ภาวะ “ถูกจูงใจให้ตาบอด” กับจรรยาบรรณวิชาชีพ (2) : จรรยาบรรณที่ได้ผล
เนื้อหาบางส่วน
ตอนที่แล้วผู้เขียนพูดถึงภาวะ “ถูงจูงใจให้ตาบอด” (motivated blindness) ว่าเป็นส่วนสำคัญของการทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการเอาเปรียบลูกค้าเล็กๆ น้อยๆ หรือแอบคิดสตางค์บริษัทโดยไม่สมควร ซึ่งมีโอกาสลุกลามเป็นการทุจริตคอร์รัปชันขนาดใหญ่ ถ้าเราไม่ลงมือเองก็สุ่มเสี่ยงจะ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” เวลาที่เห็นคนอื่นทำผิด
ภาวะ “ถูกจูงใจให้ตาบอด” หมายถึงแนวโน้มที่เราจะหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองโดยอัตโนมัติในหัวเวลาทำในสิ่งที่ตงิดๆ ว่าไม่ควรทำ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น งานวิจัยด้านจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมากมายยืนยันว่าเราถูกจูงใจให้ ตาบอดเป็นปกติ แม้แต่คนที่คนอื่นมองว่า “ซื่อสัตย์” ที่สุดก็รู้ตัวยากมากเวลาที่ทำตัวไม่ถูกต้อง
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เนื้อหาบางส่วน ตอนที่แล้วผู้เขียนพูดถึงภาวะ “ถูงจูงใจให้ตาบอด” (motivated blindness) ว่าเป็นส่วนสำคัญของการทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการเอาเปรียบลูกค้าเล็กๆ น้อยๆ หรือแอบคิดสตางค์บริษัทโดยไม่สมควร ซึ่งมีโอกาสลุกลามเป็นการทุจริตคอร์รัปชันขนาดใหญ่ ถ้าเราไม่ลงมือเองก็สุ่มเสี่ยงจะ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” เวลาที่เห็นคนอื่นทำผิด ภาวะ “ถูกจูงใจให้ตาบอด” หมายถึงแนวโน้มที่เราจะหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองโดยอัตโนมัติในหัวเวลาทำในสิ่งที่ตงิดๆ ว่าไม่ควรทำ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น งานวิจัยด้านจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมากมายยืนยันว่าเราถูกจูงใจให้ ตาบอดเป็นปกติ แม้แต่คนที่คนอื่นมองว่า “ซื่อสัตย์” ที่สุดก็รู้ตัวยากมากเวลาที่ทำตัวไม่ถูกต้อง
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)