ก.ไอซีทีบุกเกาหลีดูการใช้ไอทีลดความเหลือมล้ำการศึกษา
ไอซีที ศึกษาแนวทางการพัฒนาด้านไอซีที เพื่อการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์...
นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า หลังจากเดินทางไปศึกษาดูงานหน่วยงานด้านไอซีที เพื่อการศึกษา ณ ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับผู้แทนจาก ๔ หน่วยงาน คือ สำนักงานส่งเสริมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้ ข้อตกลงทางวิชาการเพื่อการพัฒนาการใช้ไอซีทีในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ เพื่อการศึกษาจาก KERIS (Korea Education and Research Information Service) และ NIA (Nation Information Society Agency) ซึ่งสะท้อนภาพการทำงานจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติด้านไอซีที อย่างเป็นรูปธรรม โดย KERIS จะเน้นการทำงานกับเด็กในระบบโรงเรียนผ่านการพัฒนาโปรแกรมไอซีทีที่สอดคล้อง กับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โปรแกรม EDUNET ที่ส่งเสริมการสอนและการฝึกอบรมของครู โปรแกรม Research Information Service System (RISS) ที่ให้บริการด้านสารสนเทศเพื่อการวิจัย โปรแกรม National Education Information System (NEIS) ที่สนับสนุนการบริหารจัดการระบบการศึกษา (e-Administration) ส่วนความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจาก NIA ของเกาหลีใต้นั้น จะเน้นการใช้ไอซีทีเพื่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยในการศึกษาดูงานหน่วยงาน ครั้งนี้เน้นเฉพาะกลุ่มคนพิการ ซึ่งมีการนำเสนออุปกรณ์ hi-tech ที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ของคนพิการในแต่ละกลุ่ม อาทิ เครื่องสั่งการเมาส์ทางสายตาสำหรับผู้พิการทางการเคลื่อนไหว (แขน) เครื่องขยายตัวอักษรสำหรับผู้พิการ ทางการมองเห็น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังศึกษาดูงาน พิพิธภัณฑ์คลองชองเกชอน ที่สะท้อนภาพความรักชาติ และความร่วมมือสานสัมพันธ์เพื่อพัฒนาชาติไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาสายน้ำที่มีสภาพสกปรกและเน่าเหม็นในอดีต ให้กลายเป็นคลองที่ใสสะอาดในปัจจุบัน โดยโครงการนี้ใช้เวลา ๒ ปี ๓ เดือนกับกระบวนการภาคประชาสังคม สร้างการมีส่วนร่วมโดยจัดประชุมมากกว่า ๔,๐๐๐ ครั้งกับผู้ได้รับผลกระทบในการก่อสร้างฟื้นฟูคลองหลายแสนคน และการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่เด็กถึงผู้อาวุโสมีส่วนร่วมให้ความ คิดในการออกแบบคลอง อันนำมาสู่ความรู้สึกเป็นเจ้าของคลองอันเป็นสายเลือดหลักของกรุงโซลมาแต่ โบราณนี้อย่างแท้จริง
สำหรับ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากประเทศเกาหลีใต้ในครั้งนี้ เป็นความรู้ที่คณะทำงานภายใต้ความร่วมมือ ๔ ฝ่ายสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมไทยได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการวางแผนการทำงานด้านไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสผ่านทุนและเครือข่ายการทำงานที่มีอยู่แล้ว อาทิ เครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของกระทรวงฯ ในการพัฒนา และกระจายสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพไปสู่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
“นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ได้รับแล้ว การศึกษาดูงานในครั้งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันในการผลักดันงานด้าน ไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยความสำเร็จนั้นอยู่ที่การวางเป้าหมายทุกระยะอย่างชัดเจน ความร่วมมือกันอย่างดี และมีทัศนคติทางบวกต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานบนฐานทุนการทำงานที่แต่ละฝ่ายมีอยู่แล้ว อันจะทำให้งานทั้งหมดก้าวข้ามข้อจำกัดและดำเนินไปสู่เป้าหมายที่ทุกฝ่ายมี ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางจีราวรรณ กล่าว
สถิติความสนใจ
ชอบ: 1 คน (100%)
ไม่ชอบ: 0 คน (0%)
ไม่มีความเห็น: 0 คน (0%)
