มูลนิธิขาเทียมฯ ปั้น “คนพิการขาขาดเป็นช่างทำขาเทียม”
มูลนิธิขาเทียมฯ ตั้งโรงงานทำขาเทียมร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน และคัดเลือกคนพิการขาขาดจากชุมชนเข้าอบรมเป็นช่างทำขาเทียม ส่งไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชนปัจจุบันมี 37 แห่ง ตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุม จังหวัดละ 1 แห่ง รองรับคนพิการขาขาดที่พบมากกว่า 3,500 ขาต่อปี เพื่อให้คนพิการที่อยู่ตามชนบทได้รับขาเทียมอย่างรวดเร็วรวมทั้งทดแทนขาเทียมที่ชำรุดสามารถช่วยเหลือตนเองและประกอบอาชีพได้
วันที่(20 กรกฎาคม 2558) ที่ สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พล.ท.นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ รองประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ กรรมการและเลขาธิการ นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รักษาราชการปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมชี้แจงนโยบายและการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2558 แก่ผู้บริหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในเครือข่ายจำนวน 130 คน เพื่อพัฒนาระบบบริการการจัดทำขาเทียมแก่คนพิการขาขาดได้ทั่วถึงรวดเร็ว
ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุขแต่ละปีมีผู้ป่วยถูกตัดขาตั้งแต่ ระดับนิ้วเท้าจนถึงสะโพกรายใหม่มากกว่า 12,000 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ขาเทียม 3,500 ราย มากสุดคือผู้ป่วยเบาหวาน ที่ตัดขา ขาขาดจากอุบัติเหตุ โรคเส้นเลือดตีบ รวมทั้งขาเทียมที่ชำรุด ต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 2 ปี คนพิการขาขาดส่วนใหญ่ของไทยอยู่ในชนบท ห่างไกลในขณะที่โรงงานทำขาเทียมส่วนใหญ่อยู่ในตัวจังหวัด ในปี 2551 มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตั้งโรงงานทำขาเทียมในโรงพยาบาลชุมชน โดยคัดเลือกคนพิการขาขาดที่ร่างกายแข็งแรงจากชุมชน แห่งละ 2-3 คน เข้าฝึกอบรมที่มูลนิธิฯ เพื่อให้เป็นช่างทำขาเทียม และกลับไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชน ปัจจุบันมี 37 แห่ง โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนเครื่องมือ และอุปกรณ์ให้โดยไม่คิดมูลค่าผลดำเนินการที่ผ่านมาได้ผลดี ในปีนี้จึงตั้งเป้าขยายดำเนินการในโรงพยาบาลชุมชนเพิ่มขึ้นครอบคลุมจังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อให้คนพิการที่อยู่ตามชนบทได้รับขาเทียมอย่างรวดเร็วทั่วถึงช่วยเหลือตนเองและประกอบอาชีพได้
มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดยากจน ทุกเชื้อชาติศาสนา โดยไม่คิดมูลค่า ผลิตชิ้นส่วนขาเทียม จัดทำอุปกรณ์เพิ่มเพื่อให้ผู้ใส่ขาเทียมแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถประกอบอาชีพได้ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2535 โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นประธาน ปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงดำรงตำแหน่งองค์นายกกิตติมศักดิ์
ผลการดำเนินงานรอบ 22 ปี ให้บริการร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและเอกชน ทำขาเทียมให้คนพิการชาวไทยและต่างชาติที่ยากจนมากกว่า 27,000 คน รวม 36,000 ขา ศึกษาวิจัยและพัฒนาคุณภาพของขาเทียมอย่างต่อเนื่อง ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ช่างทำขาเทียม นักกายภาพบำบัด เพื่อไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอื่นๆ กว่า 53 แห่งทั่วประเทศ อบรมแพทย์และช่างทำ ขาเทียมชาวต่างประเทศ ที่มูลนิธิฯไปตั้งโรงงานอยู่ เช่น เมียนมาร์ มาเลเชีย และบังคลาเทศ ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานพัฒนาหลักสูตรช่างเครื่องช่วยคนพิการให้ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และร่วมผลิตช่างเทคนิคกายอุปกรณ์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
