ฝนถล่มใต้-น้ำท่วมหนักหลายจังหวัด
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้ โดยที่จ.ตรัง ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำไหลทะลักจากแม่น้ำตรัง และแม่น้ำปะเหลียน ลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.กันตัง อ.สิเกา อ.วังวิเศษ อ.ย่านตาขาว และอ.ปะเหลียน มีผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 1,200 ครัวเรือน รวม 5,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกำลังทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ นำกำลังออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ที่จ.พังงา หลายอำเภอเผชิญน้ำท่วมหนักติดต่อกันเป็นวันที่สอง และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำที่ท่วมขังจะทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อ.ตะกั่วป่า ซึ่งระดับน้ำในบางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่ราษฎร บ.บางกรักนอก และบ.ทุ่งหัวนา ต.โคกเคียน และบ.ท่าจูด ต.บางนายสี รวมกว่า 250 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มกว่า 24 ช.ม. ก่อนที่ทีมอาสาสมัครกู้ภัย และหน่วยงานราชการในพื้นที่ จะนำอุปกรณ์เข้าช่วยอพยพราษฎรที่ติดค้างออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลอย่างรุนแรง และฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง
ที่จ.กระบี่ เกิดเหตุถนนทางเข้าท่าอากาศยานกระบี่มีการทรุดตัว แตกเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร โดยนายสัญญลักษณ์ ใครบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ถนนทางเข้าอาคารผู้โดยสาร 2 ทรุดตัวอย่างหนัก จนดันกำแพงปูนที่ทำเป็นผนังกั้นด้านข้างถนนแตกเป็นทางยาว เบื้องต้นได้ปิดจราจรชั่วคราว และแจ้งไปยังกรมการบินพลเรือนเพื่อขออนุมัติงบประมาณในการซ่อมแซมแล้ว ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวไม่กระทบกับตัวโครงสร้างอาคาร และยังเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และผู้ที่มาใช้บริการสนามบิน
ด้านจ.สงขลา ชาวเรือประมงพื้นบ้านหยุดออกทำการประมงชั่วคราว และนำเรือเข้าจอดชายฝั่ง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และมีคลื่นลมแรงบริเวณนอกชายฝั่งเสี่ยงต่อการออกเรือ หลังมีการแจ้งเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เรื่องคลื่นลมแรงในทะเลในระหว่างวันที่ 2-5 ส.ค.
ขณะที่ทางภาคเหนือ นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พิจิตร มีฝนตกติดต่อหลายวัน ประกอบกับน้ำเหนือไหลบ่า โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำยม มีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะใน 4 อำเภอ คือ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล และอ.บึงนาราง สั่งเฝ้าจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด
ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้ โดยที่จ.ตรัง ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำไหลทะลักจากแม่น้ำตรัง และแม่น้ำปะเหลียน ลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.กันตัง อ.สิเกา อ.วังวิเศษ อ.ย่านตาขาว และอ.ปะเหลียน มีผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 1,200 ครัวเรือน รวม 5,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกำลังทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ นำกำลังออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ที่จ.พังงา หลายอำเภอเผชิญน้ำท่วมหนักติดต่อกันเป็นวันที่สอง และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำที่ท่วมขังจะทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อ.ตะกั่วป่า ซึ่งระดับน้ำในบางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่ราษฎร บ.บางกรักนอก และบ.ทุ่งหัวนา ต.โคกเคียน และบ.ท่าจูด ต.บางนายสี รวมกว่า 250 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มกว่า 24 ช.ม. ก่อนที่ทีมอาสาสมัครกู้ภัย และหน่วยงานราชการในพื้นที่ จะนำอุปกรณ์เข้าช่วยอพยพราษฎรที่ติดค้างออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลอย่างรุนแรง และฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ที่จ.กระบี่ เกิดเหตุถนนทางเข้าท่าอากาศยานกระบี่มีการทรุดตัว แตกเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร โดยนายสัญญลักษณ์ ใครบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ถนนทางเข้าอาคารผู้โดยสาร 2 ทรุดตัวอย่างหนัก จนดันกำแพงปูนที่ทำเป็นผนังกั้นด้านข้างถนนแตกเป็นทางยาว เบื้องต้นได้ปิดจราจรชั่วคราว และแจ้งไปยังกรมการบินพลเรือนเพื่อขออนุมัติงบประมาณในการซ่อมแซมแล้ว ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวไม่กระทบกับตัวโครงสร้างอาคาร และยังเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และผู้ที่มาใช้บริการสนามบิน ด้านจ.สงขลา ชาวเรือประมงพื้นบ้านหยุดออกทำการประมงชั่วคราว และนำเรือเข้าจอดชายฝั่ง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และมีคลื่นลมแรงบริเวณนอกชายฝั่งเสี่ยงต่อการออกเรือ หลังมีการแจ้งเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เรื่องคลื่นลมแรงในทะเลในระหว่างวันที่ 2-5 ส.ค. ขณะที่ทางภาคเหนือ นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พิจิตร มีฝนตกติดต่อหลายวัน ประกอบกับน้ำเหนือไหลบ่า โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำยม มีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะใน 4 อำเภอ คือ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล และอ.บึงนาราง สั่งเฝ้าจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด ขอบคุณ...http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05UVTBORFV4T1E9PQ==&subcatid= ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)