เตือนภัย!โจรไฮเทคแฮกข้อมูล'เอทีเอ็ม'

แสดงความคิดเห็น

เตือนภัย! โจรไฮเทคแฮกข้อมูล 'เอทีเอ็ม' เหยื่อเจอดูดเงินออก 3-7 หมื่นบาท เสียหายแล้ว 35 ราย ด้าน 'ธ.กสิกรฯ' แจงรับผิดชอบหมด

7 พ.ย.56 พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้เสียหายจำนวน 35 ราย โดยแต่ละรายระบุว่า ถูกเจาะข้อมูลบัญชีเงินฝากในธนาคาร ขณะที่กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ตึกออล ซีซั่นส์ และอาคารโรเล็กซ์ ถ.วิทยุ โดยแต่ละรายพบว่าเงินได้สูญหายไปจากบัญชีรายละตั้งแต่ 30,000-70,000 บาท ภายหลังเกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เงินในบัญชีของผู้เสียหายได้ถูกเบิกไปยังประเทศยูเครน ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารที่ถูกแฮกข้อมูลดังกล่าว กำลังเร่งตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและมีความผิดพลาดในจุดใด

"ระหว่างนี้ขอเตือนประชาชน อย่าไปใช้ตู้เอทีเอ็มใน สองอาคารดังกล่าว จนกว่าจะทราบข้อมูลที่แท้จริง" พ.ต.ท.เดชา กล่าว

ขณะที่ ทางธนาคารกสิกรไทย ได้มีคำชี้แจงระบุว่า ตามที่ได้มีการส่งข้อความทางช่องทางต่างๆให้งดการใช้บริการทางตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทยในช่วงนี้ โดยตอนนี้ทางธนาคารขอยืนยันว่าลูกค้าสามารถใช้บริการเอทีเอ็มได้ตามปกติ อย่างปลอดภัย สำหรับกรณีอันเกี่ยวเนื่องจากการคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ ซึ่งพบว่ามีบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งบัตรของธนาคารอื่นได้รับผลกระทบ ซึ่งการถูกคัดลอกข้อมูลเกิดจาก เอทีเอ็ม 2-3 ตู้ของหลายธนาคาร บริเวณถนนวิทยุ ทั้งนี้สำหรับกรณีที่เกิดความเสียหายในลักษณะดังกล่าว ธนาคารเจ้าของบัตรจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20131107/172261.html (ขนาดไฟล์: 167)

( คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.56 )

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.56
วันที่โพสต์: 8/11/2556 เวลา 05:00:13

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

กดเงินจากตู้ ATM เตือนภัย! โจรไฮเทคแฮกข้อมูล 'เอทีเอ็ม' เหยื่อเจอดูดเงินออก 3-7 หมื่นบาท เสียหายแล้ว 35 ราย ด้าน 'ธ.กสิกรฯ' แจงรับผิดชอบหมด 7 พ.ย.56 พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้เสียหายจำนวน 35 ราย โดยแต่ละรายระบุว่า ถูกเจาะข้อมูลบัญชีเงินฝากในธนาคาร ขณะที่กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ตึกออล ซีซั่นส์ และอาคารโรเล็กซ์ ถ.วิทยุ โดยแต่ละรายพบว่าเงินได้สูญหายไปจากบัญชีรายละตั้งแต่ 30,000-70,000 บาท ภายหลังเกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เงินในบัญชีของผู้เสียหายได้ถูกเบิกไปยังประเทศยูเครน ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารที่ถูกแฮกข้อมูลดังกล่าว กำลังเร่งตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและมีความผิดพลาดในจุดใด "ระหว่างนี้ขอเตือนประชาชน อย่าไปใช้ตู้เอทีเอ็มใน สองอาคารดังกล่าว จนกว่าจะทราบข้อมูลที่แท้จริง" พ.ต.ท.เดชา กล่าว ขณะที่ ทางธนาคารกสิกรไทย ได้มีคำชี้แจงระบุว่า ตามที่ได้มีการส่งข้อความทางช่องทางต่างๆให้งดการใช้บริการทางตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทยในช่วงนี้ โดยตอนนี้ทางธนาคารขอยืนยันว่าลูกค้าสามารถใช้บริการเอทีเอ็มได้ตามปกติ อย่างปลอดภัย สำหรับกรณีอันเกี่ยวเนื่องจากการคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ ซึ่งพบว่ามีบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งบัตรของธนาคารอื่นได้รับผลกระทบ ซึ่งการถูกคัดลอกข้อมูลเกิดจาก เอทีเอ็ม 2-3 ตู้ของหลายธนาคาร บริเวณถนนวิทยุ ทั้งนี้สำหรับกรณีที่เกิดความเสียหายในลักษณะดังกล่าว ธนาคารเจ้าของบัตรจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20131107/172261.html ( คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.56 )