ปภ.เตือนระวังภัย 'ไฟไหม้-จมน้ำ' ช่วงวันลอยกระทง

แสดงความคิดเห็น

ปภ.เตือนระวังอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ และอุบัติเหตุทางน้ำช่วงเทศกาลลอยกระทง แนะผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้ไปลอยกระทงตามลำพัง เตือนเล่นดอกไม้ไฟให้ปลอดภัย เสี่ยงไฟไหม้บ้าน เลี่ยงปล่อยโคมลอยใกล้ชุมชนและสนามบิน...

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 56 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ การจมน้ำ และเพลิงไหม้จากการปล่อยโคมลอย ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในการป้องกันอุบัติภัยใน วันลอยกระทง ดังนี้

อุบัติภัยทางน้ำ ลอยกระทงในสถานที่ปลอดภัย ท่าน้ำ และโป๊ะเรือต้องมั่นคง แข็งแรง ตลิ่งน้ำไม่สูงชัน เพื่อป้องกันการลื่นไถลพลัดตกน้ำ ดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้เด็กนำกระทงไปลอยน้ำด้วยตนเอง มิให้เด็กลงไปในน้ำเพื่อเก็บเงินใน กระทง เพราะเด็กอาจถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำ หรือเป็นตะคริวจากการอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้  

อุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ ห้ามดัดแปลงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้มีเสียงดังหรือแรงอัดสูง เพราะจะเกิดการระเบิดที่มีความรุนแรง ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในกระป๋องโลหะ ท่อพีวีซี ขวดแก้ว หรือนำภาชนะอื่นๆ มาปิดครอบพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟติดแล้ว เพราะจะส่งผลให้สะเก็ดไฟ หรือเศษภาชนะที่แตกกระจาย กระเด็นใส่ได้รับบาดเจ็บ ที่สำคัญควรเล่นพลุ ดอกไม้ไฟอย่างถูกวิธี และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จุดพลุดอกไม้ไฟในที่โล่งแจ้ง ห่างจากชุมชน เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟตกใส่บ้านเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟในลักษณะเสี่ยงอันตราย ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะบริเวณใกล้แนวสายไฟฟ้า สถานีบริการน้ำมัน วัตถุไวไฟ เพราะจะทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ ไม่เก็บพลุดอกไม้ไฟไว้ในที่ร้อน แสงแดดส่องถึง รวมถึงบริเวณที่มีประกายไฟ เพราะสะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปติดพลุ ดอกไม้ไฟทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ ห้ามนำพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟไม่ติดมาจุดซ้ำ หรือใช้ปากเป่าให้ไฟติด เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้

อุบัติภัยจากโคมลอย เลือกใช้โคมลอยที่ ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษชนิดบาง ไม้ไผ่ ขี้ผึ้ง เชือก เป็นต้น ซึ่งมีการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไม่ติดหรือประดับวัสดุตกแต่งที่มีคุณสมบัติติดไฟง่าย เพราะหากโคมลอยตกใส่บ้านเรือน จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยเฉพาะหากตกใส่สายไฟฟ้า จะส่งผลให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ รวมถึงไม่ใช้น้ำมันหรือแอลกอฮอล์บรรจุในภาชนะโลหะที่เป็นเชื้อเพลิง เพราะจะ ทำให้โคมลอยลอยในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานได้ และควรปล่อยโคมลอยในช่วงเวลาและบริเวณที่กำหนด

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอยใกล้แหล่งชุมชน เพราะหากโคมลอยตกใส่บ้านเรือนจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ห้ามปล่อยโคมลอยบริเวณโดยรอบสนามบิน หรือในช่วงที่มีเครื่องบินขึ้น–ลง เพราะจะรบกวนทัศนวิสัยในการบิน ท้ายนี้ หากประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนในการป้องกันอันตรายจากอุบัติภัยพลุ ดอกไม้ไฟ จมน้ำ และโคมลอย นอกจากจะช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติภัยแล้ว ยังเป็นการสืบทอดประเพณีลอยกระทงให้เป็นไปอย่างปลอดภัยด้วย.

