เตือน14 จว.ท่วม!
18 – 22 ก.ย.มีฝนหนัก กรมชลฯยันน้ำน้อย ปภ.เตือน 14 จังหวัดภาคกลาง ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รับมือฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน 18-22 ก.ย. สสนก.จับตา กทม.เจอฝนถล่ม 100 เปอร์เซ็นต์ ห่วงถนนหลายสายน้ำเจิ่งนอง กรมชลฯแจงระดับน้ำปีนี้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ยันน้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แน่ ด้านเขื่อนเจ้าพระยาเตือนชาวบ้านขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงหลังน้ำเหนือไหลลง มาต่อเนื่องจนต้องระบายน้ำเพิ่ม ล่าสุดที่อ่างทองและอยุธยาน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนริมตลิ่งแล้ว
เตือนภัย 14 จังหวัดรับมือฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสภาพอากาศในช่วงนี้ว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะก่อตัวเป็น พายุหมุนเขตร้อน ส่งผลให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 18-22 ก.ย.นี้
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวอีกว่า จากสภาพอากาศดังกล่าวทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 14 จังหวัดได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ต้องติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิดพร้อมปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด รวมถึงสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยได้ทัน ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ส่วนสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มน้ำ เจ้าพระยา ล่าสุดสำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท รายงานเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 17 ก.ย.ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ 1,299 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 16 ก.ย.ที่ 99 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีฝนตกสะสมในพื้นที่เหนือเขื่อนทำให้เขื่อนต้องระบายน้ำเพิ่มไป ด้วย จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนลง มาขนย้ายข้าวของมีค่าขึ้นไปไว้บนที่สูง และเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้น้ำในคลองโผงเผงซึ่งเป็นคลอง สาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำบริเวณบ้าน โผงเผง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำที่มักถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี โดยนายสัมฤทธิ์ มะลิวัลย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.โผงเผง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เปิดเผยว่า น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ต้องเร่งเก็บข้าวของไปไว้บนชั้นสอง เนื่องจากน้ำสูงกว่าครึ่งเมตร หมู่บ้านของตนเป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ ทำให้น้ำท่วมทุกปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดน้ำท่วมแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกังวลใดๆ เพราะชินแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านเตรียมทำสะพานไม้พาดหน้าต่างบ้านใช้เดินเชื่อมออกไปถนน
ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยเอ่อท่วม ต.หัวเวียง และ ต.บางกระทุ่ม อ.เสนา บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 70 ซม. บางจุดที่เป็นที่ต่ำสูงกว่า 1.5 เมตร ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อน โดยนายภาณุ กาลึกสม นายกสมาคมส่งเสริมทักษะและพัฒนาอาชีพคนพิการเสนา เปิดเผยว่า นอกจากชาวบ้านทั่วไปจะเดือดร้อนแล้ว ยังมีผู้พิการใน 3 ตำบลคือ ต.หัวเวียง ต.บางกระทุ่ม และ ต.บ้านโพธิ์ ที่มีอยู่เกือบ 300 คน ต่างได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะขาดเครื่องอุปโภคบริโภคและอาหาร อีกทั้งเสี่ยงพลาดพลั้งตกน้ำตาย จึงวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักใน อ.แม่สะเรียง ส่งผลให้ดินภูเขารับน้ำไม่ไหวสไลด์ลงมาทับถนนทางหลวง 108 สายแม่สะเรียง-ฮอด กม.ที่ 23 ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง ทำให้รถสัญจรได้เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางขึ้นลงเขา นอกจากนี้ บริเวณ กม.ที่ 100 ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกันได้มีก้อนหินขนาดใหญ่ร่วงลงมาขวางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาป้องกันภัยฮอดช่วยกันย้ายก้อนหินเพื่อให้วิ่งผ่าน ได้
ที่ จ.กำแพงเพชร ฝนที่ตกหนักในขณะนี้ทำให้เจดีย์เก่าทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อายุกว่า 200 ปี บริเวณหน้าวัดบาง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร เกิดร้าวและบางส่วนพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรต้องนำลลิงไปรัดองค์เจดีย์และใช้ไม้แผ่นและเสาเข็มค้ำ ยันไว้เพื่อรอการบูรณะต่อไป ส่วนที่ชุมชนเพชรวาริน ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร ที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิง ล่าสุดระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวได้ซัดเอาเศษซากต้นไม้ลอยไป กระแทกกระชังของชาวบ้านจนขาด ทำให้ปลาหลุดไปกับกระแสน้ำเป็นจำนวนมาก
