คนพิการยื่น"คมนาคม"รถเมล์ใหม่ต้องชานต่ำทุกคัน
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2558 ที่องค์การขนส่งมวชนกรุงเทพ(ขสมก.) กลุ่มคนพิการเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชน ทุกคนต้องขึ้นได้จำนวน 20 กว่าคนเดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อคัดค้านแนวคิดการจัดซื้อรถเมล์ชานสูงแทนรถเมล์ชานต่ำ
นายธีรยุทธ สุคนธวิทย์ เลขานุการเครื่อข่ายรถเมล์ทุกคนขึ้นได้ทุกคัน กล่าวว่า จากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีแนวคิดในการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 400-500 คันพร้อมกับกำหนดลักษณะรถที่มีชานสูงเพื่อให้เหมาะสมกับกายภาพถนนของกรุงเทพมหานคร ส่วนการบริการคนพิการนั้นจะมีการกำหนดเป็นตารางเดินรถที่เป็นรถชานต่ำไว้สำหรับให้คนพิการเลือกใช้บริการซึ่งไม่ได้มีการจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำทั้งหมดจำนวน 3,183 คัน
โดยในวันนี้ ทางกลุ่มเครือข่ายจึงได้มีการยื่นหนังสือเพื่อขอคัดค้านแนวคิดดังกล่าวเนื่องจากเป็นการลิดรอนสิทธิของคนพิการ ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายต้องการให้การจัดซื้อรถเมล์ทั้งหมดเป็นแบบชานต่ำเพื่อทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นต่อตัวคนพิการ คนชรา เด็กและคนป่วย ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่า หากจัดซื้อเป็นรถเมล์ชานต่ำทั้งหมดจะไม่สามารถวิ่งในถนนกรุงเทพฯได้นั้น ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) ผู้รับผิดชอบพื้นที่ได้มีการปรับปรุงจุดคอสะพานที่มีปัญหาแล้ว ด้านกรณีปัญหาน้ำท่วมขังนั้นถือว่าเป็นนโยบาที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงแก้ไขในภาพรวม อย่างไรก็ตามทางกลุ่มเครือข่ายสามารถยอมรับได้ทั้งรถเมล์ไฟฟ้าและรถเมล์แก็สเอ็นจีวีแต่ไม่ว่าจะจัดซื้อรูปแบบใดขอให้ทางขสมก.คงสเปคให้เป็นชานต่ำไว้เช่นเดิม
ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตนได้รับข้อเสนอเรื่องที่กลุ่มเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้ทุกคัน ร้องเรียนมาซึ่งก็จะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาเพื่อจัดซื้อรถเมล์ซึ่งตนขอยืนยันว่าในการจัดซื้อรถเมล์ทั้งหมดจำนวน 3,183 คัน นั้นคนพิการ และคนทุกเพศทุกวันจะต้องสามารถขึ้นได้ โดยส่วนของรถเมล์ไฟฟ้านั้นตนเห็นว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ประเทศไทยจะต้องนำมาวิ่งเพราะมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดมลภาวะ การลดค่าเชื้อเพลิงเพราะปัจจุบันแก๊สเอ็นจีวีมีราคาที่สูงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายให้ทดลองจัดซื้อก่อนประมาณ 200 คันเพื่อนำมาทดลองใช้ ซึ่งหลังจากนี้ทางกระทรวงได้มอบให้ขสมก.ไปศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อให้พิจารณาจัดซื้อ ซึ่งภายหลังที่ครม.อนุมัติเห็นชอบก็จะต้องเข้าสู่การร่างขอบข่ายการทำงานหรือทีโออาร์เพื่อเปิดประกวดราคาต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติรถเมล์ไฟฟ้าที่นำมาวิ่งทดลองนั้นสามารถวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีระบบไฮโดรลิคเพื่อลดระดับสำหรับรับผู้โดยสารซึ่งตนเห็นว่าคนพิการสามารถใช้บริการได้ สำหรับราคาขณะนี้ได้มีสถาบันการศึกษาของไทยมีการศึกษาซึ่งคาดว่าหากผลิตในประเทศไทยราคาจะอยู่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อคันซึ่งก็จะส่งผลให้รัฐบาลประหยัดต้นทุนในการจัดซื้อด้วย
นายออมสิน กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อรถมล์จำนวน 489 คันนั้นก็อยู่ระหว่างริการพิจารณาจาก(กวพ.อ.)พิจารณาก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งหากไม่มีการ้องเรียนก็คาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้คาดว่าหากมีการลงนามแล้วภายใน1-2เดือนก็จะมีการส่งมอบรถ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายต้องการที่จะนำเมล์ใหม่มาวิ่งให้บริการประชาชนให้ทันภายในปีใหม่นี้ เพราะการจัดซื้อรถเมล์ใหม่นั้นถือว่ามีระยะเวลาการดำเนินการมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ที่ครม.มีมติในปี 2547 ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคมก็ต้องการที่จะให้ประชาชนคนกรุงเทพฯมีรถใหม่ใช้ได้เร็วๆนี้.“
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/bangkok/350840 (ขนาดไฟล์: 167)
1 คนพิการรัฐไม่ได้ใส่ใจจริง 13/11/2558 19:50:23
ชาติไหนถึงได้ใช้กัน ถ้ามันไม่จัดให้มีทุกคัน คนพิการเสียภาษี5% ได้มั้ย