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/382768 (ขนาดไฟล์: 167)

( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 พ.ย.56 )

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 พ.ย.56
วันที่โพสต์: 15/11/2556 เวลา 03:17:31

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

บรรยากาศ เทศกาลลอยกระทง ปภ.เตือนระวังอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ และอุบัติเหตุทางน้ำช่วงเทศกาลลอยกระทง แนะผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้ไปลอยกระทงตามลำพัง เตือนเล่นดอกไม้ไฟให้ปลอดภัย เสี่ยงไฟไหม้บ้าน เลี่ยงปล่อยโคมลอยใกล้ชุมชนและสนามบิน... เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 56 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ การจมน้ำ และเพลิงไหม้จากการปล่อยโคมลอย ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในการป้องกันอุบัติภัยใน วันลอยกระทง ดังนี้ อุบัติภัยทางน้ำ ลอยกระทงในสถานที่ปลอดภัย ท่าน้ำ และโป๊ะเรือต้องมั่นคง แข็งแรง ตลิ่งน้ำไม่สูงชัน เพื่อป้องกันการลื่นไถลพลัดตกน้ำ ดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้เด็กนำกระทงไปลอยน้ำด้วยตนเอง มิให้เด็กลงไปในน้ำเพื่อเก็บเงินใน กระทง เพราะเด็กอาจถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำ หรือเป็นตะคริวจากการอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้   อุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ ห้ามดัดแปลงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้มีเสียงดังหรือแรงอัดสูง เพราะจะเกิดการระเบิดที่มีความรุนแรง ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในกระป๋องโลหะ ท่อพีวีซี ขวดแก้ว หรือนำภาชนะอื่นๆ มาปิดครอบพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟติดแล้ว เพราะจะส่งผลให้สะเก็ดไฟ หรือเศษภาชนะที่แตกกระจาย กระเด็นใส่ได้รับบาดเจ็บ ที่สำคัญควรเล่นพลุ ดอกไม้ไฟอย่างถูกวิธี และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จุดพลุดอกไม้ไฟในที่โล่งแจ้ง ห่างจากชุมชน เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟตกใส่บ้านเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟในลักษณะเสี่ยงอันตราย ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะบริเวณใกล้แนวสายไฟฟ้า สถานีบริการน้ำมัน วัตถุไวไฟ เพราะจะทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ ไม่เก็บพลุดอกไม้ไฟไว้ในที่ร้อน แสงแดดส่องถึง รวมถึงบริเวณที่มีประกายไฟ เพราะสะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปติดพลุ ดอกไม้ไฟทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ ห้ามนำพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟไม่ติดมาจุดซ้ำ หรือใช้ปากเป่าให้ไฟติด เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้ อุบัติภัยจากโคมลอย เลือกใช้โคมลอยที่ ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษชนิดบาง ไม้ไผ่ ขี้ผึ้ง เชือก เป็นต้น ซึ่งมีการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไม่ติดหรือประดับวัสดุตกแต่งที่มีคุณสมบัติติดไฟง่าย เพราะหากโคมลอยตกใส่บ้านเรือน จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยเฉพาะหากตกใส่สายไฟฟ้า จะส่งผลให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ รวมถึงไม่ใช้น้ำมันหรือแอลกอฮอล์บรรจุในภาชนะโลหะที่เป็นเชื้อเพลิง เพราะจะ ทำให้โคมลอยลอยในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานได้ และควรปล่อยโคมลอยในช่วงเวลาและบริเวณที่กำหนด นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอยใกล้แหล่งชุมชน เพราะหากโคมลอยตกใส่บ้านเรือนจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ห้ามปล่อยโคมลอยบริเวณโดยรอบสนามบิน หรือในช่วงที่มีเครื่องบินขึ้น–ลง เพราะจะรบกวนทัศนวิสัยในการบิน ท้ายนี้ หากประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนในการป้องกันอันตรายจากอุบัติภัยพลุ ดอกไม้ไฟ จมน้ำ และโคมลอย นอกจากจะช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติภัยแล้ว ยังเป็นการสืบทอดประเพณีลอยกระทงให้เป็นไปอย่างปลอดภัยด้วย. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/382768 ( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 พ.ย.56 )