พายุพัดต้นสนหักโค่นปิดถนนอุทยานเจ้าไหม
ตรัง - เกิดเหตุพายุพัดต้นสน 5 ต้น โค่นปิดทับเส้นทางไปท่าเรือปากเมง อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หวั่นนักท่องเที่ยวได้รับอันตราย ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารแถบชายหาดปากเมง ผวาต้นสนโค่นล้มทับนักท่องเที่ยว จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจด่วน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า ได้เกิดลมพายุพัดต้นสน จำนวน 5 ต้น ขนาดใหญ่ประมาณ 1 คนโอบ และสูงประมาณ 15 เมตร ที่ขึ้นอยู่ข้างทางถนนทางไปท่าเทียบหาดปากเมง ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หักโค่นล้มปิดทับเส้นทาง จนส่งผลให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ดังนั้น นายมาโนช วงศ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำแท่งกรวยมาปิดกั้นเส้นทางบริเวณทางเข้าสามแยกปาก เมง และเส้นทางก่อนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีคณะทัวร์ และนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน และไทย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวทะเลตรัง ต่างใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรผ่านไปยังท่าเทียบเรือกันเป็นจำนวนมาก จนเกรงว่าจะเกิดอันตราย และไม่ปลอดภัย
พร้อมกันนั้น ยังได้สั่งให้คนงานนำเครื่องเลื่อยยนต์ และขวานมาเร่งตัดฟันต้นสนที่โค่นล้มเพื่อเปิดทางให้รถทุกชนิดสามารถสัญจร ผ่านไปมาได้ตามปกติ ตลอดจนสั่งเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังต้นสนบริเวณดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีหลายต้นที่กำลังเริ่มโน้มเอียงและทำท่าจะโค่นล้มลงมาอีก หากเกิดพายุพัดมาอย่างรุนแรงเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ นางดวงกมล แสงศรีจันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เจ้าของร้านอาหารจิตติมา กล่าวว่า ในช่วงนี้มีคลื่นลมแรง และพายุพัดแรงมาหลายวันแล้ว พวกตนจึงกังวลว่าต้นสนที่ขึ้นอยู่บริเวณชายหาดปากเมงจะถูกโค่นล้มลงมา และอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่นำครอบครัวมาพักผ่อนรับประทานอาหารในบริเวณดัง กล่าว ได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต และทรัพย์สินเสียหายได้ หรืออาจทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเสียหายได้ เพราะที่ผ่านมา เคยเกิดพายุพัดต้นสนโค่นล้มมาแล้วหลายครั้ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เข้ามาสำรวจตรวจสอบต้นสนดังกล่าว
โดยเฉพาะที่ขึ้นอยู่ในจุดที่ร้านค้าต่างๆ นำโต๊ะเก้าอี้มาตั้งบริการให้นักท่องเที่ยวมานั่งรับประทานอาหารว่า ต้นไหนเสื่อมสภาพ หรือสามารถต้านทานพายุที่พัดได้หรือไม่ ดังนั้น จึงเรียกร้องให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง และ อบต.ไม้ฝาด เร่งเข้ามาสำรวจตรวจสอบต้นสนที่เสื่อมสภาพเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะ เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดปากเมง ได้เตรียมพร้อมรับมือกับการโค่นล้มของต้นสนเหล่านั้นด้วยการนำไม้มาปักเป็น แนวกำแพงเพื่อช่วยป้องกันคลื่นกัดเซาะชายหาด แล้วทำให้ต้นสนโค่นล้มเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา
ขอบคุณ http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063025 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ต้นสนหักโค่นปิดถนน หลังพายุถล่มอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตรัง - เกิดเหตุพายุพัดต้นสน 5 ต้น โค่นปิดทับเส้นทางไปท่าเรือปากเมง อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หวั่นนักท่องเที่ยวได้รับอันตราย ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารแถบชายหาดปากเมง ผวาต้นสนโค่นล้มทับนักท่องเที่ยว จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจด่วน เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า ได้เกิดลมพายุพัดต้นสน จำนวน 5 ต้น ขนาดใหญ่ประมาณ 1 คนโอบ และสูงประมาณ 15 เมตร ที่ขึ้นอยู่ข้างทางถนนทางไปท่าเทียบหาดปากเมง ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หักโค่นล้มปิดทับเส้นทาง จนส่งผลให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ดังนั้น นายมาโนช วงศ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำแท่งกรวยมาปิดกั้นเส้นทางบริเวณทางเข้าสามแยกปาก เมง และเส้นทางก่อนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีคณะทัวร์ และนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน และไทย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวทะเลตรัง ต่างใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรผ่านไปยังท่าเทียบเรือกันเป็นจำนวนมาก จนเกรงว่าจะเกิดอันตราย และไม่ปลอดภัย พร้อมกันนั้น ยังได้สั่งให้คนงานนำเครื่องเลื่อยยนต์ และขวานมาเร่งตัดฟันต้นสนที่โค่นล้มเพื่อเปิดทางให้รถทุกชนิดสามารถสัญจร ผ่านไปมาได้ตามปกติ ตลอดจนสั่งเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังต้นสนบริเวณดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีหลายต้นที่กำลังเริ่มโน้มเอียงและทำท่าจะโค่นล้มลงมาอีก หากเกิดพายุพัดมาอย่างรุนแรงเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ นางดวงกมล แสงศรีจันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เจ้าของร้านอาหารจิตติมา กล่าวว่า ในช่วงนี้มีคลื่นลมแรง และพายุพัดแรงมาหลายวันแล้ว พวกตนจึงกังวลว่าต้นสนที่ขึ้นอยู่บริเวณชายหาดปากเมงจะถูกโค่นล้มลงมา และอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่นำครอบครัวมาพักผ่อนรับประทานอาหารในบริเวณดัง กล่าว ได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต และทรัพย์สินเสียหายได้ หรืออาจทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเสียหายได้ เพราะที่ผ่านมา เคยเกิดพายุพัดต้นสนโค่นล้มมาแล้วหลายครั้ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เข้ามาสำรวจตรวจสอบต้นสนดังกล่าว โดยเฉพาะที่ขึ้นอยู่ในจุดที่ร้านค้าต่างๆ นำโต๊ะเก้าอี้มาตั้งบริการให้นักท่องเที่ยวมานั่งรับประทานอาหารว่า ต้นไหนเสื่อมสภาพ หรือสามารถต้านทานพายุที่พัดได้หรือไม่ ดังนั้น จึงเรียกร้องให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง และ อบต.ไม้ฝาด เร่งเข้ามาสำรวจตรวจสอบต้นสนที่เสื่อมสภาพเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะ เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดปากเมง ได้เตรียมพร้อมรับมือกับการโค่นล้มของต้นสนเหล่านั้นด้วยการนำไม้มาปักเป็น แนวกำแพงเพื่อช่วยป้องกันคลื่นกัดเซาะชายหาด แล้วทำให้ต้นสนโค่นล้มเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ขอบคุณ http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063025
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)