคลอันตราย อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนทราบว่า นายพิษณุ หรือเจ มีประวัติเสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอน เคยกล่าวหาว่าหลวงตาเทะเอาเงินที่มีคนมาฝากไว้ให้นายเจ จำนวน 2 ล้านบาทไปใช้ทั้งที่ไม่มีใครเอาเงินมาฝากไว้เลย จากนั้นก็จะตามระรานหลวงตาเทะหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 ปีที่ผ่านมา นายเจ หรือกะเทยเจ ก็เคยถีบรถวีลแชร์ของหลวงตาเทะขณะออกไปบิณฑบาต จนล้มคว่ำแล้วก็ใช้ไม้กระหน่ำตีซ้ำจนบาดเจ็บ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยราช และตำรวจก็เคยไปติดตามตัวนายเจแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นนายเจก็วนเวียนเข้าออกวัด เพื่อหาโอกาสจะทำร้ายหลวงตาเทะ กระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้ก่อเหตุสลดดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ห้วยราช เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตามรายงานทราบผู้ก่อเหตุมีประวัติติดยาเสพติดแล้วเกิดอาการหลอน ส่วนปมเหตุอื่นอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ที่มา: mgronline.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 21 เม.ย.68
วันที่โพสต์: 21/04/2568 เวลา 13:37:38 
