รง.ถก พม.ออกระเบียบให้ที่ขายสินค้าผู้พิการ ยันคงสัดส่วนจ้างงานผู้พิการตามเดิม
รง.เล็งถก พม.ออกระเบียบให้สถานประกอบการที่ไม่สามารถจ้างงานผู้พิการได้ จัดสถานที่ขายสินค้า-จัดงานเหมาช่วง-ฝึกงาน ยันไม่ลดสัดส่วนจ้างงานผู้พิการจากคนปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน ชี้อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ
วันนี้ (24 ธ.ค.)นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน(รง.) เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมหารือกับผู้แทนกรมต่างๆ ของ รง.เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แห่งชาติ (พก.) สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะดำเนินการออกระเบียบตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้สถานประกอบการที่ไม่ได้จ้างงานผู้พิการต้องให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้า จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงานการให้ความช่วยเหลืออื่น เพื่อแทนการจ้างงานคนพิการและไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวิคนพิการ โดย พก.จะมอบอำนาจให้ รง.เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้สถานประกอบการดำเนินการตามระเบียบนี้ ซึ่งในที่ประชุมตัวแทนกรมต่างๆ ของ รง.ต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้
รองปลัด รง.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีข้อเสนอแนะด้วยว่า อยากให้ พก.ร่วมกับ รง.ดำเนินการกำหนดภารกิจ วางแผนและจัดสรรงบประมาณดำเนินงาน รวมทั้งมอบอำนาจให้ รง.ในการเป็นตัวแทน พก.ในฐานะเจ้าพนักงานตามระเบียบนี้ให้ชัดเจนเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการ ดำเนินการและเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือแจ้งผลสรุปหารือของ รง.ไปยัง พก.ภายในสัปดาห์นี้ และขอให้ พก.นัดวันประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอแนะข้างต้น
นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า รง.ยังเตรียม จะหารือกับ พม.ใน 3 ประเด็นตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ก่อนหน้านี้ที่ จ.ลพบุรี ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยได้ให้ 4 ฝ่าย ได้แก่ พม. รง.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยไปหารือกันเกี่ยวกับการแก้ปัญหากรณีหน่วยงานรัฐไม่ สามารถจัดหาคนพิการให้แก่สถานประกอบการที่ต้องการจ้างงานคนพิการ การลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนฯและข้อเสนอของภาคเอกชนที่ขอให้แก้ไขกฎกระทรวง ว่าด้วยการจ้างงานผู้พิการโดยให้ลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการจากที่สถาน ประกอบการจ้างงานคนปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน หากไม่สามารถจ้างงานคนพิการได้ก็ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งขณะนี้หากสถานประกอบการไม่สามารถจ้างผู้พิการได้ 1 คน จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯอยู่ที่คนละ 109,500 บาทต่อปี โดยคำนวณจากค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทคูณด้วยจำนวน 365 วัน
“ประเด็นการลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการนั้น ทาง รง.ยังคงยืนยันให้ยึดสัดส่วนการจ้างงานคนปกติ 100 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน และเมื่อมีการประชุมหารือกันก็จะยืนยันในเรื่องนี้ เพราะสัดส่วนนี้เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รง.กำลังรอ พม.นัดหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”
ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000157701 (ขนาดไฟล์: 164)
(ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ธ.ค.56)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รง.เล็งถก พม.ออกระเบียบให้สถานประกอบการที่ไม่สามารถจ้างงานผู้พิการได้ จัดสถานที่ขายสินค้า-จัดงานเหมาช่วง-ฝึกงาน ยันไม่ลดสัดส่วนจ้างงานผู้พิการจากคนปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน ชี้อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ Photo: Four million Australians have a disability that restricts activities of daily living. (stock.xchng: muresan113)วันนี้ (24 ธ.ค.)นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน(รง.) เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมหารือกับผู้แทนกรมต่างๆ ของ รง.เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แห่งชาติ (พก.) สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะดำเนินการออกระเบียบตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้สถานประกอบการที่ไม่ได้จ้างงานผู้พิการต้องให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้า จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงานการให้ความช่วยเหลืออื่น เพื่อแทนการจ้างงานคนพิการและไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวิคนพิการ โดย พก.จะมอบอำนาจให้ รง.เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้สถานประกอบการดำเนินการตามระเบียบนี้ ซึ่งในที่ประชุมตัวแทนกรมต่างๆ ของ รง.ต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้ รองปลัด รง.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีข้อเสนอแนะด้วยว่า อยากให้ พก.ร่วมกับ รง.ดำเนินการกำหนดภารกิจ วางแผนและจัดสรรงบประมาณดำเนินงาน รวมทั้งมอบอำนาจให้ รง.ในการเป็นตัวแทน พก.ในฐานะเจ้าพนักงานตามระเบียบนี้ให้ชัดเจนเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการ ดำเนินการและเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือแจ้งผลสรุปหารือของ รง.ไปยัง พก.ภายในสัปดาห์นี้ และขอให้ พก.นัดวันประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอแนะข้างต้น นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า รง.ยังเตรียม จะหารือกับ พม.ใน 3 ประเด็นตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ก่อนหน้านี้ที่ จ.ลพบุรี ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยได้ให้ 4 ฝ่าย ได้แก่ พม. รง.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยไปหารือกันเกี่ยวกับการแก้ปัญหากรณีหน่วยงานรัฐไม่ สามารถจัดหาคนพิการให้แก่สถานประกอบการที่ต้องการจ้างงานคนพิการ การลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนฯและข้อเสนอของภาคเอกชนที่ขอให้แก้ไขกฎกระทรวง ว่าด้วยการจ้างงานผู้พิการโดยให้ลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการจากที่สถาน ประกอบการจ้างงานคนปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน หากไม่สามารถจ้างงานคนพิการได้ก็ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งขณะนี้หากสถานประกอบการไม่สามารถจ้างผู้พิการได้ 1 คน จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯอยู่ที่คนละ 109,500 บาทต่อปี โดยคำนวณจากค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทคูณด้วยจำนวน 365 วัน “ประเด็นการลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการนั้น ทาง รง.ยังคงยืนยันให้ยึดสัดส่วนการจ้างงานคนปกติ 100 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน และเมื่อมีการประชุมหารือกันก็จะยืนยันในเรื่องนี้ เพราะสัดส่วนนี้เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รง.กำลังรอ พม.นัดหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000157701 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ธ.ค.56)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)