โครงการ'เพื่อนข้างห้องเตือนภัย'ใช้นกหวีดส่งสัญญาณช่วยเหลือ
ปัญหาโจรผู้ร้ายตระเวนก่อเหตุตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่อาศัยบ่อยครั้ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงเปิดโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" เปิดโครงการนำร่องตั้งแต่ปี 2551 ในพื้นที่ สน.หัวหมาก จากนั้นขยายเครือข่ายการปฏิบัติงานไปยัง สน.ต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ คาดว่าจะเดินหน้าต่อเนื่องถึงปี 2557 โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ความรับผิดชอบของ บก.น.4, บก.น.5 และบก.น.6
สำหรับท้องที่ สน.หัวหมาก ย่านรามคำแหง เป็นจุดศูนย์รวมที่พักที่หนาแน่นและมากที่สุด จึงใช้เป็นพื้นที่ในการนำร่องริเริ่มโครงการ ด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังภัยในหอพัก และชุมชนร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งเจ้าของหอพักผู้ประกอบการห้องเช่าต่างๆ โดยใช้ "นกหวีด" เป็นสัญลักษณ์ และอุปกรณ์สำคัญในการขอความช่วยเหลือ
โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ระหว่างตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สน.หัวหมาก และทางคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นได้ขยายเครือข่ายไปยังท้องที่ สน.อุดมสุข พร้อมประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตบางกะปิ สำนักงานเขตประเวศ รวมไปถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ก่อนขอความร่วมมือจากเจ้าของหอพักต่างๆ ที่กระจายอยู่ในย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ย่านหัวหมาก และมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ย่านบางนา เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดคดีอาชญากรรมที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินในทุกรูปแบบ
การเป่านกหวีดในลักษณะเสียงสั้นยาว หรือการเป่าเสียงยาวเท่ากับลมหายใจ เป็นการแสดงบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกับผู้ที่ประสบเหตุ เสียงดังของนกหวีดจะถือเป็นสัญญาณบอกเหตุร้ายให้แก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในหอ พักที่ร่วมโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" ได้รับรู้ทั่วกัน ทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย ถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนในหอพักต้องช่วยกันเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ หรือถ้าหากเหตุการณ์รุนแรงต้องรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจในพื้นที่นั้นๆ ให้นำกำลังเข้าช่วยเหลือระงับเหตุโดยเร็วที่สุด
พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.หัวหมาก บอกว่า โครงการเพื่อนข้างห้องเตือนภัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "หอพักติดดาว" โดยมีหลักการสำคัญให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกัน และสร้างจิตสำนึกให้ผู้อาศัยในหอพักมีความห่วงใยและดูแลช่วยเหลือกัน พร้อมกันนี้ยังให้แต่ละคนแลกหมายเลขโทรศัพท์กันไว้ เพื่อใช้โทรติดต่อขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุร้าย และยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการให้ข้อมูลข่าวสารและเฝ้าระวัง ในหอพัก เพื่อป้องกันปัญหาและภัยอันตรายต่างๆ ในพื้นที่ สน.หัวหมาก
"ตอนนี้มีหอพักเข้าร่วมโครงการ 224 แห่ง อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.หัวหมาก 149 แห่ง ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้แจกคู่มือปฏิบัติตามคำแนะนำระบบรักษา ความปลอดภัย เช่น แนะนำให้จัดทำสมุดลงบันทึกรายชื่อบุคคลเข้า-ออกอาคาร และควรที่จะต้องแลกบัตรประชาชนไว้ทุกครั้ง รวมถึงการกำหนดเวลาเข้า-ออกอาคารที่ชัดเจน ที่สำคัญที่สุดคือ หมายเลขโทรศัพท์ของโรงพัก เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจได้ทันที"
ผกก.สน.หัวหมาก บอกด้วยว่า นอกจากเจ้าของหอพักแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้พักอาศัยในการดูแลตัวเองให้ปลอดภัย และจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกันสร้างสัมพันธ์ที่ดี ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ตำรวจได้แจกนกหวีดให้ผู้พักอาศัย เพื่อใช้เป่าเป็นสัญญาณถ้าเกิดเหตุร้าย จะได้เป่าขอความช่วยเหลือจากเพื่อนข้างห้อง โครงการนี้จะเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้พัก อาศัยได้มาก เพราะมีทั้งเจ้าของหอพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคาร มีเพื่อนข้างห้องที่ช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้กันและกัน
ที่สำคัญคือ มีตำรวจคอยสนับสนุนดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินทางไประงับเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที
ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140107/176294.html (ขนาดไฟล์: 167)
(คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ม.ค.57)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
