มท.1 เผยระบบเตือนภัยของไทยดีขึ้น
มท.1ร่วม ปภ.เปิดงานระดมความคิดจัดทำแผนป้องกันภัยฯ ยันการแจ้งเตือนภัยจะมีความรวดเร็วมากขึ้น
วันที่ 7มี.ค. เวลา 12.00 น.ที่ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงงานระดมความคิดเห็นการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 – 2557 ว่า หลักสากลเรื่องภัยพิบัติ ได้กำหนดว่าทุกประเทศต้องมีแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และจะต้องมีการปรับปรุงทุก 5 ปี ยกเว้นหากมีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นจะสามารถปรับก่อนเวลาได้ ดังเช่นกรณีของประเทศไทยที่ประสบภัยพิบัติในปี 2554 ทำให้ต้องเร่งปรับแผนฯจากทุก 5 ปี เป็น 3 ปีครึ่ง
"งานนี้เป็นการประชุมสัมมนาเพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยยึดตามแนวพระราชดำริ หลัก 2P 2R การมีส่วนร่วม และยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์ และเป็นแนวคิดหลักในการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 – 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย และทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อทำแผนในระดับชาติเสร็จแล้ว ระดับจังหวัดก็จะต้องทำแผนฯให้สอดคล้องกับทุกหน่วยราชการ รวมเป็น Single command"นายจารุพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้นายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า จะให้ความสำคัญในการทำให้ประชาชนตระหนักและทำความเข้าใจว่าเมื่อทางภาครัฐมีการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์ภัยพิบัติว่ามีความรุนแรงระดับไหนแล้ว รวมทั้งต้องมีการให้ความรู้กับเด็ก และเยาวชนตั้งแต่แรกเริ่ม ในการที่จะช่วยตัวเองเป็นสำคัญ
ดังนั้น ต้องมีศูนย์บัญชาการที่เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้การสั่งการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เรื่องการเตรียมความพร้อมในการซ้อมแผนนั้น จะมีการจำลองเหมือนสถานการณ์จริง เพราะถ้าหากสามารถป้องกันภัยพิบัติได้ ความสูญเสียจะลดลงถึง 8เท่าตัวจากความสูญเสียจริง
"ภัยที่เราเจอประจำคือ หน้าร้อนก็ภัยแล้ง หนัาฝนก็น้ำท่วม และหน้าหนาวก็หนาว เป็น 3 ภัยที่ต้องเจอทุกปีต้องแก้ทุกปี ซึ่งเป็นภัยจากธรรมชาติ ส่วนภัยอื่นๆ ยังมีอีก 18 ประเภท พร้อมยืนยันว่า จากนี้การแจ้งเตือนภัยจะมีความรวดเร็วมากขึ้น และประชาชนสามารถมั่นใจได้ ทั้งยังจะต้องมีการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและต้องให้การสนับสนุนด้วยว่าชาติมีแผนป้องกันภัยอย่างไร เพราะสื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้พลังของประชาชนทั้งหมดเดินไปในทิศทางเดียวกัน" นายจารุพงศ์ กล่าว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงแนวโน้มของแผนฯ ปี 2558-2562 จะมีภัยที่ต้องระวัง ว่า วันนี้ประเทศไทยแบ่งสาธารณภัยออกเป็น 18 ประเภท โดย 4ประเภท เป็นภัยจากความั่นคง ส่วนอีก4 ประเภทเป็นสาธารณภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ หรือภัยจากธรรมชาติ สำหรับภัยที่มีความถี่หรือมีความรุนแรงค่อนข้างมาก คือ อุทกภัย ภัยแล้ง ภัยหนาว ดินโคลนถล่ม หมอกคว้นพิษ วาตภัย เป็นภัยประจำถิ่นที่เกิดขึ้นเป็นประจำและทวีความรุนแรงขึ้น
ขอบคุณ http://www.posttoday.com/สังคม/สังคมทั่วไป/208895/มท-1-เผยระบบเตือนภัยของไทยดีขึ้น (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