จำนวนคนโหวตทั้งหมด: 1 คน (100%)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ก.ไอซีทีบุกเกาหลีดูการใช้ไอที และภาพสิ่งอำนวยความสะดวกด้าน ไอซีทีไอซีที ศึกษาแนวทางการพัฒนาด้านไอซีที เพื่อการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์... นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า หลังจากเดินทางไปศึกษาดูงานหน่วยงานด้านไอซีที เพื่อการศึกษา ณ ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับผู้แทนจาก ๔ หน่วยงาน คือ สำนักงานส่งเสริมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้ ข้อตกลงทางวิชาการเพื่อการพัฒนาการใช้ไอซีทีในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ เพื่อการศึกษาจาก KERIS (Korea Education and Research Information Service) และ NIA (Nation Information Society Agency) ซึ่งสะท้อนภาพการทำงานจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติด้านไอซีที อย่างเป็นรูปธรรม โดย KERIS จะเน้นการทำงานกับเด็กในระบบโรงเรียนผ่านการพัฒนาโปรแกรมไอซีทีที่สอดคล้อง กับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โปรแกรม EDUNET ที่ส่งเสริมการสอนและการฝึกอบรมของครู โปรแกรม Research Information Service System (RISS) ที่ให้บริการด้านสารสนเทศเพื่อการวิจัย โปรแกรม National Education Information System (NEIS) ที่สนับสนุนการบริหารจัดการระบบการศึกษา (e-Administration) ส่วนความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจาก NIA ของเกาหลีใต้นั้น จะเน้นการใช้ไอซีทีเพื่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยในการศึกษาดูงานหน่วยงาน ครั้งนี้เน้นเฉพาะกลุ่มคนพิการ ซึ่งมีการนำเสนออุปกรณ์ hi-tech ที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ของคนพิการในแต่ละกลุ่ม อาทิ เครื่องสั่งการเมาส์ทางสายตาสำหรับผู้พิการทางการเคลื่อนไหว (แขน) เครื่องขยายตัวอักษรสำหรับผู้พิการ ทางการมองเห็น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังศึกษาดูงาน พิพิธภัณฑ์คลองชองเกชอน ที่สะท้อนภาพความรักชาติ และความร่วมมือสานสัมพันธ์เพื่อพัฒนาชาติไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาสายน้ำที่มีสภาพสกปรกและเน่าเหม็นในอดีต ให้กลายเป็นคลองที่ใสสะอาดในปัจจุบัน โดยโครงการนี้ใช้เวลา ๒ ปี ๓ เดือนกับกระบวนการภาคประชาสังคม สร้างการมีส่วนร่วมโดยจัดประชุมมากกว่า ๔,๐๐๐ ครั้งกับผู้ได้รับผลกระทบในการก่อสร้างฟื้นฟูคลองหลายแสนคน และการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่เด็กถึงผู้อาวุโสมีส่วนร่วมให้ความ คิดในการออกแบบคลอง อันนำมาสู่ความรู้สึกเป็นเจ้าของคลองอันเป็นสายเลือดหลักของกรุงโซลมาแต่ โบราณนี้อย่างแท้จริง สำหรับ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากประเทศเกาหลีใต้ในครั้งนี้ เป็นความรู้ที่คณะทำงานภายใต้ความร่วมมือ ๔ ฝ่ายสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมไทยได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการวางแผนการทำงานด้านไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสผ่านทุนและเครือข่ายการทำงานที่มีอยู่แล้ว อาทิ เครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของกระทรวงฯ ในการพัฒนา และกระจายสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพไปสู่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น “นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ได้รับแล้ว การศึกษาดูงานในครั้งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันในการผลักดันงานด้าน ไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยความสำเร็จนั้นอยู่ที่การวางเป้าหมายทุกระยะอย่างชัดเจน ความร่วมมือกันอย่างดี และมีทัศนคติทางบวกต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานบนฐานทุนการทำงานที่แต่ละฝ่ายมีอยู่แล้ว อันจะทำให้งานทั้งหมดก้าวข้ามข้อจำกัดและดำเนินไปสู่เป้าหมายที่ทุกฝ่ายมี ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางจีราวรรณ
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)