สิ่งประดิษฐ์สุดเวิร์ก MIT พัฒนาอัลกอริธึมช่วยอ่านใจลูกค้า
ในวันที่มนุษย์กำลังมุ่งมั่นหาทางพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ในการสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันได้อยู่นั้น บางทีเราอาจต้องการเทคโนโลยีที่ช่วยให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดลึก ๆ ข้างในมากกว่าเทคโนโลยีที่เข้าใจแค่คำพูดที่ออกจากปากแต่เพียงอย่างเดียวก็เป็นได้
ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะบางทีการสื่อสารของมนุษย์ก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากกว่าคำพูด เรายังมีเรื่องของ Body Language เรื่องของน้ำเสียง การแสดงสีหน้าให้ต้องคาดเดา ด้วยเหตุนี้ สถาบัน MIT จึงพัฒนาอัลกอริธึมที่ช่วยไขลึกลงไปถึงความรู้สึกในใจออกมาให้รู้กันไปเลยว่าคนๆ นั้นกำลังรู้สึกในเชิงลบหรือบวกอยู่กับสิ่งที่พวกเขาพูดนั่นเอง ผลงานชิ้นนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจหลายวงการ รวมถึงบรรดานักการตลาดด้วย ซึ่งนักวิจัยอย่าง Tuka AlHanai และ Mohammad Mahdi Ghassemi ผู้พัฒนาอัลกอริธึมที่สามารถวิเคราะห์น้ำเสียงและรูปแบบการพูดได้นั้นเผยว่า งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยเป็นการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Tizen ของ Samsung ส่วนการอัดเสียงนั้น ผู้อัดได้สวมสายรัดข้อมือ Simband ของ Samsung ซึ่งรูปแบบของผลการวิเคราะห์จะอยู่ในรูปของกราฟ ที่แสดงผลความรู้สึกระหว่างการพูดทุกๆ 5 วินาที โดยเส้นกราฟที่วิ่งขึ้นลงจะบอกถึงรายละเอียดว่าผู้พูดรู้สึกเชิงบวกในตอนใด และรู้สึกเชิงลบในตอนใดบ้าง
ส่วนแนวทางในการใช้งานนั้น มีโอกาสไปได้หลายช่องทาง ทั้งการนำพัฒนาเป็นเครื่องมือช่วยปรับอารมณ์ความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เด็กที่มีภาวะออทิสติก หรือไม่ก็อาจนำไปใช้ในเชิงธุรกิจไปเลย แน่นอนว่า “ความรู้สึก” โดยเฉพาะของลูกค้าไม่ว่าจะลบหรือจะบวกเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น ซึ่งบ็อทต่าง ๆ ที่นักพัฒนากำลังพัฒนากันอยู่นั้นยังไม่สามารถตอบโจทย์ในจุดนี้ได้ จึงอาจทำให้เกิดปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันขึ้นมาได้ง่ายบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่แน่ว่าสิ่งประดิษฐ์จาก MIT ตัวนี้ อาจเป็นตัวช่วยที่มาได้เหมาะเจาะกับเวลาก็เป็นได้
ที่มา: hitech.sanook.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ก.พ.60
วันที่โพสต์: 16/02/2560 เวลา 12:17:47 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สิ่งประดิษฐ์สุดเวิร์ก MIT พัฒนาอัลกอริธึมช่วยอ่านใจลูกค้า ในวันที่มนุษย์กำลังมุ่งมั่นหาทางพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ในการสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันได้อยู่นั้น บางทีเราอาจต้องการเทคโนโลยีที่ช่วยให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดลึก ๆ ข้างในมากกว่าเทคโนโลยีที่เข้าใจแค่คำพูดที่ออกจากปากแต่เพียงอย่างเดียวก็เป็นได้ ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะบางทีการสื่อสารของมนุษย์ก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากกว่าคำพูด เรายังมีเรื่องของ Body Language เรื่องของน้ำเสียง การแสดงสีหน้าให้ต้องคาดเดา ด้วยเหตุนี้ สถาบัน MIT จึงพัฒนาอัลกอริธึมที่ช่วยไขลึกลงไปถึงความรู้สึกในใจออกมาให้รู้กันไปเลยว่าคนๆ นั้นกำลังรู้สึกในเชิงลบหรือบวกอยู่กับสิ่งที่พวกเขาพูดนั่นเอง ผลงานชิ้นนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจหลายวงการ รวมถึงบรรดานักการตลาดด้วย ซึ่งนักวิจัยอย่าง Tuka AlHanai และ Mohammad Mahdi Ghassemi ผู้พัฒนาอัลกอริธึมที่สามารถวิเคราะห์น้ำเสียงและรูปแบบการพูดได้นั้นเผยว่า งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยเป็นการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Tizen ของ Samsung ส่วนการอัดเสียงนั้น ผู้อัดได้สวมสายรัดข้อมือ Simband ของ Samsung ซึ่งรูปแบบของผลการวิเคราะห์จะอยู่ในรูปของกราฟ ที่แสดงผลความรู้สึกระหว่างการพูดทุกๆ 5 วินาที โดยเส้นกราฟที่วิ่งขึ้นลงจะบอกถึงรายละเอียดว่าผู้พูดรู้สึกเชิงบวกในตอนใด และรู้สึกเชิงลบในตอนใดบ้าง Mood-Predicting Wearables ส่วนแนวทางในการใช้งานนั้น มีโอกาสไปได้หลายช่องทาง ทั้งการนำพัฒนาเป็นเครื่องมือช่วยปรับอารมณ์ความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เด็กที่มีภาวะออทิสติก หรือไม่ก็อาจนำไปใช้ในเชิงธุรกิจไปเลย แน่นอนว่า “ความรู้สึก” โดยเฉพาะของลูกค้าไม่ว่าจะลบหรือจะบวกเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น ซึ่งบ็อทต่าง ๆ ที่นักพัฒนากำลังพัฒนากันอยู่นั้นยังไม่สามารถตอบโจทย์ในจุดนี้ได้ จึงอาจทำให้เกิดปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันขึ้นมาได้ง่ายบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่แน่ว่าสิ่งประดิษฐ์จาก MIT ตัวนี้ อาจเป็นตัวช่วยที่มาได้เหมาะเจาะกับเวลาก็เป็นได้ ขอบคุณ... http://hitech.sanook.com/1417109/
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