นาย รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. เปิดเผยว่า ในวันที่ 19-20 ก.ย. พื้นที่กรุงเทพฯจะเผชิญฝนตกทั่วพื้นที่เกือบ 100% จากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ โดยได้รับอิทธิพลเสริมจากความชื้นสูงของลมตะวันตกเฉียงใต้ในขณะนี้ และอิทธิพลบางส่วนจากพายุดีเปรสชันลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่ในอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งมีแนวโน้มจะไปรวมพายุอุซางิ ที่ขณะนี้มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่เกาะไต้หวัน โดยพื้นที่น้ำท่วมที่เป็นห่วงได้แก่ ถนนแจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน ศรีอยุธยา ศรีนครินทร์ และเขตสุขุมวิท ห้วยขวาง ลาดพร้าว และคาดว่าเรือผลักดันน้ำที่ สสนก.จัดทำไว้น่าจะนำมาใช้ช่วยผลักดันน้ำในคลองเปรมประชากรได้ในเร็วๆนี้
นาย สุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากที่มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ ขณะนี้ขอให้ประชาชนอย่าตกใจตามกระแสข่าวลือที่ว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 เนื่องจากสภาพการตกของฝนที่กระจายตามขอบประเทศ แต่ไม่ตกลงในพื้นที่ตอนกลางของภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางฝนตกท้ายเขื่อน ภาคอีสานตอนลาง และอีสานใต้ ทำให้ระดับน้ำใน ลำน้ำโดยทั่วไปในประเทศขณะ นี้ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ การจัดการน้ำในขณะนี้ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล กรมชลฯยังคงบริหารน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ฝน ยังไม่ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้ามาควบคุมบริหารสถานการณ์
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า วันที่ 18 ก.ย. เวลา 14.00 น. ตนจะเข้าร่วมประชุมกับรองนายกรัฐมนตรีทุกคน ที่กรมชลประทานเพื่อหารือเกี่ยวกับน้ำท่วมน้ำแล้ง เบื้องต้นเมื่อดูปริมาณน้ำเหนือช่วงนี้ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง สถานการณ์น้ำท่วมจะไม่เลวร้ายเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน แต่พื้นที่ที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาและไม่มีคันกั้นน้ำยอมรับว่าจะมีผลกระทบ อาทิ อ.บางบาล และ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับพื้นที่กักเก็บน้ำในเขื่อน เช่น เขื่อนภูมิพล ยังมีพื้นที่เก็บน้ำเหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พื้นที่รับน้ำอื่นๆ ยังสามารถรองรับน้ำฝนได้ปริมาณมาก ขณะที่น้ำเหนือที่ไหลลงมาสู่ภาคกลางพบว่ามีเพียง 1,000 ลบ.ม.เท่านั้น โดย: ทีมข่าวหน้า 1
ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/newspaper/370471
ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ก.ย.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
18 – 22 ก.ย.มีฝนหนัก กรมชลฯยันน้ำน้อย ปภ.เตือน 14 จังหวัดภาคกลาง ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รับมือฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน 18-22 ก.ย. สสนก.จับตา กทม.เจอฝนถล่ม 100 เปอร์เซ็นต์ ห่วงถนนหลายสายน้ำเจิ่งนอง กรมชลฯแจงระดับน้ำปีนี้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ยันน้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แน่ ด้านเขื่อนเจ้าพระยาเตือนชาวบ้านขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงหลังน้ำเหนือไหลลง มาต่อเนื่องจนต้องระบายน้ำเพิ่ม ล่าสุดที่อ่างทองและอยุธยาน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนริมตลิ่งแล้ว เตือนภัย 14 จังหวัดรับมือฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสภาพอากาศในช่วงนี้ว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะก่อตัวเป็น พายุหมุนเขตร้อน ส่งผลให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 18-22 ก.ย.นี้ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวอีกว่า จากสภาพอากาศดังกล่าวทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 14 จังหวัดได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ต้องติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิดพร้อมปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด รวมถึงสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยได้ทัน ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ส่วนสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มน้ำ เจ้าพระยา ล่าสุดสำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท รายงานเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 17 ก.ย.ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ 1,299 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 16 ก.ย.ที่ 99 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีฝนตกสะสมในพื้นที่เหนือเขื่อนทำให้เขื่อนต้องระบายน้ำเพิ่มไป ด้วย จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนลง มาขนย้ายข้าวของมีค่าขึ้นไปไว้บนที่สูง และเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้น้ำในคลองโผงเผงซึ่งเป็นคลอง สาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำบริเวณบ้าน โผงเผง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำที่มักถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี โดยนายสัมฤทธิ์ มะลิวัลย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.