เตือนภัยวันลอยกระทง แนะพ่อแม่ดูแลลูกใกล้ชิด
หมออดิศักดิ์ เผย วันลอยกระทงเด็กเสี่ยงอันตรายเพียบ “พลุ-อุบัติเหตุจราจร-จมน้ำ” สลดจมน้ำ 5 คน หรือ 1.6 เท่า วันรุ่งขึ้นตายอีก 8 คน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ย เตือนพ่อแม่ดูแลใกล้ชิด ตำรวจกวดขันจริงจัง
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บใน เด็ก สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า วันลอยกระทงมีความเสี่ยงหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเด็กที่จะไปร่วมงาน ประเพณี ซึ่งจากข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติ พบว่า แต่ละปีจะมีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือ พลุ ประมาณ 500 คน เสียชีวิตประมาณ 9-10 คน โดย 44% ของผู้บาดเจ็บรุนแรงทั้งหมด เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และ 92% ของผู้บาดเจ็บเป็นเพศชาย ซึ่งเวลาที่เกิดเหตุสูงสุดคือ 16.00-19.59 น.ทั้งนี้วันลอยกระทงจะเป็นวันที่มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุ สูงสุดเมื่อเทียบกับวันอื่นในรอบปี คิดเป็น 18% นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุด้วยว่า ในวันลอยกระทงจะมีเด็กเสียชีวิตจากการจราจรเฉลี่ย 4.5 คน และที่สำคัญยังพบว่าในวันลอยกระทงจะมีเด็กจมน้ำประมาณ 5 คนต่อปี หรือ 1.6 เท่าของการจมน้ำตายเฉลี่ยต่อวัน และในวันรุ่งขึ้นของวันลอยกระทงจะมีการตายจากการจมน้ำ 8 คน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยการตายจากการจมน้ำต่อวัน
“พลุ ดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุระเบิดไม่ใช่ของเล่น ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลเด็กไม่ให้เข้าไปยุ่งกับสิ่งเหล่านี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจควรกวดขันเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะแผงลอยหาบเร่ต่างๆ ที่ขายพลุ หรือดอกไม้ไฟ ที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง อีกทั้งพ่อแม่ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดเมื่อเด็กอยู่ใกล้น้ำ และผู้จัดงานแต่ละสถานที่ต้องทำสิ่งกั้นขวางเพื่อป้องกันเด็กตกน้ำ ส่วนเรือที่จะนำผู้โดยสารไปลอยกระทงกลางแม่น้ำ ก็ควรเตรียมเสื้อชูชีพให้พร้อมสำหรับทุกคน และควรดูจำนวนผู้โดยสารว่ามากเกินไปหรือไม่ด้วย”
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามวันลอยกระทงมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งเด็กอาจจะพลัดหลงได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ไว้กับตัวเด็ก อีกทั้งพ่อแม่ควรระมัดระวังในการเดินทาง เพราะบนถนนจะมีผู้เมาสุรามากกว่าทุกวัน ทั้งนี้สาเหตุของความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันลอยกระทงนี้ หากทุกฝ่ายให้ความสำคัญ ไม่ประมาท และเอาจริงเอาจังกับเรื่องเหล่านี้ สถิติการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในวันลอยกระทงก็จะลดน้อยลง
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/Viewnews.aspx?NewsID=9560000142493 (ขนาดไฟล์: 164)
(ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 พ.ย.56 )
ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 พ.ย.56
วันที่โพสต์: 17/11/2556 เวลา 03:31:57 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เด็กหญิงกำลังอธิษฐานกระทงหมออดิศักดิ์ เผย วันลอยกระทงเด็กเสี่ยงอันตรายเพียบ “พลุ-อุบัติเหตุจราจร-จมน้ำ” สลดจมน้ำ 5 คน หรือ 1.6 เท่า วันรุ่งขึ้นตายอีก 8 คน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ย เตือนพ่อแม่ดูแลใกล้ชิด ตำรวจกวดขันจริงจัง รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บใน เด็ก สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า วันลอยกระทงมีความเสี่ยงหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเด็กที่จะไปร่วมงาน ประเพณี ซึ่งจากข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติ พบว่า แต่ละปีจะมีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือ พลุ ประมาณ 500 คน เสียชีวิตประมาณ 9-10 คน โดย 44% ของผู้บาดเจ็บรุนแรงทั้งหมด เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และ 92% ของผู้บาดเจ็บเป็นเพศชาย ซึ่งเวลาที่เกิดเหตุสูงสุดคือ 16.00-19.59 น.ทั้งนี้วันลอยกระทงจะเป็นวันที่มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุ สูงสุดเมื่อเทียบกับวันอื่นในรอบปี คิดเป็น 18% นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุด้วยว่า ในวันลอยกระทงจะมีเด็กเสียชีวิตจากการจราจรเฉลี่ย 4.5 คน และที่สำคัญยังพบว่าในวันลอยกระทงจะมีเด็กจมน้ำประมาณ 5 คนต่อปี หรือ 1.6 เท่าของการจมน้ำตายเฉลี่ยต่อวัน และในวันรุ่งขึ้นของวันลอยกระทงจะมีการตายจากการจมน้ำ 8 คน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยการตายจากการจมน้ำต่อวัน “พลุ ดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุระเบิดไม่ใช่ของเล่น ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลเด็กไม่ให้เข้าไปยุ่งกับสิ่งเหล่านี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจควรกวดขันเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะแผงลอยหาบเร่ต่างๆ ที่ขายพลุ หรือดอกไม้ไฟ ที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง อีกทั้งพ่อแม่ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดเมื่อเด็กอยู่ใกล้น้ำ และผู้จัดงานแต่ละสถานที่ต้องทำสิ่งกั้นขวางเพื่อป้องกันเด็กตกน้ำ ส่วนเรือที่จะนำผู้โดยสารไปลอยกระทงกลางแม่น้ำ ก็ควรเตรียมเสื้อชูชีพให้พร้อมสำหรับทุกคน และควรดูจำนวนผู้โดยสารว่ามากเกินไปหรือไม่ด้วย” รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามวันลอยกระทงมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งเด็กอาจจะพลัดหลงได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ไว้กับตัวเด็ก อีกทั้งพ่อแม่ควรระมัดระวังในการเดินทาง เพราะบนถนนจะมีผู้เมาสุรามากกว่าทุกวัน ทั้งนี้สาเหตุของความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันลอยกระทงนี้ หากทุกฝ่ายให้ความสำคัญ ไม่ประมาท และเอาจริงเอาจังกับเรื่องเหล่านี้ สถิติการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในวันลอยกระทงก็จะลดน้อยลง ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/Viewnews.aspx?NewsID=9560000142493 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 พ.ย.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