มูลนิธิขาเทียมฯ ตั้งโรงงานทำขาเทียมร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน และคัดเลือกคนพิการขาขาดจากชุมชนเข้าอบรมเป็นช่างทำขาเทียม ส่งไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชนปัจจุบันมี 37 แห่ง ตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุม จังหวัดละ 1 แห่ง รองรับคนพิการขาขาดที่พบมากกว่า 3,500 ขาต่อปี เพื่อให้คนพิการที่อยู่ตามชนบทได้รับขาเทียมอย่างรวดเร็วรวมทั้งทดแทนขาเทียมที่ชำรุดสามารถช่วยเหลือตนเองและประกอบอาชีพได้ ช่างทำขาเทียม วันที่(20 กรกฎาคม 2558) ที่ สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พล.ท.นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ รองประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ กรรมการและเลขาธิการ นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รักษาราชการปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมชี้แจงนโยบายและการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2558 แก่ผู้บริหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในเครือข่ายจำนวน 130 คน เพื่อพัฒนาระบบบริการการจัดทำขาเทียมแก่คนพิการขาขาดได้ทั่วถึงรวดเร็ว ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุขแต่ละปีมีผู้ป่วยถูกตัดขาตั้งแต่ ระดับนิ้วเท้าจนถึงสะโพกรายใหม่มากกว่า 12,000 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ขาเทียม 3,500 ราย มากสุดคือผู้ป่วยเบาหวาน ที่ตัดขา ขาขาดจากอุบัติเหตุ โรคเส้นเลือดตีบ รวมทั้งขาเทียมที่ชำรุด ต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 2 ปี คนพิการขาขาดส่วนใหญ่ของไทยอยู่ในชนบท ห่างไกลในขณะที่โรงงานทำขาเทียมส่วนใหญ่อยู่ในตัวจังหวัด ในปี 2551 มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตั้งโรงงานทำขาเทียมในโรงพยาบาลชุมชน โดยคัดเลือกคนพิการขาขาดที่ร่างกายแข็งแรงจากชุมชน แห่งละ 2-3 คน เข้าฝึกอบรมที่มูลนิธิฯ เพื่อให้เป็นช่างทำขาเทียม และกลับไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชน ปัจจุบันมี 37 แห่ง โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนเครื่องมือ และอุปกรณ์ให้โดยไม่คิดมูลค่าผลดำเนินการที่ผ่านมาได้ผลดี ในปีนี้จึงตั้งเป้าขยายดำเนินการในโรงพยาบาลชุมชนเพิ่มขึ้นครอบคลุมจังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อให้คนพิการที่อยู่ตามชนบทได้รับขาเทียมอย่างรวดเร็วทั่วถึงช่วยเหลือตนเองและประกอบอาชีพได้ มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดยากจน ทุกเชื้อชาติศาสนา โดยไม่คิดมูลค่า ผลิตชิ้นส่วนขาเทียม จัดทำอุปกรณ์เพิ่มเพื่อให้ผู้ใส่ขาเทียมแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถประกอบอาชีพได้ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2535 โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นประธาน ปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงดำรงตำแหน่งองค์นายกกิตติมศักดิ์ ผลการดำเนินงานรอบ 22 ปี ให้บริการร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและเอกชน ทำขาเทียมให้คนพิการชาวไทยและต่างชาติที่ยากจนมากกว่า 27,000 คน รวม 36,000 ขา ศึกษาวิจัยและพัฒนาคุณภาพของขาเทียมอย่างต่อเนื่อง ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ช่างทำขาเทียม นักกายภาพบำบัด เพื่อไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอื่นๆ กว่า 53 แห่งทั่วประเทศ อบรมแพทย์และช่างทำ ขาเทียมชาวต่างประเทศ ที่มูลนิธิฯไปตั้งโรงงานอยู่ เช่น เมียนมาร์ มาเลเชีย และบังคลาเทศ ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานพัฒนาหลักสูตรช่างเครื่องช่วยคนพิการให้ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และร่วมผลิตช่างเทคนิคกายอุปกรณ์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ขอบคุณ... http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=286578:2015-07-20-07-55-09&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.Va2wbaTtmko
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)