ไทยแนะนานาชาติเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ-เศรษฐกิจ
"ปลอดประสพ"เผยไทยเร่งทำแผนรับมือกับภัยพิบัติ ควบคู่เดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนาประเทศระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 เม.ย.) ที่อาคารสำนักงานสหประชาชาติประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ถนนราชดำเนิน คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP – เอสแคป) ได้จัดการประชุม สมัยที่ 69 หัวข้อ“การป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และประเด็นที่ท้าทายอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” โดยมีผู้นำประเทศและรัฐมนตรีสำคัญจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมงานและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงาน อาทิ นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งเมียนมาร์ นายเคราลา ซานานา กุสเมา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและความมั่นคงแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งติมอร์ เลสเต นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรีไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ นายปลอดประสพ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อการ พัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการลดความยากจน ถือเป็นความท้าทายหลักของประชาคมโลก ซึ่งตนหวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันฟันฝ่าปัญหาและร่วมมือกันเตรียมพร้อมรับทุก สถานการณ์ เพราะโลกยังคงประสบกับปัญหาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ไม่ว่าจะภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย โดยเฉพาะอุทกภัยเมื่อปี 2554 ทำให้ไทยได้รับประสบการณ์ครั้งสำคัญในการสร้างการวางแผนเพื่อเตรียมความ พร้อมรับมือต่อภัยพิบัติในอนาคต ซึ่งรัฐบาลไทยจัดสรรงบประมาณถึง 3.5 แสนล้านบาทในการสร้างแผนการบริหารจัดการน้ำและป้องกันอุทกภัย นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นเวทีแสวงหาความร่วมมือด้านการจัดการน้ำและอุทกภัยร่วมกันในภูมิภาค เอเชียและแปซิฟิก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่ความสำคัญของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ทำให้ต้องอาศัยการบูรณาการและความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค โดยไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อการพัฒนา เศรษฐกิจร่วมกันได้ และเพื่อยืนยันถึงศักยภาพดังกล่าว ทั้งนี้รัฐสภาไทยได้พิจารณาอนุมัติร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อวางระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเดินหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาวด้วยการพัฒนารถไฟความ เร็วสูงและระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเป็นประชาคมอาเซียนใน ปี 2558
ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/politics/200832 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวเปิดงาน และบรรยากาศการประชุม จากผู้นำประเทศและรัฐมนตรีสำคัญจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก "ปลอดประสพ"เผยไทยเร่งทำแผนรับมือกับภัยพิบัติ ควบคู่เดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนาประเทศระยะยาว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 เม.ย.) ที่อาคารสำนักงานสหประชาชาติประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ถนนราชดำเนิน คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP – เอสแคป) ได้จัดการประชุม สมัยที่ 69 หัวข้อ“การป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และประเด็นที่ท้าทายอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” โดยมีผู้นำประเทศและรัฐมนตรีสำคัญจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมงานและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงาน อาทิ นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งเมียนมาร์ นายเคราลา ซานานา กุสเมา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและความมั่นคงแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งติมอร์ เลสเต นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรีไทย เป็นต้น ทั้งนี้ นายปลอดประสพ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อการ พัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการลดความยากจน ถือเป็นความท้าทายหลักของประชาคมโลก ซึ่งตนหวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันฟันฝ่าปัญหาและร่วมมือกันเตรียมพร้อมรับทุก สถานการณ์ เพราะโลกยังคงประสบกับปัญหาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ไม่ว่าจะภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย โดยเฉพาะอุทกภัยเมื่อปี 2554 ทำให้ไทยได้รับประสบการณ์ครั้งสำคัญในการสร้างการวางแผนเพื่อเตรียมความ พร้อมรับมือต่อภัยพิบัติในอนาคต ซึ่งรัฐบาลไทยจัดสรรงบประมาณถึง 3.5 แสนล้านบาทในการสร้างแผนการบริหารจัดการน้ำและป้องกันอุทกภัย นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นเวทีแสวงหาความร่วมมือด้านการจัดการน้ำและอุทกภัยร่วมกันในภูมิภาค เอเชียและแปซิฟิก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่ความสำคัญของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ทำให้ต้องอาศัยการบูรณาการและความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค โดยไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อการพัฒนา เศรษฐกิจร่วมกันได้ และเพื่อยืนยันถึงศักยภาพดังกล่าว ทั้งนี้รัฐสภาไทยได้พิจารณาอนุมัติร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อวางระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเดินหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาวด้วยการพัฒนารถไฟความ เร็วสูงและระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเป็นประชาคมอาเซียนใน ปี 2558 ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/politics/200832
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)