พายุฤดูร้อนถล่มพังงา ลมหมุนกระโชกรุนแรง ต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับเสาไฟ ล้มขวางถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 23 เมษายน ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนเป็นพายุหมุนรุนแรง พร้อมกับมีฝนตกและฟ้าผ่า เป็นเหตุให้ต้นไม้ขนาดใหญ่มีเส้นรอบวงประมาณ 150 ซม.ริมถนนหักโค่นลงทับเสาไฟฟ้าแรงสูงส่งผลต่อเนื่องทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลง ขวางถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าโรงแรมภูงา ตำบลตากแดด หมู่ที่ 3 อ.เมือง จ.พังงา ฝั่งอำเภอตะกั่วทุ่ง-เมืองพังงา ทำให้จราจรติดขัดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน 1 เลน ไฟฟ้าดับทั้งบริเวณ ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่หมวดการทางพังงา เร่งตัดต้นไม้และใช้รถเครนยกเสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มขวางถนน เพื่อเปิดเส้นทางจราจร ขณะเดียวกันด้วยแรงพายุหมุนทำให้ต้นไม้ขนาดย่อมจำนวนมากส่วนปลายลำต้นหัก ปลิวว่อนทั่วทั้งบริเวณ รวมทั้งบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายอีกทั้งป้ายหาเสียงนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดพังงา และโฆษณาตามริมถนนล้มระเนระนาด โชคดีที่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นางภัทรา จันทร์ศรี อายุ 62 ปี อาชีพขายของชำ บ้านเลขที่ 51/3 ถนนเพชรเกษม ม.3 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเสียงดังคล้ายกับรถสิบล้อบรรทุกของหนักๆ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าและต่อมาอย่างรวดเร็วมาก ทั้งลมทั้งฝนกระโชกอย่างรุนแรง บนหลังคาบ้านเสียงดังโครมครามตามด้วยเสียงดังคล้ายบ้านพังถล่มลงมา ต้องวิ่งไปหลบอยู่ใต้โต๊ะในบ้านเป็นเวลาประมาณ 5-10 นาทีถึงสงบลง สำรวจพบว่า ฝ้าและกระเบื้องบนหลังคาบ้านปลิวไป 2-3 แผ่น ส่วนบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันชายคาบ้านที่ต่ออกมามุงด้วยกระเบื้องพัง ยุบลงมาทั้งแผง
ด้านนายวีระพล จตุราบัณฑิต ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าภูมิภาคจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากสาเหตุภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้รับความเสียหายจากต้นไม้ใหญ่โค่นทับสายไฟฟ้าขาดและเสาไฟฟ้าหักโค่นไป จำนวน 5 ต้น มีเสาไฟฟ้าแตกร้าวใช้การไม่ได้ 1 ต้น รวมทั้งวัสดุสิ่งของอื่นๆที่ได้รับความเสียหาย โดยเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนบาท
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สภาพความเสียหายบนท้องถนน หลังถูกพายุฤดูร้อนถล่ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 23 เมษายน ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนเป็นพายุหมุนรุนแรง พร้อมกับมีฝนตกและฟ้าผ่า เป็นเหตุให้ต้นไม้ขนาดใหญ่มีเส้นรอบวงประมาณ 150 ซม.ริมถนนหักโค่นลงทับเสาไฟฟ้าแรงสูงส่งผลต่อเนื่องทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลง ขวางถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าโรงแรมภูงา ตำบลตากแดด หมู่ที่ 3 อ.เมือง จ.พังงา ฝั่งอำเภอตะกั่วทุ่ง-เมืองพังงา ทำให้จราจรติดขัดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน 1 เลน ไฟฟ้าดับทั้งบริเวณ ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่หมวดการทางพังงา เร่งตัดต้นไม้และใช้รถเครนยกเสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มขวางถนน เพื่อเปิดเส้นทางจราจร ขณะเดียวกันด้วยแรงพายุหมุนทำให้ต้นไม้ขนาดย่อมจำนวนมากส่วนปลายลำต้นหัก ปลิวว่อนทั่วทั้งบริเวณ รวมทั้งบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายอีกทั้งป้ายหาเสียงนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดพังงา และโฆษณาตามริมถนนล้มระเนระนาด โชคดีที่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นางภัทรา จันทร์ศรี อายุ 62 ปี อาชีพขายของชำ บ้านเลขที่ 51/3 ถนนเพชรเกษม ม.3 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเสียงดังคล้ายกับรถสิบล้อบรรทุกของหนักๆ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าและต่อมาอย่างรวดเร็วมาก ทั้งลมทั้งฝนกระโชกอย่างรุนแรง บนหลังคาบ้านเสียงดังโครมครามตามด้วยเสียงดังคล้ายบ้านพังถล่มลงมา ต้องวิ่งไปหลบอยู่ใต้โต๊ะในบ้านเป็นเวลาประมาณ 5-10 นาทีถึงสงบลง สำรวจพบว่า ฝ้าและกระเบื้องบนหลังคาบ้านปลิวไป 2-3 แผ่น ส่วนบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันชายคาบ้านที่ต่ออกมามุงด้วยกระเบื้องพัง ยุบลงมาทั้งแผง ด้านนายวีระพล จตุราบัณฑิต ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าภูมิภาคจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากสาเหตุภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้รับความเสียหายจากต้นไม้ใหญ่โค่นทับสายไฟฟ้าขาดและเสาไฟฟ้าหักโค่นไป จำนวน 5 ต้น มีเสาไฟฟ้าแตกร้าวใช้การไม่ได้ 1 ต้น รวมทั้งวัสดุสิ่งของอื่นๆที่ได้รับความเสียหาย โดยเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนบาท ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366767745&grpid=&catid=19&subcatid=1906
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)