โครงการ\'เพื่อนข้างห้องเตือนภัย\'ใช้นกหวีดส่งสัญญาณช่วยเหลือ ปัญหาโจรผู้ร้ายตระเวนก่อเหตุตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่อาศัยบ่อยครั้ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงเปิดโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" เปิดโครงการนำร่องตั้งแต่ปี 2551 ในพื้นที่ สน.หัวหมาก จากนั้นขยายเครือข่ายการปฏิบัติงานไปยัง สน.ต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ คาดว่าจะเดินหน้าต่อเนื่องถึงปี 2557 โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ความรับผิดชอบของ บก.น.4, บก.น.5 และบก.น.6 สำหรับท้องที่ สน.หัวหมาก ย่านรามคำแหง เป็นจุดศูนย์รวมที่พักที่หนาแน่นและมากที่สุด จึงใช้เป็นพื้นที่ในการนำร่องริเริ่มโครงการ ด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังภัยในหอพัก และชุมชนร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งเจ้าของหอพักผู้ประกอบการห้องเช่าต่างๆ โดยใช้ "นกหวีด" เป็นสัญลักษณ์ และอุปกรณ์สำคัญในการขอความช่วยเหลือ โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ระหว่างตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สน.หัวหมาก และทางคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นได้ขยายเครือข่ายไปยังท้องที่ สน.อุดมสุข พร้อมประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตบางกะปิ สำนักงานเขตประเวศ รวมไปถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ก่อนขอความร่วมมือจากเจ้าของหอพักต่างๆ ที่กระจายอยู่ในย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ย่านหัวหมาก และมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ย่านบางนา เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดคดีอาชญากรรมที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินในทุกรูปแบบ การเป่านกหวีดในลักษณะเสียงสั้นยาว หรือการเป่าเสียงยาวเท่ากับลมหายใจ เป็นการแสดงบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกับผู้ที่ประสบเหตุ เสียงดังของนกหวีดจะถือเป็นสัญญาณบอกเหตุร้ายให้แก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในหอ พักที่ร่วมโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" ได้รับรู้ทั่วกัน ทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย ถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนในหอพักต้องช่วยกันเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ หรือถ้าหากเหตุการณ์รุนแรงต้องรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจในพื้นที่นั้นๆ ให้นำกำลังเข้าช่วยเหลือระงับเหตุโดยเร็วที่สุด พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.หัวหมาก บอกว่า โครงการเพื่อนข้างห้องเตือนภัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "หอพักติดดาว" โดยมีหลักการสำคัญให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกัน และสร้างจิตสำนึกให้ผู้อาศัยในหอพักมีความห่วงใยและดูแลช่วยเหลือกัน พร้อมกันนี้ยังให้แต่ละคนแลกหมายเลขโทรศัพท์กันไว้ เพื่อใช้โทรติดต่อขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุร้าย และยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการให้ข้อมูลข่าวสารและเฝ้าระวัง ในหอพัก เพื่อป้องกันปัญหาและภัยอันตรายต่างๆ ในพื้นที่ สน.หัวหมาก "ตอนนี้มีหอพักเข้าร่วมโครงการ 224 แห่ง อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.หัวหมาก 149 แห่ง ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้แจกคู่มือปฏิบัติตามคำแนะนำระบบรักษา ความปลอดภัย เช่น แนะนำให้จัดทำสมุดลงบันทึกรายชื่อบุคคลเข้า-ออกอาคาร และควรที่จะต้องแลกบัตรประชาชนไว้ทุกครั้ง รวมถึงการกำหนดเวลาเข้า-ออกอาคารที่ชัดเจน ที่สำคัญที่สุดคือ หมายเลขโทรศัพท์ของโรงพัก เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจได้ทันที" ผกก.สน.หัวหมาก บอกด้วยว่า นอกจากเจ้าของหอพักแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้พักอาศัยในการดูแลตัวเองให้ปลอดภัย และจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกันสร้างสัมพันธ์ที่ดี ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ตำรวจได้แจกนกหวีดให้ผู้พักอาศัย เพื่อใช้เป่าเป็นสัญญาณถ้าเกิดเหตุร้าย จะได้เป่าขอความช่วยเหลือจากเพื่อนข้างห้อง โครงการนี้จะเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้พัก อาศัยได้มาก เพราะมีทั้งเจ้าของหอพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคาร มีเพื่อนข้างห้องที่ช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้กันและกัน ที่สำคัญคือ มีตำรวจคอยสนับสนุนดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินทางไประงับเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140107/176294.html (คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ม.ค.57)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)