ศูนย์ เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ภาคเหนือ 9 จังหวัด ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคมนี้

แสดงความคิดเห็น

พยากรณ์อากาศ

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำ ภาคเหนือ 9 จังหวัด ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2556

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2556 อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำ บริเวณภาคเหนือพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว หากมีข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อ ไป

นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน กล่าวว่า สภาวะอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 12-13 สิงหาคม 2556 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศ ต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเล อันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 14-18 สิงหาคม 2556 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงวันที่ 12-18 สิงหาคม 2556 ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ประชาชนควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงเพาะปลูกพืช เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช และหากพบต้นที่ล้มเอนควรผูกยึดให้ตั้งตรง ถ้ามีแผลควรตัดแต่งรอยแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา ส่วนชาวสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

ขอบคุณ... http://chiangrai.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=130812164138

สวทลำพูนอนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 ส.ค.56

ที่มา: สวทลำพูนอนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 ส.ค.56
วันที่โพสต์: 13/08/2556 เวลา 03:32:53 ดูภาพสไลด์โชว์ ศูนย์ เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ภาคเหนือ 9 จังหวัด ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคมนี้

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

พยากรณ์อากาศ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำ ภาคเหนือ 9 จังหวัด ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2556 นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2556 อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำ บริเวณภาคเหนือพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว หากมีข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อ ไป นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน กล่าวว่า สภาวะอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 12-13 สิงหาคม 2556 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศ ต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเล อันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 14-18 สิงหาคม 2556 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงวันที่ 12-18 สิงหาคม 2556 ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ประชาชนควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงเพาะปลูกพืช เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช และหากพบต้นที่ล้มเอนควรผูกยึดให้ตั้งตรง ถ้ามีแผลควรตัดแต่งรอยแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา ส่วนชาวสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง ขอบคุณ... http://chiangrai.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=130812164138 สวทลำพูนอนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 ส.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...