ปูเร่งหน่วยงานจัดสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ-ผู้สูงอายุ
“อยากเห็นผู้พิการและผู้สูงอายุไม่เป็นภาระของสังคม แต่เป็นพลังที่จะทำให้เกิดประโยชน์ในการอยู่ร่วมกัน โดยดึงความสามารถที่แต่ละคนมีอยู่มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน อยากให้ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่สูงอายุควบคู่ด้วย สำหรับเด็กที่ด้อยโอกาสและถูกรังแกในสังคมอยากให้หน่วยงานของรัฐบาลทำงานร่วมกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ในการจัดทำระบบข้อมูล ดูแล และบูรณาการการทำงานร่วมกันแบบ One Stop Service เช่นเมื่อมีเด็กถูกนายจ้างรังแก และทำทารุณ ได้รับความบาดเจ็บ เมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วจะถูกส่งไปรักษาตัวโดยมีกระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบ หากเด็กไม่มีผู้ปกครอง ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะจัดหาที่เรียนและฝึกอาชีพ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ขอบคุณ… http://goo.gl/dpMEl (ขนาดไฟล์: 0 )
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ก.พ.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน”น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคมว่าเป็นยุทธศาสตร์ประเทศที่รัฐบาลจะต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทั้งกับเด็ก สตรี ผู้พิการ และผู้สูงอายุ โดยจะรณรงค์สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ อาทิ การจัดหาที่จอดรถใกล้ทางเดิน และการทำทางลาดชันเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งหลายบริษัทได้ดำเนินการแล้ว แต่ในส่วนของรัฐบาลจะเริ่มที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่แรก นอกจากนี้ จะแก้ไขระเบียบราชการเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำงบประมาณไปใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุด้วย รวมถึงจะต้องทำให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาส มีโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับตนเองด้ว “อยากเห็นผู้พิการและผู้สูงอายุไม่เป็นภาระของสังคม แต่เป็นพลังที่จะทำให้เกิดประโยชน์ในการอยู่ร่วมกัน โดยดึงความสามารถที่แต่ละคนมีอยู่มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน อยากให้ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่สูงอายุควบคู่ด้วย สำหรับเด็กที่ด้อยโอกาสและถูกรังแกในสังคมอยากให้หน่วยงานของรัฐบาลทำงานร่วมกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ในการจัดทำระบบข้อมูล ดูแล และบูรณาการการทำงานร่วมกันแบบ One Stop Service เช่นเมื่อมีเด็กถูกนายจ้างรังแก และทำทารุณ ได้รับความบาดเจ็บ เมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วจะถูกส่งไปรักษาตัวโดยมีกระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบ หากเด็กไม่มีผู้ปกครอง ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะจัดหาที่เรียนและฝึกอาชีพ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว ขอบคุณ… http://goo.gl/dpMEl โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ก.พ.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)