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2558 ที่องค์การขนส่งมวชนกรุงเทพ(ขสมก.) กลุ่มคนพิการเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชน ทุกคนต้องขึ้นได้จำนวน 20 กว่าคนเดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อคัดค้านแนวคิดการจัดซื้อรถเมล์ชานสูงแทนรถเมล์ชานต่ำ กลุ่มคนพิการเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชน ทุกคนต้องขึ้นได้จำนวน 20 กว่าคนเดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายธีรยุทธ สุคนธวิทย์ เลขานุการเครื่อข่ายรถเมล์ทุกคนขึ้นได้ทุกคัน กล่าวว่า จากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีแนวคิดในการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 400-500 คันพร้อมกับกำหนดลักษณะรถที่มีชานสูงเพื่อให้เหมาะสมกับกายภาพถนนของกรุงเทพมหานคร ส่วนการบริการคนพิการนั้นจะมีการกำหนดเป็นตารางเดินรถที่เป็นรถชานต่ำไว้สำหรับให้คนพิการเลือกใช้บริการซึ่งไม่ได้มีการจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำทั้งหมดจำนวน 3,183 คัน โดยในวันนี้ ทางกลุ่มเครือข่ายจึงได้มีการยื่นหนังสือเพื่อขอคัดค้านแนวคิดดังกล่าวเนื่องจากเป็นการลิดรอนสิทธิของคนพิการ ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายต้องการให้การจัดซื้อรถเมล์ทั้งหมดเป็นแบบชานต่ำเพื่อทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นต่อตัวคนพิการ คนชรา เด็กและคนป่วย ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่า หากจัดซื้อเป็นรถเมล์ชานต่ำทั้งหมดจะไม่สามารถวิ่งในถนนกรุงเทพฯได้นั้น ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) ผู้รับผิดชอบพื้นที่ได้มีการปรับปรุงจุดคอสะพานที่มีปัญหาแล้ว ด้านกรณีปัญหาน้ำท่วมขังนั้นถือว่าเป็นนโยบาที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงแก้ไขในภาพรวม อย่างไรก็ตามทางกลุ่มเครือข่ายสามารถยอมรับได้ทั้งรถเมล์ไฟฟ้าและรถเมล์แก็สเอ็นจีวีแต่ไม่ว่าจะจัดซื้อรูปแบบใดขอให้ทางขสมก.คงสเปคให้เป็นชานต่ำไว้เช่นเดิม ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตนได้รับข้อเสนอเรื่องที่กลุ่มเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้ทุกคัน ร้องเรียนมาซึ่งก็จะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาเพื่อจัดซื้อรถเมล์ซึ่งตนขอยืนยันว่าในการจัดซื้อรถเมล์ทั้งหมดจำนวน 3,183 คัน นั้นคนพิการ และคนทุกเพศทุกวันจะต้องสามารถขึ้นได้ โดยส่วนของรถเมล์ไฟฟ้านั้นตนเห็นว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ประเทศไทยจะต้องนำมาวิ่งเพราะมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดมลภาวะ การลดค่าเชื้อเพลิงเพราะปัจจุบันแก๊สเอ็นจีวีมีราคาที่สูงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายให้ทดลองจัดซื้อก่อนประมาณ 200 คันเพื่อนำมาทดลองใช้ ซึ่งหลังจากนี้ทางกระทรวงได้มอบให้ขสมก.ไปศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อให้พิจารณาจัดซื้อ ซึ่งภายหลังที่ครม.อนุมัติเห็นชอบก็จะต้องเข้าสู่การร่างขอบข่ายการทำงานหรือทีโออาร์เพื่อเปิดประกวดราคาต่อไป ภาพการ์ตูนรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติรถเมล์ไฟฟ้าที่นำมาวิ่งทดลองนั้นสามารถวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีระบบไฮโดรลิคเพื่อลดระดับสำหรับรับผู้โดยสารซึ่งตนเห็นว่าคนพิการสามารถใช้บริการได้ สำหรับราคาขณะนี้ได้มีสถาบันการศึกษาของไทยมีการศึกษาซึ่งคาดว่าหากผลิตในประเทศไทยราคาจะอยู่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อคันซึ่งก็จะส่งผลให้รัฐบาลประหยัดต้นทุนในการจัดซื้อด้วย นายออมสิน กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อรถมล์จำนวน 489 คันนั้นก็อยู่ระหว่างริการพิจารณาจาก(กวพ.อ.)พิจารณาก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งหากไม่มีการ้องเรียนก็คาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้คาดว่าหากมีการลงนามแล้วภายใน1-2เดือนก็จะมีการส่งมอบรถ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายต้องการที่จะนำเมล์ใหม่มาวิ่งให้บริการประชาชนให้ทันภายในปีใหม่นี้ เพราะการจัดซื้อรถเมล์ใหม่นั้นถือว่ามีระยะเวลาการดำเนินการมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ที่ครม.มีมติในปี 2547 ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคมก็ต้องการที่จะให้ประชาชนคนกรุงเทพฯมีรถใหม่ใช้ได้เร็วๆนี้.“ ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/bangkok/350840
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)