รายละเอียดกระทู้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 10 ต.ค.56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รับมอบข้าวหอมมะลิ จำนวน 540 ถุง ที่ภาคเอกชนบริจาคให้พรรค เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดปทุมธานี จากนั้นนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า มีความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบอุทกภัย แต่รัฐบาลไร้มาตรการเยียวยา หรือตั้งศูนย์ประสานงานอำนวยความสะดวกบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และที่สำคัญคือการกำหนดหลักเกณฑ์ชดเชยเยียวยา ซึ่งอยากเห็นความกระตือรือร้นของรัฐบาลในการมีศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูล ทั้งการเตือนและระดมความช่วยเหลือ เพราะสถานการณ์หลายพื้นที่ยังหนักอยู่ ทั้งนี้รัฐบาลพยายามอ้างว่าใช้ศูนย์เก่าแล้ว แต่ตนยังไม่เห็นบทบาทใด และขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับความทุกข์ของประชาชนมากกว่าสนใจการใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพราะไม่ใช่คำตอบ หลายพื้นที่ไม่อยู่ในแผนการใช้เงินดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไม่เร่งระดมทรัพยากรต่างๆ และประกาศหลักเกณฑ์ความช่วยเหลือ ทั้งที่เอกชนมีความตื่นตัวมาก และรัฐบาลจะให้เทียบปี 2554 ไม่ได้ เพราะประชาชนบางพื้นที่หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน 'อภิสิทธิ์' บี้ 'นิวัฒน์ธำรง' แจง 'จำนำข้าว' เกินกรอบ 5 แสนล. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ยืนยันว่ามีเงิน 2.7 แสนล้านบาท รับจำนำข้าว แต่ธ.ก.ส.ระบุว่ามีเงินไม่พอว่า นายนิวัฒน์ธำรงยืนยันด้วยคำพูดเปล่าๆไม่ได้ ต้องกำหนดให้ชัดว่าแหล่งเงินทุนที่ใช้ในโครงการมาจากไหน เพราะผู้ปฏิบัติกังวลว่าไม่มีความชัดเจนและกติกาที่เคยวางกรอบวงเงินใช้ 5 แสนล้านบาทก็เกินแล้ว เหตุใดรัฐมนตรีไม่แก้ปัญหากรณีที่ทุกภาคส่วนทักท้วงว่ามีผลกระทบการขาด ทุนมหาศาล แต่เงินไปถึงชาวนาไม่ถึงครึ่ง ซึ่งรัฐมนตรีไม่แสดงความเข้าใจเรื่องนี้ แต่กลับมาปฏิเสธหลักฐานจากตัวเลขของราชการ จะให้ฟังเฉพาะกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลังไม่ได้ เพราะการบริหารเรื่องนี้ ครม. กรรมการนโยบายข้าวฯ ต้องเป็นผู้มองเห็นภาพรวม อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ถือตัวเองเป็นใหญ่ว่าไม่ให้ข้อมูลกระทรวงการคลัง ไม่ยอมรับฟัง ก็บริหารไม่ได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่ทราบข้อมูลดีที่สุดคือ ธ.ก.ส. ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้ดำเนินโครงการนี้ จึงต้องทราบว่าจะมีเงินขาดเหลืออย่างไร 'อภิสิทธิ์' เหน็บรัฐตื่นตระหนกเกินเหตุ หลังใช้กม.มั่นคงฯคุมม็อบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงใน3เขตกทม.เพื่อควบคุม การชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ถ้าการชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมายเป็นสิทธิประชาชน ซึ่งหากมีการเจรจากับผู้ชุมนุมก็เชื่อว่าจะสามารถคุยได้ เพราะผู้ชุมนุมก็แสดงความพร้อมที่จะจัดการชุมนุมไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการ ต้อนรับผู้นำจีน ดังนั้นเห็นว่า ควรหารือกัน ก่อนจะประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่มีจำนวนมากทั้งที่ผู้ชุมนุมก็มีจำนวนไม่มาก ทำไมทำเป็นเรื่องใหญ่โตและตื่นตระหนกขนาดนี้ ส่วนการที่รัฐบาลอ้างเรื่องความสง่างามของประเทศ ตนอยากให้ย้อนนึกถึงปี2552 ที่มีการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมี 2 มาตรฐานอยู่แล้ว ทำไมการชุมนุมกดดันข่มขู่คุกคามศาลไม่ใช้มาตรการใดๆ ดูแลปกป้องศาล ทั้งที่ศาลมีหน้าที่สำคัญ ทั้งนี้อยากให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ทำหน้าที่ผอ.ศอ.รส. ด้วยความเสมอภาค อยากเห็นตำรวจเข้มแข็งกับทุกกลุ่มจะได้เกิดความเป็นธรรมด้วย ขอบคุณ … http://goo.gl/4UBqJM (คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56)