มท.1ร่วม ปภ.เปิดงานระดมความคิดจัดทำแผนป้องกันภัยฯ ยันการแจ้งเตือนภัยจะมีความรวดเร็วมากขึ้น วันที่ 7มี.ค. เวลา 12.00 น.ที่ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงงานระดมความคิดเห็นการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 – 2557 ว่า หลักสากลเรื่องภัยพิบัติ ได้กำหนดว่าทุกประเทศต้องมีแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และจะต้องมีการปรับปรุงทุก 5 ปี ยกเว้นหากมีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นจะสามารถปรับก่อนเวลาได้ ดังเช่นกรณีของประเทศไทยที่ประสบภัยพิบัติในปี 2554 ทำให้ต้องเร่งปรับแผนฯจากทุก 5 ปี เป็น 3 ปีครึ่ง "งานนี้เป็นการประชุมสัมมนาเพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยยึดตามแนวพระราชดำริ หลัก 2P 2R การมีส่วนร่วม และยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์ และเป็นแนวคิดหลักในการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 – 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย และทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อทำแผนในระดับชาติเสร็จแล้ว ระดับจังหวัดก็จะต้องทำแผนฯให้สอดคล้องกับทุกหน่วยราชการ รวมเป็น Single command"นายจารุพงศ์ กล่าว นอกจากนี้นายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า จะให้ความสำคัญในการทำให้ประชาชนตระหนักและทำความเข้าใจว่าเมื่อทางภาครัฐมีการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์ภัยพิบัติว่ามีความรุนแรงระดับไหนแล้ว รวมทั้งต้องมีการให้ความรู้กับเด็ก และเยาวชนตั้งแต่แรกเริ่ม ในการที่จะช่วยตัวเองเป็นสำคัญ ดังนั้น ต้องมีศูนย์บัญชาการที่เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้การสั่งการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เรื่องการเตรียมความพร้อมในการซ้อมแผนนั้น จะมีการจำลองเหมือนสถานการณ์จริง เพราะถ้าหากสามารถป้องกันภัยพิบัติได้ ความสูญเสียจะลดลงถึง 8เท่าตัวจากความสูญเสียจริง "ภัยที่เราเจอประจำคือ หน้าร้อนก็ภัยแล้ง หนัาฝนก็น้ำท่วม และหน้าหนาวก็หนาว เป็น 3 ภัยที่ต้องเจอทุกปีต้องแก้ทุกปี ซึ่งเป็นภัยจากธรรมชาติ ส่วนภัยอื่นๆ ยังมีอีก 18 ประเภท พร้อมยืนยันว่า จากนี้การแจ้งเตือนภัยจะมีความรวดเร็วมากขึ้น และประชาชนสามารถมั่นใจได้ ทั้งยังจะต้องมีการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและต้องให้การสนับสนุนด้วยว่าชาติมีแผนป้องกันภัยอย่างไร เพราะสื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้พลังของประชาชนทั้งหมดเดินไปในทิศทางเดียวกัน" นายจารุพงศ์ กล่าว นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงแนวโน้มของแผนฯ ปี 2558-2562 จะมีภัยที่ต้องระวัง ว่า วันนี้ประเทศไทยแบ่งสาธารณภัยออกเป็น 18 ประเภท โดย 4ประเภท เป็นภัยจากความั่นคง ส่วนอีก4 ประเภทเป็นสาธารณภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ หรือภัยจากธรรมชาติ สำหรับภัยที่มีความถี่หรือมีความรุนแรงค่อนข้างมาก คือ อุทกภัย ภัยแล้ง ภัยหนาว ดินโคลนถล่ม หมอกคว้นพิษ วาตภัย เป็นภัยประจำถิ่นที่เกิดขึ้นเป็นประจำและทวีความรุนแรงขึ้น ขอบคุณ http://www.posttoday.com/สังคม/สังคมทั่วไป/208895/มท-1-เผยระบบเตือนภัยของไทยดีขึ้น
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)