กลาโหมสั่งทหารพร้อมช่วยภัยพิบัติ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมว่า ในที่ประชุมทางรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาทางกองทัพบกได้เป็นกองทัพที่มีความพร้อมและทำได้ดีซึ่งมีการ ปรับแผนทั้งหมด 3 ระดับ คือ 1.การเตรียมการ 2.เป็นการปฏิบัติ และ 3. เป็นการคลี่คลายสถานการณ์ โดยมีการเตรียมกำลังแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.กำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยได้จัดกำลัง”กองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน” มีทั้งสิ้น 147 กองร้อย กำลังพล 22,050 นาย มีภารกิจในการออกปฏิบัติงานทันที่เมื่อเกิดเหตุ โดยไม่ต้องรับคำสั่งจากหน่วยเหนือ โดยจะมียุทโธปกรณ์ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกจำนวน 1,911 คัน ชุดวิทยุสื่อสาร ติดรถ 1,911 ชุด เรือทองแบน และเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งพร้อมให้การช่วยเหลือในทันที เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ โดยไม่ต้องรับการสั่งการจากหน่วยเหนือ
พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่อว่า 2.หากสถานการณ์ภัยพิบัติขยายวงกว้างออกไป มีแนวโน้มทวีความรุนแรง และมีผลกระทบต่อประชาชน กองทัพบกจะจัดกำลังพล เครื่องมือช่างจากกรมทหารช่าง ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะจากหน่วยนอกพื้นที่ประสบภัยเข้าให้การช่วยเหลือถึงพื้นที่ประสบ ภัยภายใน 12 ชั่วโมง และในระดับที่ 2 หากมีภัยคุกคาม หรือภัยพิบัติ ทางกองทัพบกจะจัดนายทหารติดต่อประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบ กับประชาชนโดยตรง ชุดประเมินสถานการณ์ 3. เป็นการเน้นในเรื่องของการคลี่คลายสถานการณ์ โดยจะเน้นโครงสร้างเป็นหลัก โดยจะจัดชุดทหารช่างเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด.
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมว่า ในที่ประชุมทางรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาทางกองทัพบกได้เป็นกองทัพที่มีความพร้อมและทำได้ดีซึ่งมีการ ปรับแผนทั้งหมด 3 ระดับ คือ 1.การเตรียมการ 2.เป็นการปฏิบัติ และ 3. เป็นการคลี่คลายสถานการณ์ โดยมีการเตรียมกำลังแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.กำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยได้จัดกำลัง”กองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน” มีทั้งสิ้น 147 กองร้อย กำลังพล 22,050 นาย มีภารกิจในการออกปฏิบัติงานทันที่เมื่อเกิดเหตุ โดยไม่ต้องรับคำสั่งจากหน่วยเหนือ โดยจะมียุทโธปกรณ์ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกจำนวน 1,911 คัน ชุดวิทยุสื่อสาร ติดรถ 1,911 ชุด เรือทองแบน และเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งพร้อมให้การช่วยเหลือในทันที เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ โดยไม่ต้องรับการสั่งการจากหน่วยเหนือ พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่อว่า 2.หากสถานการณ์ภัยพิบัติขยายวงกว้างออกไป มีแนวโน้มทวีความรุนแรง และมีผลกระทบต่อประชาชน กองทัพบกจะจัดกำลังพล เครื่องมือช่างจากกรมทหารช่าง ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะจากหน่วยนอกพื้นที่ประสบภัยเข้าให้การช่วยเหลือถึงพื้นที่ประสบ ภัยภายใน 12 ชั่วโมง และในระดับที่ 2 หากมีภัยคุกคาม หรือภัยพิบัติ ทางกองทัพบกจะจัดนายทหารติดต่อประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบ กับประชาชนโดยตรง ชุดประเมินสถานการณ์ 3. เป็นการเน้นในเรื่องของการคลี่คลายสถานการณ์ โดยจะเน้นโครงสร้างเป็นหลัก โดยจะจัดชุดทหารช่างเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด. ขอบคุณ http://m.dailynews.co.th/politics/215139
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)