ติวเข้ม 'ประมงไทย' รับรู้-สู้ภัยพิบัติ 'ศิริวัฒน์' พาเกษตรกรบุกอาเซียน
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในภายในปี 2558 ย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเพาะสัตว์ถึง 592,000 ราย โดยตรง ที่จะต้องปรับตัวให้สามารถอยู่ในภูมิภาคนี้ได้และไม่เสียเปรียบ ดังนั้นกรมประมง ในฐานะหน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ที่ต้องให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อปรับตัวรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกทางเศรษฐกิจ จึงได้จัดงานนิทรรศการประมง 4 ภาค เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกร ในหัวข้อ "ประมงไทย รับรู้ สู้ภัยพิบัติ ยืนหยัดสู่อาเซียน"
ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ สำคัญ 3 ประการ คือ 1.เตรียมพร้อมในการรับมือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง โรคระบาดสัตว์น้ำ ฯลฯ 2.เตรียมความพร้อมสำหรับเกษตรกรและประมงอาสา ให้มีความรู้การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และ 3.เสริมสร้างทักษะและศักยภาพของเกษตรกรและประมงอาสาที่สามารถเป็น Smart farmer ซึ่ง 3 วัตถุประสงค์ดังกล่าวสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันที่ ได้เกิดสภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในโลก ในประเทศไทยก็ได้เกิดภัยทางธรรมชาติให้ปรากฏอยู่เป็นนิจ เช่น ในปี 2554 ได้เกิดมหาอุทกภัยทั่วประเทศ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรด้านการประมงถึง 132,000 ราย กรมประมงได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท
"สำหรับภาคกลาง กรมประมง ได้ร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการจัดนิทรรศการประมง 4 ภาค ในวันที่ 9-10 พ.ค.56 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เนื่องจากเล็งเห็นว่า พื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบไปด้วย พื้นที่น้ำจืด พื้นที่น้ำกร่อย และพื้นที่น้ำเค็ม ทำให้เกิดความหลากหลายในการประกอบอาชีพด้านการประมง โดยมีแม่น้ำบางปะกง เป็นหัวใจหลักในการประกอบอาชีพ โดยมีกิจกรรมหลักที่สำคัญในการประกอบอาชีพของเกษตรกรประมง 5 อันดับแรกได้แก่ 1.การทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล 2.การเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 3.การเพาะพันธุ์ปลาและกุ้ง 4.การทำฟาร์มเลี้ยงปลาน้ำกร่อย 5.การประมงพื้นบ้าน (ชายฝั่ง)"
นายศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่าการจัดนิทรรศการจะขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศใน 4 ภูมิภาค ดังนี้ ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค. จ.สุราษฎร์ธานี, ภาคะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 21- 22 พ.ค. จ.ขอนแก่น และภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค. จ.เชียงใหม่ โดยจะมีนิทรรศการแสดงพันธุ์ปลาท้องถิ่นหายาก หรือสัตว์น้ำเศรษฐกิจประจำถิ่น มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการแสดงสัตว์น้ำมีชีวิต และการจัดแสดงสัตว์น้ำชายฝั่งสวยงามมีชีวิต มีการจัดแสดงปลาสวายและปลาพรมหัวเหม็น
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในภายในปี 2558 ย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเพาะสัตว์ถึง 592,000 ราย โดยตรง ที่จะต้องปรับตัวให้สามารถอยู่ในภูมิภาคนี้ได้และไม่เสียเปรียบ ดังนั้นกรมประมง ในฐานะหน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ที่ต้องให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อปรับตัวรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกทางเศรษฐกิจ จึงได้จัดงานนิทรรศการประมง 4 ภาค เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกร ในหัวข้อ "ประมงไทย รับรู้ สู้ภัยพิบัติ ยืนหยัดสู่อาเซียน" ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ สำคัญ 3 ประการ คือ 1.เตรียมพร้อมในการรับมือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง โรคระบาดสัตว์น้ำ ฯลฯ 2.เตรียมความพร้อมสำหรับเกษตรกรและประมงอาสา ให้มีความรู้การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และ 3.เสริมสร้างทักษะและศักยภาพของเกษตรกรและประมงอาสาที่สามารถเป็น Smart farmer ซึ่ง 3 วัตถุประสงค์ดังกล่าวสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันที่ ได้เกิดสภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในโลก ในประเทศไทยก็ได้เกิดภัยทางธรรมชาติให้ปรากฏอยู่เป็นนิจ เช่น ในปี 2554 ได้เกิดมหาอุทกภัยทั่วประเทศ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรด้านการประมงถึง 132,000 ราย กรมประมงได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท "สำหรับภาคกลาง กรมประมง ได้ร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการจัดนิทรรศการประมง 4 ภาค ในวันที่ 9-10 พ.ค.56 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เนื่องจากเล็งเห็นว่า พื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบไปด้วย พื้นที่น้ำจืด พื้นที่น้ำกร่อย และพื้นที่น้ำเค็ม ทำให้เกิดความหลากหลายในการประกอบอาชีพด้านการประมง โดยมีแม่น้ำบางปะกง เป็นหัวใจหลักในการประกอบอาชีพ โดยมีกิจกรรมหลักที่สำคัญในการประกอบอาชีพของเกษตรกรประมง 5 อันดับแรกได้แก่ 1.การทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล 2.การเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 3.การเพาะพันธุ์ปลาและกุ้ง 4.การทำฟาร์มเลี้ยงปลาน้ำกร่อย 5.การประมงพื้นบ้าน (ชายฝั่ง)" นายศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่าการจัดนิทรรศการจะขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศใน 4 ภูมิภาค ดังนี้ ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค. จ.สุราษฎร์ธานี, ภาคะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 21- 22 พ.ค. จ.ขอนแก่น และภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค. จ.เชียงใหม่ โดยจะมีนิทรรศการแสดงพันธุ์ปลาท้องถิ่นหายาก หรือสัตว์น้ำเศรษฐกิจประจำถิ่น มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการแสดงสัตว์น้ำมีชีวิต และการจัดแสดงสัตว์น้ำชายฝั่งสวยงามมีชีวิต มีการจัดแสดงปลาสวายและปลาพรมหัวเหม็น ขอบคุณ http://www.ryt9.com/s/bmnd/1645898
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)