โผงเผง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เปิดเผยว่า น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ต้องเร่งเก็บข้าวของไปไว้บนชั้นสอง เนื่องจากน้ำสูงกว่าครึ่งเมตร หมู่บ้านของตนเป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ ทำให้น้ำท่วมทุกปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดน้ำท่วมแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกังวลใดๆ เพราะชินแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านเตรียมทำสะพานไม้พาดหน้าต่างบ้านใช้เดินเชื่อมออกไปถนน ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยเอ่อท่วม ต.หัวเวียง และ ต.บางกระทุ่ม อ.เสนา บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 70 ซม. บางจุดที่เป็นที่ต่ำสูงกว่า 1.5 เมตร ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อน โดยนายภาณุ กาลึกสม นายกสมาคมส่งเสริมทักษะและพัฒนาอาชีพคนพิการเสนา เปิดเผยว่า นอกจากชาวบ้านทั่วไปจะเดือดร้อนแล้ว ยังมีผู้พิการใน 3 ตำบลคือ ต.หัวเวียง ต.บางกระทุ่ม และ ต.บ้านโพธิ์ ที่มีอยู่เกือบ 300 คน ต่างได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะขาดเครื่องอุปโภคบริโภคและอาหาร อีกทั้งเสี่ยงพลาดพลั้งตกน้ำตาย จึงวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักใน อ.แม่สะเรียง ส่งผลให้ดินภูเขารับน้ำไม่ไหวสไลด์ลงมาทับถนนทางหลวง 108 สายแม่สะเรียง-ฮอด กม.ที่ 23 ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง ทำให้รถสัญจรได้เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางขึ้นลงเขา นอกจากนี้ บริเวณ กม.ที่ 100 ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกันได้มีก้อนหินขนาดใหญ่ร่วงลงมาขวางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาป้องกันภัยฮอดช่วยกันย้ายก้อนหินเพื่อให้วิ่งผ่าน ได้ ที่ จ.กำแพงเพชร ฝนที่ตกหนักในขณะนี้ทำให้เจดีย์เก่าทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อายุกว่า 200 ปี บริเวณหน้าวัดบาง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร เกิดร้าวและบางส่วนพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรต้องนำลลิงไปรัดองค์เจดีย์และใช้ไม้แผ่นและเสาเข็มค้ำ ยันไว้เพื่อรอการบูรณะต่อไป ส่วนที่ชุมชนเพชรวาริน ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร ที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิง ล่าสุดระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวได้ซัดเอาเศษซากต้นไม้ลอยไป กระแทกกระชังของชาวบ้านจนขาด ทำให้ปลาหลุดไปกับกระแสน้ำเป็นจำนวนมาก นาย รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. เปิดเผยว่า ในวันที่ 19-20 ก.ย. พื้นที่กรุงเทพฯจะเผชิญฝนตกทั่วพื้นที่เกือบ 100% จากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ โดยได้รับอิทธิพลเสริมจากความชื้นสูงของลมตะวันตกเฉียงใต้ในขณะนี้ และอิทธิพลบางส่วนจากพายุดีเปรสชันลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่ในอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งมีแนวโน้มจะไปรวมพายุอุซางิ ที่ขณะนี้มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่เกาะไต้หวัน โดยพื้นที่น้ำท่วมที่เป็นห่วงได้แก่ ถนนแจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน ศรีอยุธยา ศรีนครินทร์ และเขตสุขุมวิท ห้วยขวาง ลาดพร้าว และคาดว่าเรือผลักดันน้ำที่ สสนก.จัดทำไว้น่าจะนำมาใช้ช่วยผลักดันน้ำในคลองเปรมประชากรได้ในเร็วๆนี้ นาย สุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากที่มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ ขณะนี้ขอให้ประชาชนอย่าตกใจตามกระแสข่าวลือที่ว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 เนื่องจากสภาพการตกของฝนที่กระจายตามขอบประเทศ แต่ไม่ตกลงในพื้นที่ตอนกลางของภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางฝนตกท้ายเขื่อน ภาคอีสานตอนลาง และอีสานใต้ ทำให้ระดับน้ำใน ลำน้ำโดยทั่วไปในประเทศขณะ นี้ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ การจัดการน้ำในขณะนี้ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล กรมชลฯยังคงบริหารน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ฝน ยังไม่ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้ามาควบคุมบริหารสถานการณ์ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า วันที่ 18 ก.ย. เวลา 14.00 น. ตนจะเข้าร่วมประชุมกับรองนายกรัฐมนตรีทุกคน ที่กรมชลประทานเพื่อหารือเกี่ยวกับน้ำท่วมน้ำแล้ง เบื้องต้นเมื่อดูปริมาณน้ำเหนือช่วงนี้ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง สถานการณ์น้ำท่วมจะไม่เลวร้ายเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน แต่พื้นที่ที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาและไม่มีคันกั้นน้ำยอมรับว่าจะมีผลกระทบ อาทิ อ.บางบาล และ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับพื้นที่กักเก็บน้ำในเขื่อน เช่น เขื่อนภูมิพล ยังมีพื้นที่เก็บน้ำเหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พื้นที่รับน้ำอื่นๆ ยังสามารถรองรับน้ำฝนได้ปริมาณมาก ขณะที่น้ำเหนือที่ไหลลงมาสู่ภาคกลางพบว่ามีเพียง 1,000 ลบ.ม.เท่านั้น โดย: ทีมข่าวหน้า 1 ขอบคุณ...http://m.thairath.co.th/content/newspaper/370471 ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ก.ย.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)