ศาลเลื่อนไต่สวนคนพิการวีลแชร์ฟ้อง กทม.ไม่สร้างลิฟต์ BTS นัดอีกครั้ง 21 มี.ค.
MGR Online – ศาลแพ่งเลื่อนไต่สวนคำร้องคนพิการวีลแชร์ ฟ้อง กทม.แบบกลุ่ม 98 ราย ไม่สร้างลิฟต์BTSให้ครบทั้ง23สถานีนัดอีกครั้ง21มี.ค.นี้
วันที่ (17 ก.พ.) ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้องขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม ในคดีหมายเลขดำที่ พ.246/2560 ที่นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการนั่งรถวีลแชร์ซึ่งเป็นครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ เป็นผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้รวม 98 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครเป็นจำเลยเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 361,000 บาทต่อคน ค่าเสียหายคำนวณจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 59 ที่ครบกำหนดต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่สั่งให้กรุงเทพมหานครจัดสร้างลิฟต์โดยสารอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ให้ครบทั้ง 23 สถานี โดยนายสุพรธรรมได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งเลื่อนนัดการไต่สวนคำร้องขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มออกไปก่อน เนื่องจากมีการส่งหมายแจ้งการฟ้องให้ กทม.ทราบเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่ง กทม.ยังไม่ได้ทำให้การคัดค้านเข้ามาส่งศาล ดังนั้นจึงนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
นายสนธิพงศ์กล่าวอีกว่า การไต่สวนคำร้องได้เตรียมพยานซึ่งเป็นผู้พิการขา เข้าเบิกความเพื่อให้ศาลพิจารณา โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนั้นระบุว่า ผู้พิการมีสิทธิเสรีภาพที่จะเดินทางโดยสะดวก แต่กลับขาดประโยชน์จากการใช้โดยรถไฟฟ้าบีทีเอส เมื่อลิฟต์โดยสารขึ้นไปบนสถานีนั้นมีการจัดสร้างเพียง 3 สถานี จากทั้งหมด 23 สถานี ในขณะที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ถึงจะมีการสร้างลิฟต์โดยสารแต่ก็ไม่ครบทุกทางขึ้นลง กลุ่มโจทก์มุ่งหวังว่าการยื่นฟ้องจะทำให้บริษัทที่รับผิดชอบการก่อสร้าง ดำเนินการก่อสร้างให้ครบทุกสถานีเพื่อให้คนพิการได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอย่างเท่าเทียมคนทั่วไป
ขณะที่การฟ้องนี้ล่าสุดได้ขอแก้คำฟ้องเพิ่มเติมในส่วนค่าเสียด้วย ซึ่งตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 กำหนดให้สิทธิไว้ว่า หากเป็นการจงใจเลือกปฏิบัติต่อผู้พิการ หากศาลพิจารณาเชิงลงโทษ สามารถกำหนดค่าเสียหาให้ได้สูงสุด 4 เท่าจากค่าเสียหายที่แท้จริง ดังนั้น ตนจึงขออนุญาตศาลแพ่งแก้ไขคำฟ้องเพิ่มเติมค่าเสียหาย จากเดิม 360,000 บาท ขอแก้ไขเป็น 1,440,000 บาทต่อราย โดยขอยื่นฟ้องตามมูลค่าความเสียหายสูงสุด ไม่เกิน 4 เท่าจากเดิมที่เราคำนวณค่าใช้จ่ายจริงในมูลค่าต่ำสุด ซึ่งศาลแพ่งก็มีคำสั่งอนุญาตให้เราแก้ไขคำฟ้องได้ ส่วนคดีนี้ศาลจะวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นดุลยพินิจ
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000016805 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง กรณีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ไม่สร้างลิฟต์ให้ครบทั้ง 23 สถานี MGR Online – ศาลแพ่งเลื่อนไต่สวนคำร้องคนพิการวีลแชร์ ฟ้อง กทม.แบบกลุ่ม 98 ราย ไม่สร้างลิฟต์BTSให้ครบทั้ง23สถานีนัดอีกครั้ง21มี.ค.นี้ วันที่ (17 ก.พ.) ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้องขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม ในคดีหมายเลขดำที่ พ.246/2560 ที่นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการนั่งรถวีลแชร์ซึ่งเป็นครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ เป็นผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้รวม 98 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครเป็นจำเลยเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 361,000 บาทต่อคน ค่าเสียหายคำนวณจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 59 ที่ครบกำหนดต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่สั่งให้กรุงเทพมหานครจัดสร้างลิฟต์โดยสารอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ให้ครบทั้ง 23 สถานี โดยนายสุพรธรรมได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง กรณีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ไม่สร้างลิฟต์ให้ครบทั้ง 23 สถานี ต่อมาเวลา 12.00 น. นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งเลื่อนนัดการไต่สวนคำร้องขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มออกไปก่อน เนื่องจากมีการส่งหมายแจ้งการฟ้องให้ กทม.ทราบเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่ง กทม.ยังไม่ได้ทำให้การคัดค้านเข้ามาส่งศาล ดังนั้นจึงนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. นายสนธิพงศ์กล่าวอีกว่า การไต่สวนคำร้องได้เตรียมพยานซึ่งเป็นผู้พิการขา เข้าเบิกความเพื่อให้ศาลพิจารณา โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนั้นระบุว่า ผู้พิการมีสิทธิเสรีภาพที่จะเดินทางโดยสะดวก แต่กลับขาดประโยชน์จากการใช้โดยรถไฟฟ้าบีทีเอส เมื่อลิฟต์โดยสารขึ้นไปบนสถานีนั้นมีการจัดสร้างเพียง 3 สถานี จากทั้งหมด 23 สถานี ในขณะที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ถึงจะมีการสร้างลิฟต์โดยสารแต่ก็ไม่ครบทุกทางขึ้นลง กลุ่มโจทก์มุ่งหวังว่าการยื่นฟ้องจะทำให้บริษัทที่รับผิดชอบการก่อสร้าง ดำเนินการก่อสร้างให้ครบทุกสถานีเพื่อให้คนพิการได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอย่างเท่าเทียมคนทั่วไป ขณะที่การฟ้องนี้ล่าสุดได้ขอแก้คำฟ้องเพิ่มเติมในส่วนค่าเสียด้วย ซึ่งตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 กำหนดให้สิทธิไว้ว่า หากเป็นการจงใจเลือกปฏิบัติต่อผู้พิการ หากศาลพิจารณาเชิงลงโทษ สามารถกำหนดค่าเสียหาให้ได้สูงสุด 4 เท่าจากค่าเสียหายที่แท้จริง ดังนั้น ตนจึงขออนุญาตศาลแพ่งแก้ไขคำฟ้องเพิ่มเติมค่าเสียหาย จากเดิม 360,000 บาท ขอแก้ไขเป็น 1,440,000 บาทต่อราย โดยขอยื่นฟ้องตามมูลค่าความเสียหายสูงสุด ไม่เกิน 4 เท่าจากเดิมที่เราคำนวณค่าใช้จ่ายจริงในมูลค่าต่ำสุด ซึ่งศาลแพ่งก็มีคำสั่งอนุญาตให้เราแก้ไขคำฟ้องได้ ส่วนคดีนี้ศาลจะวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นดุลยพินิจ ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000016805
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)